“อัครเดช” ย้ำมติพรรครวมไทยสร้างชาติ ปิดประตูนิรโทษกรรม ม.112 ทุกกรณี เผย 36 สส. เตรียมโหวตไม่รับร่างรายงานนิรโทษฯ ในการประชุมสภาพรุ่งนี้
วันที่ 23 ตุลาคม 2567 นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ราชบุรี ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยมติการประชุม สส. พรรครวมไทยสร้างชาติ หลังการประชุมพรรค ว่า การประชุมพรรคในครั้งนี้นำโดย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยมีรัฐมนตรี สส. และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของพรรคประชุมร่วมกัน
สำหรับการประชุมครั้งนี้ เป็นการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 24-25 ตุลาคม 2567 ซึ่งจะมีการหารือร่วมกันในประเด็นที่สำคัญ คือ รายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ที่มีค้างการลงมติในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ พรรครวมไทยสร้างชาติขอยืนยันในจุดยืนของพรรค ไม่รับร่างและโหวตไม่เห็นชอบกับรายงานฉบับนี้ เพราะรายงานมีความไม่สมบูรณ์ และเป็นรายงานแบบปลายเปิด ซึ่งได้มีเสนอความเห็นของการนิรโทษกรรมผู้ที่กระทำความผิดในมาตรา 112 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ไว้ 3 แนวทาง คือ
1. ไม่เห็นชอบให้มีการนิรโทษกรรมผู้กระทำความผิดตามมาตรา 112
2. เห็นชอบให้มีการนิรโทษกรรมผู้กระทำความผิดมาตรา 112
3. เห็นชอบให้มีการนิรโทษกรรมผู้กระทำความผิดมาตรา 112 โดยมีเงื่อนไขที่ทางคณะกรรมการที่ตั้งมาโดยเฉพาะกำหนดขึ้น
นายอัครเดช ระบุต่อไปว่า พรรครวมไทยสร้างชาติต้องการปิดประตูการนิรโทษกรรม มาตรา 112 และมีความเห็นว่าการยื่นผลรายงานที่มี 3 แนวทางเพื่อพิจารณาดำเนินการ อาจจะสร้างความชอบธรรมให้กับรัฐบาลได้ในอนาคต โดยการหยิบยกรายงานฉบับนี้ที่สภาผู้แทนราษฎรให้การรับรองใน 3 แนวทางไว้
...
“พรรครวมไทยสร้างชาติ เห็นชอบในแนวทางที่ไม่ให้มีการนิรโทษกรรม มาตรา 112 และไม่เห็นชอบใน 2 แนวทางที่เปิดช่องให้มีการนิรโทษกรรม มาตรา 112 โดยวิธีการลงมติในครั้งนี้จะนำไปสู่การปิดประตูการนิรโทษกรรม มาตรา 112 ในทุกกรณี”
ทั้งนี้ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 24 ตุลาคม 2567 หลังจากการหารือ และตั้งกระทู้ถาม สส. ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ทั้ง 36 คน จะร่วมกันลงมติไม่เห็นชอบกับรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม.