“ชูศักดิ์ ศิรินิล” ยืนกราน ส่วนตัวไม่รู้สึกกังวล ปมกกต. รับคำร้องยุบพรรค เหน็บ เป็นกฎหมายผิดธรรมชาติ มาจากผลพวงรัฐประหาร ลั่นอย่าให้การเมืองฉุดรั้งความเจริญ ด้าน “อดิศร” แนะองค์กรอิสระยึดหลักประชาธิปไตยไม่ใช่ตัวอักษร

วันที่ 19 ตุลาคม 2567 นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกฯ ฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึง กรณีกระแสข่าว คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับคำร้องยุบพรรคเพื่อไทยและ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเดิม กรณีถูกนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ครอบงำพรรคว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นคำร้อง ฟังจากสื่อว่าร้อง 6 พรรคที่ไปร่วมจัดตั้งรัฐบาลหลังจาก นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่ง เหมือนว่าไปจัดตั้งรัฐบาลกันที่บ้านนายทักษิณ เท่ากับถูกครอบงำการตั้งรัฐบาลอะไรทำนองนั้น ส่วนตัวไม่ได้วิตกกังวลอะไร ตนเคยบอกว่ามาตราพวกนี้เป็นผลพวงของการรัฐประหาร สมัยก่อนๆ ไม่มีมาตราเหล่านี้ เป็นกฎหมายที่ผิดธรรมชาติการเมือง ต้องถามว่าอดีตนายกฯ ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองเลย พรรคการเมืองร่วมรัฐบาลถูกครอบงำไหม ส่วนใหญ่กฎหมายพวกนี้จึงมีปัญหาทางปฏิบัติตลอดมา

“ผมว่าเอาเวลาเราไปใส่ใจกับการเลือกตั้งที่ไม่สุจริตจะดีกว่า ยิ่งการจัดตั้งรัฐบาลที่ผ่านมาก็ชัดเจน แคนดิเดตนายกฯ ต้องมาจากบัญชีที่พรรคการเมืองเสนอเท่านั้น พรรคแกนนำที่เสียงมากที่สุดก็มีเหลืออยู่สองคน ก็จำเป็นต้องคุยกันว่าจะเอาใคร จะคุยที่ไหนก็เอาที่สะดวก คุยกันว่าเป็นนายชัยเกษม นิติสิริ เช้าวันรุ่งขึ้นพรรคเพื่อไทยเสนอนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร อย่างนี้ก็ชัดเจนว่าเราเป็นตัวของตัวเอง มีความคิดอิสระ แล้วพรรคร่วมก็เอาตามนั้น จะครอบงำอะไร เอาเป็นว่าให้ดูประวัติศาสตร์ อย่าให้การเมืองมีปัญหา จนฉุดรั้งความเจริญของบ้านเมืองเหมือนในห้วงเวลาที่ผ่านมาดีกว่า” นายชูศักดิ์ กล่าว

...

“อดิศร” แนะองค์กรอิสระยึดหลักปชต.ไม่ใช่ตัวอักษร

ด้าน นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เป็นเรื่องของกกต. ที่รับลูกจากเหล่านักร้อง แต่ตนมองเรื่องประชาธิปไตยเป็นหลัก พรรคการเมืองเป็นสถานที่ที่ประชาชนเห็นตรงกันมาอยู่รวมกัน การที่ใครจะไปคุยกับใครเป็นหน้าที่และเป็นสิทธิ์ของพรรคการเมือง จึงไม่ใช่การครอบงำ และคนที่ถูกกล่าวอ้างคือนายทักษิณ ก็ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค ไม่ได้เป็นอะไรทั้งสิ้น แต่ละพรรคก็มีการบริหารโดยกรรมการบริหารพรรค นายทักษิณจึงไม่น่าจะมีอิทธิพลขนาดนั้น และเมื่อไม่ได้เสียงข้างมากพรรคเดียวก็ต้องหาเพื่อนมาร่วมรัฐบาล เป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งทุกยุคทุกสมัยเป็นแบบนั้น พรรคเพื่อไทยไม่กังวลถึงเรื่องนี้ และสส. ไม่เสียกำลังใจ เพราะเรามีประสบการณ์ถูกยุบมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พลังประชาชน อย่างไรก็ตามการเลือกตั้งประชาชนลงคะแนนมาหลายล้านเสียง อยู่ๆจะให้คนไม่กี่คนบอกให้หยุด อายประชาคมโลกเขา ตนว่าองค์กรอิสระควรจะวินิจฉัยในเรื่องต่างๆโดยยึดหลักประชาธิปไตย มากกว่าตัวอักษรที่เขาร้องไป ซึ่งประชาธิปไตยอยู่ที่เจตนารมณ์ของประชาชนไม่ใช่อยู่ตามตัวอักษรที่เขียนไว้บนกระดาษ