ฉากทัศน์ในงานฉลองวันเกิดครบรอบ 88 ปีของ “เนวิน ชิดชอบ” ผู้มีบารมีเหนือพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเจ้าตัวได้ขอเอาไว้ 3 อย่าง

ให้ “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

1.ให้เป็นนายกรัฐมนตรี

2.ให้ยิ่งใหญ่

3.ให้แข็งแรง

นั่นเป็นจิตปรารถนาอันบ่งบอกถึงทิศทางซึ่งเป็นอนาคตข้างหน้า “ศิษย์เอก” ของเขา ในฐานะ “ครูใหญ่” ที่ได้ปลุกปั้นมากับมือตนเอง

จากวันนั้นผ่านไป

“อนุทิน” ได้พา “เนวิน” เข้าพบ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า จนถึงวันนี้ยังไม่มีใครเปิดเผยว่าได้มีการพูดคุยอะไรกันบ้าง เพราะ “เสี่ยหนู” บอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัว

แต่ในทางเปิดเผย มีความเป็นไปได้ว่า “ครูใหญ่” ที่ไม่ได้พบกับ “ทักษิณ” หลังจากที่เกิดปัญหานำ สส.แหกวง “นายเก่า” ไปสนับสนุน “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” แห่งประชาธิปัตย์ เป็นนายกรัฐมนตรี

สร้างความแค้นเคืองใจยิ่งนัก

ก็คงถือโอกาสขอโทษขอโพยกัน รวมถึงเรื่องที่ “อนุทิน” และพรรคภูมิใจไทย คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าด้วยเรื่อง “จริยธรรม” นักการเมือง

อีกทั้งการที่ สว.สายสีน้ำเงิน โหวตการทำประชามติเป็นแบบ 2 ชั้น ซึ่งขัดแย้งกับสภาล่างที่หนุนให้ทำเพียงแค่ชั้นเดียวพอ

ถึงที่สุดคือขัดแย้งกับ “เพื่อไทย” อย่างชัดเจน...

ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่จะต้องเคลียร์กันให้ชัดเจน เนื่องจากเป็นพรรครัฐบาลด้วยกัน แต่ความเห็นต่างกันเช่นนี้

“เพื่อไทย” เสียหาย!

แน่นอนว่า “ภูมิใจไทย” ต้องชี้แจงแสดงเหตุว่าทำไมถึงต้องทำเช่นนั้น มิฉะนั้น จะเกิดปัญหาได้ น่าเชื่อว่าคำตอบจากภูมิใจไทยคือการได้รับสัญญาณระดับสูงว่าไม่ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะจะเป็นช่องทางให้พรรคประชาชนได้ประโยชน์

...

เพราะถือเป็นแนวทางที่ปิดทางเจริญเติบโตได้ทางหนึ่ง

อีกทั้งภูมิใจไทยก็คงไม่ต้องการแก้ไข เพราะรัฐธรรมนูญปี 60 นั้น เอื้อประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง สว.ที่ภูมิใจไทยกุมอำนาจไว้ทั้งหมด

และยังเป็นเรื่องของการแต่งตั้งบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ และการลดอำนาจอีกด้วย

หากไม่มีการแก้ไขทุกอย่างเหมือนเดิม จะทำให้ภูมิใจไทยมี “ดุลอำนาจ” เต็มที่ และพร้อมดูแลพรรคเพื่อไทยด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น “อนุทิน” ก็ไม่ต้องตอบคำถาม “เพื่อไทย” แต่ให้ “นายใหญ่” ว่าไปเอง

แน่นอนว่าในสภาพความเป็นจริงทางการเมือง “ทักษิณ” ไม่มีทางเลือกเป็นอย่างอื่น นอกจากต้องยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น

เพื่อให้รัฐบาลที่ “ลูกสาว” เป็นนายกรัฐมนตรีเดินหน้าต่อไปได้

ว่าไปแล้ว “เพื่อไทย” ก็ไม่ได้เสียอะไร เพียงแต่ต้องแสดงให้สังคมเห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญทำไม่ได้เพราะอะไร

ไม่ใช่ “เพื่อไทย” ไม่ต้องการแก้ไข

เพียงแต่รู้สึก “ดุลอำนาจ” เต็มๆ ที่เคยมีมานั้นลดน้อยถดถอยลงไปแล้ว!

“สายล่อฟ้า”

คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม