“รองนายกฯ ภูมิธรรม” เมินคำขู่พรรคแกนนำล่มสลาย ท้า อย่าอ้ำอึ้ง พูดมาเลยรัฐบาลมีปัญหาอะไร หยัน ไม่ต้องเตรียมรับมืออะไร มั่นใจ ทำตามกรอบกฎหมาย บอก เร็วไปเปลี่ยนนายกฯ ชี้ “แพทองธาร” เพิ่งทำงานเดือนเดียวเอง ระบุ ยังแก้น้ำท่วมได้ ยังไม่ติดขัด ถึงขั้นขอคำแนะนำ “บิ๊กป้อม”

วันที่ 8 ตุลาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ระบุ 7 โมงเช้าวันที่ 10 ต.ค. จะมีเหตุนำไปสู่การล่มสลายของพรรคแกนนำรัฐบาล จะมีการรับมืออะไรหรือไม่ ว่า ไม่ต้องมี เพราะยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ได้ยินที่นายไพบูลย์พูดก็ยังนั่งคิดอยู่ว่ามันมีอะไรที่รัฐบาลทำผิดหรือจะต้องล่มสลาย ซึ่งเราเดินหน้าทำงาน จะคาดการณ์อะไร อย่างไร ก็อยู่ที่ความเป็นจริง ตนยังไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร จะให้คำวิจารณ์หรือคำตอบก็ไม่ถูก เพราะไม่รู้ว่าคืออะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกหวั่นใจว่าจะเป็นเรื่องใหญ่อะไรหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่มี เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ต้องกังวล เรามีหน้าที่ทำงานอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องธรรมดา หลายท่านที่ว่ากันอย่างนั้นอย่างนี้ก็ไม่เกิด ตนว่าปัญหาสำคัญอยู่ที่รัฐบาล ถ้ารัฐบาลทำงานและยึดเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง คำนึงถึงข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัด ตนว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร วันนี้รัฐบาลทำงานหลายอย่าง ทั้งเรื่องน้ำท่วมที่ยังจ่ายเงินเยียวยาไม่ได้ ติดข้อกฎหมาย แต่เราพยายามทำให้ถูกตามกรอบของกฎหมาย

เมื่อถามว่า จะเกี่ยวกับเรื่องชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่เห็นน่ากังวลอะไร ตรงนั้นว่ากันไป ชั้น 14 ไม่ได้เกี่ยวกับรัฐบาล เมื่อถามอีกว่า มองว่าเป็นแค่คำขู่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ทราบว่าคิดอย่างไร ต้องไปถามนายไพบูลย์ว่า จริง ๆ ความหมายมันคืออะไร ไม่ต้องอ้ำอึ้งหรือปกปิดอะไร พูดออกมาเลย จะได้รู้ว่าสิ่งที่เราทำ เรื่องไหนมันมีปัญหา ถ้าจะเกิดขึ้นอย่างที่นายไพบูลย์ว่าจริง ๆ ถึงเวลาเรื่องราวที่เกิดขึ้นมันก็คงสะท้อน อย่างไรเดี๋ยวก็รู้แล้ว อะไรที่เป็นปัญหาเราจะได้รับรู้ หน้าที่เราคือให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม มีสิ่งใดที่เกิดขึ้นเราก็ดำเนินการแก้ไขตามนั้น

...

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่า ช่วงกลางเดือน ต.ค.จะมีการเปลี่ยนแปลงนายกฯ โดยเอานายกฯ คนนอก มีความเป็นไปได้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า อย่าไปคิดเลย ไปคิดก็ปวดหัว เพราะทุกอย่างควรจะเป็นไปตามกระบวนการ รัฐบาลเพิ่งจะมาทำงาน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เพิ่งจะมาทำงานได้ 1 เดือนเอง อะไรจะไปเร็วขนาดนั้น เมื่อถามว่า มีการวิเคราะห์กันว่า อาจจะมีโครงการนายกฯ คนละครึ่งหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า อย่าไปเดาเลย เดาแล้วปวดหัว หากมีประเด็นข้อกฎหมายที่ชี้ชัดก็ไปดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม

เมื่อถามว่า นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ออกมาร้องถึงกรณีนายกฯ แต่งตั้งนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นที่ปรึกษาของนายกฯ อาจจะเข้าข่ายเดียวกับกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ แต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่เห็นจะเข้าข่ายอะไร นายเรืองไกรก็มีสิทธิ์ร้อง แต่ถ้ามีปัญหากระบวนการยุติธรรมก็ดำเนินการ ถ้าไม่มีปัญหากระบวนการยุติธรรมก็ยกคำร้อง เมื่อถามอีกว่า ตอนนายเศรษฐาก็มั่นใจแบบนี้ มีความกังวลหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า การมั่นใจหรือไม่มั่นใจ ถ้าถามเรา เราปฏิบัติ ก็มั่นใจ ไม่คิดว่าอะไรที่เป็นปัญหา ถ้าเป็นปัญหาคงไม่ทำ ซึ่งอยู่ที่กระบวนการยุติธรรม

เมื่อถามย้ำว่า ได้มีการตรวจสอบแล้วก่อนที่จะมีการลงนามแต่งตั้งใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า แน่นอน ในการดำเนินการเราต้องดูอย่างถูกต้องและเหมาะสมทุกอย่าง เรากำลังทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ไม่อย่างนั้นถ้าเป็นแบบนี้ก็จะบริหารประเทศยาก ไม่ว่าใครจะมาก็จับผิดกันไปทุกเรื่อง ควรที่จะดูเจตนาว่าตั้งใจจะทำอะไร หรือมีความประสงค์จะทำให้ผิดกฎหมายหรือไม่ ขณะนี้คือการระดมพลทุกส่วน ทุกฝ่าย มาช่วยกันแก้ปัญหาของประเทศ ซึ่งมีวิกฤตการณ์หลายเรื่อง ไม่อยากให้เอาเรื่องเหล่านี้ไปทำให้การเดินหน้าของบ้านเมืองสะดุด ต้องขอความกรุณาให้เกิดบรรยากาศที่ดี และทำให้รัฐบาลเดินหน้าทำงานได้ดีกว่า เพราะประชาชนรู้สึกว่าบ้านเมืองเสียหายมามากแล้ว เขาอยากหลุดจากวิกฤตตรงนี้ให้เร็วที่สุด อยากให้ทุกคนยึดตรงนี้เป็นที่ตั้งและทุกอย่างจะเบาลง

เมื่อถามว่า มองอย่างไรกรณีที่นายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไปพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะทำให้บรรยากาศการเมืองดีขึ้นหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบว่าเขาได้เจอกัน เมื่อถามย้ำว่า แต่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ยอมรับว่าทั้งสองคนพบกัน นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ต้องถามนายอนุทินว่าไปเจอกันเรื่องอะไร ตนไม่ได้รับรู้ด้วย รัฐบาลเดินหน้าทำงานอย่างเดียว ไม่ได้คำนึงถึงอะไร ใครจะเจอกับใคร ไม่เจอกับใคร ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล เพราะรัฐบาลมีหน้าที่ทำตามนโยบายอย่างเดียว

เมื่อถามถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุในที่ประชุมพรรคพลังประชารัฐว่า เหตุการณ์น้ำท่วมหนัก เพราะรัฐบาลไม่มีความเป็นมืออาชีพ พร้อมกับยกตัวอย่างว่า สมัยที่เป็นรองนายกฯ มีปริมาณน้ำมากกว่านี้ยังสามารถบริหารจัดการได้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ต้องถาม พล.อ.ประวิตร เมื่อถามอีกว่า พล.อ.ประวิตรระบุว่า สามารถไปขอคำแนะนำได้ ในฐานะที่เคยดูเรื่องน้ำมาก่อน นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ติดขัดอะไร หากมีปัญหาก็อาจจะไปปรึกษา ซึ่งไม่ใช่เฉพาะ พล.อ.ประวิตร แต่ทุกคนที่มีความรู้