ที่สุด “เพื่อไทย” ก็ถอยกรูดยุติการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราว่าด้วยเรื่อง “จริยธรรม” นักการเมืองอ้างว่าไม่ได้เป็นคนริเริ่ม
สถานการณ์ไม่เหมาะสมประชาชนกำลังเดือดร้อนเนื่องจากน้ำท่วมต้องไปช่วยเหลือ เรื่องอื่นต้องพักไว้ก่อน
นั่นก็เป็นลีลาของนักการเมืองเพื่อไม่ให้เสียหน้า...ว่างั้นเถอะ
ความจริงที่เกิดขึ้นสังคมคงรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร ตอนที่จะแก้ไขก็เพราะอย่างนั้นอย่างนี้มีความจำเป็นเร่งด่วน
หนำซ้ำยังเพิ่มประเด็นเข้าไปอีกแบบว่าไหนๆ ก็ไหนๆ แก้ทั้งทีก็เอาให้คุ้มไปเลยทำให้ประเด็นแตกปลาย
ส่อเจตนาชัดเจนว่าเขาจะแก้ไขเพื่อตัวเองและพวกพ้อง
แต่เมื่อเริ่มแล้วแต่เห็นว่าเดินหน้าต่อไปไม่ได้ก็ต้องหยุด
ว่าไปแล้วเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญเคยบอกแล้วว่าไม่ใช่เรื่องเล่นๆที่จะทำได้ง่ายๆเพราะมันเกี่ยวพันกันไปหมด
อีกทั้งมีทั้งฝ่ายได้ประโยชน์และเสียประโยชน์
โดยเฉพาะการเป็นรัฐบาลผสมอย่างนี้ไม่มีใครยอมใครง่ายๆ และไม่มีพรรคไหนที่จะยอมเปลืองตัวสนับสนุนพรรคอื่นยิ่งเป็นพรรคใหญ่และแกนนำรัฐบาลอย่าได้ถือสิทธิ์เด็ดขาด
การที่ “เพื่อไทย” ต้องยอมถอนคันเร่งและยุติก็เพราะอ่านเกมแล้วคงไปไม่รอดแน่ ขืนถลำตัวมากกว่านี้อาจจะเกิดความเสียหายมาก
ไม่ใช่แค่เสียหน้าเท่านั้นแต่ยังทำให้รัฐบาลพังและนายกรัฐมนตรี (เด็กฝึกงาน) ต้องหมดอนาคตทางการเมืองได้
เท่าที่ประเมินดูแล้วน่าจะมาจาก 4 เหตุผล!
1.ประชาชนไม่เอาด้วย
2.พรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรคไม่เอาด้วยอย่างภูมิใจไทย รวมไทยสร้างชาติ ประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะภูมิใจไทยนั้นแสดงออกอย่างชัดเจนทั้งมติพรรคและหัวหน้าพรรคคือ “อนุทิน ชาญวีรกูล” ที่ประกาศตัวอย่างชัดเจน
เขาบอกว่าเป็นนักการเมืองต้องพร้อมที่จะให้ถูกตรวจสอบนี่เป็นวิถีชีวิตถ้าไม่พร้อมก็อย่าเข้ามาอยู่บ้านดีกว่า
...
“ได้คะแนนและหล่อ”...ไม่เบาเพื่อปูทางที่จะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีในอนาคตข้างหน้า
3. สว.ไม่เอาด้วยเพราะอย่างน้อยจะต้องได้เสียงสนับสนุน 70 เสียงขึ้น ปรากฏว่า 200 สว.นั้นอยู่เครือข่าย “สีน้ำเงิน” กว่า 140 คน การจะได้ 70 เสียงจึงเป็นไปไม่ได้
4.นักร้องประกาศแล้วว่าหากมีการเข้าชื่อเพื่อยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราว่าด้วยเรื่อง “จริยธรรม” ก็จะยื่นคำร้องทันที
เนื่องจากขัดรัฐธรรมนูญเพราะการแก้ไขอย่างนี้ทำเพื่อประโยชน์ตัวเองและพวกพ้องไม่ใช่เพื่อสร้างระบบการเมืองที่ดีงาม
ข้อนี้หากขืนเดินหน้าต่อไปและมีการยื่นร้องกล่าวโทษก็จะโดนลงโทษทั้งหมดตั้งแต่ผู้ที่ร่วมลงชื่อในญัตติขอแก้ไข
พรรคไหนลงชื่อด้วยก็โดนด้วย
ที่สำคัญคือหัวหน้าพรรค “เพื่อไทย” ในฐานะนายกรัฐมนตรีก็มิอาจรอดตัวไปได้เพราะเกี่ยวพันโดยตรง
นี่เป็นเงื่อนไขที่ทำให้ต้องถอยทัพ
ไม่ต้องไปรอให้แพ้เลือกตั้งพรรค “ประชาชน” หรอก...!
"สายล่อฟ้า"
คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม