“แต้มฟรี” มิอาจต้านยุทธการ “รุมกินโต๊ะ” เทียบกับกลศึกมหาสงครามสามก๊ก ขุนพลเฒ่าโชว์ตัดหัวขุนศึก “แห่ประจานผู้แพ้” ข่มขวัญแนวร่วมกองทัพฝั่งตรงข้าม อารมณ์ขบวนอำนาจอนุรักษ์นิยม ฝ่ายต้านกองทัพส้ม ชิงรัวกลอง ชัยชนะสมรภูมิเลือกตั้งเมืองสองแคว ขย่มซ้ำพรรคประชาชนที่พ่ายแพ้ให้กับพรรคเพื่อไทย
โชว์ความเกรียงไกรป้อมค่ายการเมืองเก่า ข่มขวัญเด็กรุ่นใหม่ให้ฝ่อ
ตามอาการต้องรีบสะบัดธงสู้ต่อ ไม่ท้อ “เดอะป๊อก” นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า รีบปลุกขวัญลูกทัพให้ถอดบทเรียนความพ่ายแพ้
เตรียมพร้อมสู้กับการสนธิกำลังของ “ชนชั้นนำ 3 ฝ่าย”
แฉเกมผนึกกำลังต้านพรรคประชาชน อันประกอบไปด้วย ชนชั้นนำดั้งเดิมจารีต ชนชั้นนำการเมืองจากทุกค่าย ชนชั้นนำทางเศรษฐกิจ ที่จะนำ “พิษณุโลกโมเดล” ไปขยายผล ในการเลือกตั้งใหญ่ สส.ทั่วประเทศ
แพ้แล้ว แพ้อีก “ยักไหล่” ไม่ไหว แต่จะไม่ยอมแพ้ต่อ
เพราะเห็นกลศึก โฟกัสเหตุที่นำมาซึ่งความแพ้ต่อเนื่องของกองทัพส้ม ไล่ตั้งแต่สนามเลือกตั้งนายก อบจ.ราชบุรี มาถึงศึกเลือกตั้งซ่อม สส.เมืองสองแคว
การสู้ด้วยสองมือเปล่า สองเท้าเดิน ยังไม่พอรบในตำบลกระสุนตก
“แต้มฟรี” ไม่พอสู้กับ “พลังจัดตั้ง” ระบบหัวคะแนน ยิ่งสแกนลึกถึงชั้น “หินแกรนิต” ธรรมชาติการเลือกตั้งแบบไทยๆ ที่กลายเป็นการไหลรวมการ “เฉพาะกิจ” ของขบวนโหนอำนาจอนุรักษ์นิยม ที่ยังทรงพลังในระบบ “อุปถัมภ์” ยึดโยงกันด้วยผลประโยชน์ร่วม
ภารกิจปกป้อง “หม้อข้าว” ไม่ให้เด็กทุบทำลาย ณ จุดที่พรรคเพื่อไทยแท็กทีมค่ายภูมิใจไทย ค่ายรวมไทยสร้างชาติ พรรคประชาธิปัตย์ “กองกำลังกบฏผู้กอง” ค่ายพลังประชารัฐ
...
จัดสรรปันส่วนเค้กลงล็อก “ฮั้ว” กันลงตัว
โดยมีพรรคข้าราชการ กองทัพ ตำรวจ ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นตัวช่วย “ล็อกเสียง” ที่ทรงประสิทธิภาพ ผนึกกับแนวร่วมมวลชนแดง เหลือง สลิ่ม กปปส. สลายสี
“สมานฉันท์รุมกินโต๊ะส้ม” ยกระดับโจทย์โหดหินในสนามเลือกตั้ง
โดยลำพังพรรคประชาชนที่มีแค่สองมือเปล่า สองเท้าก้าวเดิน ปั่นจักรยานเคาะประตูบ้าน อาศัย “หัวคะแนนธรรมชาติ” ที่ผลุบๆโผล่ๆ
กองเชียร์โซเชียลมีเดียที่วูบวาบ เสียงดี แต่ไม่มีคะแนน
จังหวะฮึดของกองกำลังหามแห่ถดถอยไปตามแกนนำพรรคระดับตัวพ่อ ตัวแม่ โดนล็อกออกไปอยู่นอกสนาม เจอพิษ “นิติสงคราม” แบนยาว
สภาพการณ์ยังห่างไกลเป้าหมายพอๆกับกรุงเทพฯ-ปารีส
แผนกองทัพส้มหวังชิงอำนาจประเทศไทย ล้มการเมืองเก่าอำนาจอนุรักษ์นิยม ลุ้นเดิมพันเลือกตั้งใหญ่รอบหน้า 250 ที่นั่ง
เกินครึ่งสภาผู้แทนราษฎร ตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ ยังห่างไกลความจริง
แต่ครั้นจะเหมาทึกทัก “พิษณุโลกโมเดล” ดับความฝันการเมืองรุ่นใหม่
ในเครื่องหมายคำถาม เซียนคณิตศาสตร์เลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ป้อมค่ายฝ่ายอนุรักษ์นิยม กล้าปักใจเชื่อโดยสนิทใจจริงๆ หรือกับการเลือกตั้งซ่อมที่มีตัวเลขผู้ใช้สิทธิบางตา แค่ร้อยละ 50 กว่าๆ
มีแค่คนสูงวัยเป็นส่วนใหญ่ พื้นที่ค่ายทหาร ขณะที่คนหนุ่มสาว
วัยแรงงาน ทำงานอยู่กรุงเทพฯ ไม่ได้เดินทางกลับไปลงคะแนน เพราะไม่คุ้มกับการเดินทางเสียเวลา ขณะที่ “แต้มฟรี” ของทีมส้ม ก็ยังได้มา 3 หมื่นกว่าคะแนน หายไป 1.7 หมื่นคะแนนในการเลือกตั้งใหญ่ รอบที่ผ่านมา
ถ้าศึกเลือกตั้งใหญ่รอบต่อไป กระแสคนตื่นตัวเต็มที่ตามฤดูกาล
ยากต่อเกมจัดตั้ง ไม่ง่ายกับการล็อกเป้าตำบลกระสุนตก “พิษณุโลกโมเดล” สู้กับ “พลังแฝง” ในสังคมไทย ที่ฝากความหวัง “อุดมการณ์บริสุทธิ์ของเด็ก” ล้าง “การเมืองเก่า”
พร้อมระเบิดขึ้นมาตอนไหนก็ได้ โดยไม่อาจคาดเดา
จึงไม่แปลกที่ “หนุ่มทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ตัวพ่อด้อมส้ม มองการเมืองคือเกมยาว ต้องใช้ยุทธศาสตร์และความมานะมีแพ้ชนะเป็นปกติ
ชนะอาจไม่ใช่จุดหมาย แพ้อาจไม่ใช่ปลายทาง ยังต้องสู้กันอีกหลายยก
ขุนศึกกองทัพส้มไม่ตื่นตูมกับกลศึกข่มขวัญ แห่ประจานศัตรูพ่ายแพ้.
ทีมข่าวการเมือง
คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม