รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ “นริศ ขำนุรักษ์” ดอดเข้าตึกชินวัตร 3 ส่งรายชื่อ 2 รมต.โควตา ปชป.ให้เพื่อไทย มั่นใจคุณสมบัติคนที่จะมาดำรงตำแหน่ง เชื่อรัฐบาลอยู่ครบเทอม บอก “นักร้อง” เตรียมยื่นเป็นเรื่องธรรมดา มองคนสาธารณะถูกตรวจสอบ ย่อมได้เสมอ
วันที่ 30 ส.ค. 2567 เมื่อเวลา 11.40 น. ภายหลังที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์มีมติเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย หลังถูกเทียบเชิญให้เข้าร่วมรัฐบาล ซึ่งเช้าวันนี้นายนริศ ขำนุรักษ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางเข้าอาคารชินวัตร 3 ถนนวิภาวดี ซึ่งเป็นที่ทำการชั่วคราวของพรรคเพื่อไทย เพื่อนำรายชื่อผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ในสัดส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ให้กับพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำรัฐบาล พร้อมกล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจากนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อนำรายชื่อทั้ง 2 คนที่จะเข้าร่วมรัฐบาล มาส่งให้กับพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นรายชื่อที่มีมติจากที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์เมื่อวานนี้ (29 ส.ค. 67) ซึ่งเมื่อคืนก็มีการประชุมจนดึก จึงได้เดินทางมาส่งหนังสือในวันนี้ และได้มีการประสานงานกับนายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทยแล้ว แต่เนื่องด้วยนายสรวงศ์ ติดภารกิจลงพื้นที่จังหวัดสุโขทัย พร้อมกับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
นายนริศ กล่าวอีกว่า กระบวนการนับจากนี้จะมีการตรวจสอบคุณสมบัติตามขั้นตอน ซึ่งรายชื่อที่นำมาส่งวันนี้เป็นไปตามมติของพรรคประชาธิปัตย์ คือ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ส่วนมีความมั่นใจหรือไม่ในเรื่องของคุณสมบัติว่าจะไม่มีปัญหาตามมาภายหลัง นายนริศ กล่าวว่า เรื่องนี้หัวหน้าพรรคได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้วเมื่อวานว่า มีความมั่นใจในทั้ง 2 รายชื่อ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ
...
ส่วนที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ภายหลังที่พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย นายนริศ กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา เพราะเราเป็นทั้งฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาลมาแล้ว เป็นระยะเวลายาวนานมาก ซึ่งมีกระแสเช่นนี้เกิดขึ้นทุกครั้ง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าแบบนี้จะหมายถึงว่า “ไม่มีมิตรแท้ และศัตรูที่ถาวรใช่หรือไม่” นายนริศ ระบุว่า ไม่เป็นเช่นนั้น เพราะการร่วมรัฐบาลครั้งนี้ พรรคจะผลักดันนโยบายของพรรค
ส่วนความมั่นใจว่า รัฐบาลจะอยู่ครบเทอมในอีก 3 ปีที่เหลือ นายนริศ กล่าวว่า อยู่ที่การทำงานของรัฐบาลชุดนี้เป็นสำคัญ หากทำงานได้ตามนโยบายและประชาชนพึงพอใจ โอกาสที่จะอยู่จนครบวาระก็มีความเป็นไปได้
ขณะที่มีบุคคลเตรียมร้องเรียนเรื่องคุณสมบัติรัฐมนตรี ซึ่งอาจเป็นเหตุให้นายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งนั้น นายนริศ ยอมรับว่าเรื่องนี้ก็เยอะจริง ๆ แต่ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งก็ต้องมีความหนักแน่น เพราะการตรวจสอบบุคคลสาธารณะ สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ