"พัชรวาท" นั่งหัวโต๊ะเป็นประธานบูรณาการร่วมภาครัฐ-เอกชน พิจารณาโครงการกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน-กรอ.เคาะ 27 โครงการ เตรียมชงเข้า ครม.สัญจรอยุธยา
เมื่อวันที่ 14 ส.ค.67 ที่ห้องประชุมอารีย์สัมพันธ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะกำกับดูแลพื้นที่ภาคกลางตอนบน เป็นประธานการประชุมการบูรณาการร่วมภาครัฐและเอกชน เพื่อพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน (จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ชัยนาท จ.ลพบุรี จ.สระบุรี จ.สิงห์บุรี และ จ.อ่างทอง) โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดหรือผู้แทนจาก 5 จังหวัด ผู้แทนกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม โดยที่ประชุมได้รับทราบการจัดทำข้อเสนอประเด็น และวาระการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน พร้อมทั้งพิจารณาข้อเสนอการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน และการพิจารณาข้อเสนอโครงการสำคัญ ที่เป็นความต้องการของภาคีการพัฒนา (กรอ.)
พล.ต.อ.พัชรวาท เปิดเผยว่า ในที่ประชุมได้มีการพิจารณาตามที่กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน และจังหวัดเสนอประเด็นปัญหาและโครงการที่จะขอรับการพิจารณาในการประชุม ครม.สัญจร ที่อยุธยา โดยมีข้อเสนอประเด็นการพัฒนากลุ่มจังหวัดฯ และจังหวัดในกลุ่ม แบ่งเป็นโครงการที่มีความพร้อม และดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 1 ปี นำเสนอโดยผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในฐานะหัวหน้ากลุ่มจังหวัด โดยที่ประชุมได้เห็นชอบหลักการโครงการของจังหวัด และกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน จำนวน 13 โครงการ และให้จังหวัดและกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน ขอรับการจัดสรรจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นตามขั้นตอนของกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้จังหวัดและกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน นำโครงการบรรจุไว้ในแผนพัฒนาจังหวัด และแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดตามขั้นตอนต่อไป
...
พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบข้อเสนอของภาคเอกชน (กรอ.กลุ่มจังหวัด) สำหรับโครงการที่มีความพร้อมและดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 1 ปี จำนวน 14 โครงการ โดยให้ส่วนราชการที่เป็นหน่วยงานเจ้าของโครงการ ขอรับการจัดสรรจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจากเป็นตามขั้นตอนของกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด และให้หน่วยงานเจ้าของโครงการเร่งจัดทำข้อเสนอโครงการ โดยให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าและผลประโยชน์ ที่คาดว่าจะได้รับจากการใช้จ่ายงบประมาณอย่างรอบคอบ รวมทั้งให้จังหวัดและกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน นำโครงการบรรจุไว้ในแผนพัฒนาจังหวัดและแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดตามขั้นตอนต่อไป สำหรับโครงการกิจกรรมที่เหลือที่เป็นข้อเสนอของภาคเอกชน ให้สำนักงานสภาพัฒน์ฯประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณา เพื่อบรรจุไว้ในแผนการปฏิบัติราชการประจำปีของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และขอรับการจัดสรรงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป