สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภานัดถก สว. นัดแรก 23 ก.ค. เคาะชิงตำแหน่งประธาน-2 รองประธาน “นันทนา” แถลงจุดยืน 30 สว. สายพันธุ์ใหม่ผนึกกำลังกอบกู้สภาสูง ส่งคนชิง 3 เก้าอี้ ลั่นแนวทางเสรีนิยมก้าวหน้า ยกประชาชนเป็นศูนย์กลาง ตั้งแท่นประเดิมงานแรกดันแก้ รธน.หมวดการได้มาซึ่ง สว. รื้อกติกา วิปริต นายกฯประชุมบอร์ดดิจิทัลวอลเล็ต ดีเดย์ลงทะเบียน 1 ส.ค. “จุลพันธ์” แจงห่วงขัดวินัย พ.ร.บ.วินัยการคลังฯ ไม่แตะวงเงินของ ธ.ก.ส. ไปใช้งบฯ ปี 67-68 ปั่นพายุหมุนเศรษฐกิจ สภาฯรับลูกเร่งถกงบฯเพิ่มเติม 1.22 แสนล้านบาท ลุยแจกเงินหมื่น “ภูมิธรรม” แย้ม “ทักษิณ” จ่อร่วมงานพรรค พท.หลังพ้นมลทินเดือน ส.ค. “เศรษฐา” ออกตัวยังไม่คิดดึงมาเป็นที่ปรึกษา “พปชร.” เจ้าภาพดินเนอร์กระชับมิตรพรรคร่วมฯ “ธรรมนัส” แจง “ลุงป้อม” มอบดูแลเพื่อนร่วมทางแทน

สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภานัดประชุมวุฒิสภานัดแรกในวันที่ 23 ก.ค. เพื่อให้ สว.ทั้ง 200 คนกล่าวคำปฎิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่ และเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภา โดยกลุ่ม สว.สายพันธุ์ใหม่ นำโดย น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว.อ้างมีสมาชิก 30 คน รวบรวมเสียงร่วมกับกลุ่มอื่นกอบกู้ สว. เพื่อส่งตัวแทนชิงประธานวุฒิสภา รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 และรองประธานวุฒิสภาคนที่ 2

...

นัดเลือกประธานวุฒิสภา 23 ก.ค.

เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่รัฐสภา น.ส.นภาภรณ์ ใจสัจจะ เลขาธิการวุฒิสภา กล่าวถึงขั้นตอนหลังจากที่ สว. เข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาครบแล้วว่า สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้แจ้งไปยัง สว. ให้เข้าประชุมวุฒิสภานัดแรกวันที่ 23 ก.ค. มีวาระคือการกล่าวคำปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่ และการเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภา การประชุมวุฒิสภานัดแรกตามข้อบังคับต้องให้ สว.ที่มีอาวุโสสูงสุดขึ้นทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมชั่วคราว เบื้องต้นผู้มีอาวุโสสูงสุดคือ พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี หากวันประชุม พล.ต.ท.ยุทธนาไม่อยู่ในที่ประชุม ต้องให้ สว.อาวุโสลำดับถัดไปคือนายแล ดิลกวิทยารัตน์ ทำหน้าที่ หลังการเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภาแล้ว จะแจ้งมติไปยังนายกฯนำความขึ้นทูลเกล้าฯแต่งตั้ง เมื่อได้รับการโปรดเกล้าฯแล้ว จะกำหนดประชุมวุฒิสภานัดถัดไป คาดว่าอาจเป็นวันที่ 30 ก.ค. ที่มี สว.อยากให้นัดสัมมนาทำความรู้จักกันก่อน ปกติสำนักงาน จะจัดสัมมนาหลัง สว.เข้าทำหน้าที่แล้ว การนัดพบปะกันก่อนการโหวตเลือกขึ้นอยู่กับสมาชิกจะดำเนินการ ขณะที่การตรวจสอบประเด็นวุฒิการศึกษาของ สว.บางรายที่ถูกมองไม่ใช่ของจริง ตามรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบ แต่สำนักงานให้ฝ่ายกฎหมายวิเคราะห์ความเห็นว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

สว.พันธุ์ใหม่ส่งชิง 3 เก้าอี้สภาสูง

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่รัฐสภา น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. แถลงถึงจุดยืนและแนวทางการทำงานของกลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ว่า กลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่มีอยู่ประมาณ 30 คน บางส่วนทยอยรายงานตัวไปก่อนหน้านี้ตามความสะดวกแต่ละคน มีจุดยืนคือ ยึดแนวทางเสรีนิยมก้าวหน้า มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง เป็น สว.รุ่นใหม่ที่เป็นของประชาชนและรับใช้ประชาชน งานแรกที่จะเริ่มคือ กติกาการได้มาซึ่ง สว.ที่ไม่ปกติ เป็นกติกาวิปริต จึงจะเสนอแก้รัฐธรรมนูญหมวดการได้มาซึ่ง สว. ตลอดจนการผลักดันปัญหาของประชาชน เช่น ปัญหาที่ดินอุทยานแห่งชาติทับลาน ความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ การถูกจองจำของเยาวชนโดยไม่ได้ประกันตัว จะรีบผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

ลั่นผนึกกำลังกอบกู้ภาพลักษณ์ สว.

เมื่อถามว่าจะสู้กับ สว.กลุ่มบ้านใหญ่ที่มีเสียงข้างมากอย่างไร น.ส.นันทนาตอบว่า คงไม่สู้แบบนั้น แต่ด้วยอุดมการณ์ที่มารวมตัวกันตั้งแต่ตอนต้น คนที่ผ่านเข้ามาคือผู้รอดจะร่วมมือกับ สว.คนอื่น เพื่อกอบกู้ สว. แม้กลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่มีจำนวนไม่มาก แต่จะแสดงคุณภาพ ศักยภาพให้ทุกคนเห็น มีความคิดจะส่งชิงทั้ง 3 ตำแหน่งคือ ประธานวุฒิสภา รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 และรองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 แต่ขอเก็บชื่อไว้เป็นความลับจนเกือบใกล้ๆ ประชุมวุฒิสภา เพื่อเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภาจึงจะเปิดเผยชื่อ เชื่อมั่นในคุณภาพและศักยภาพ การแสดงวิสัยทัศน์ จะได้รับเสียงสนับสนุนจาก สว.คนอื่นๆ และเห็นด้วยและสนับสนุนให้โควตาสัดส่วนสตรี เพื่อเปิดพื้นที่ให้กับผู้หญิงมีพื้นที่ในทางการเมือง

อ้ำอึ้งสมาชิกในกลุ่มไม่แน่นอน

เมื่อถามว่า ส่วนตัวสนใจจะชิงตำแหน่งใน 3 ตำแหน่งนี้หรือไม่ น.ส.นันทนาตอบว่า แล้วแต่สมาชิก ส่วนตัวไม่ทราบว่าจำนวนสมาชิกในกลุ่มในอนาคตจะลดหรือเพิ่มขึ้นหรือไม่ แต่กลุ่มเราอยู่ด้วยจุดยืนและอุดมการณ์ ไม่ได้จัดการรูปแบบบริษัท ผู้สื่อข่าวถามว่า นายบุญส่ง น้อยโสภณ สว. ถือเป็นตัวแทนกลุ่มสว.พันธุ์ใหม่หรือไม่ น.ส.นันทนาตอบว่า เป็นพันธมิตรของเรา เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่านายบุญส่งไม่ได้อยู่ในกลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ เพราะเป็นเพียงพันธมิตร น.ส.นันทนาตอบว่า เรารวมกันมาตั้งแต่ต้น แต่คนที่จะเข้าร่วมเข้ามาในทิศทางและจุดยืนที่สอดคล้องกัน เมื่อถามว่านายบุญส่งเข้าๆออกๆกลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่หรือไม่ น.ส.นันทนาตอบว่า ไม่แน่ใจเช่นกัน การเข้ามาในกลุ่มจะมีกลุ่มที่เป็นกลุ่มสารตั้งต้น กลุ่มที่เข้ามาร่วมแนวทางร่วมอุดมการณ์ ส่วนการวิจารณ์เรื่องวุฒิการศึกษาของ สว.นั้น ต้องเข้าใจ สว.เป็นบุคคลสาธารณะย่อมตรวจสอบได้ โดยเฉพาะช่วงนี้ กกต.เพิ่งรับรองเบื้องต้น ยังสามารถสอยได้ภายหลัง คนทั่วไปจึงสามารถส่งหลักฐานการตรวจสอบเข้าไปให้ กกต.ได้

200 สว.ป้ายเเดงรายงานตัวครบ

ที่รัฐสภา สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา (สว.) เปิดรับรายงานตัวสมาชิก สว.ชุดใหม่เป็นวันสุดท้ายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย กลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ที่เหลืออีก 14 คน นำโดย น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. ทยอยเข้ามารายงานตัวตามคาด มี สว.บางส่วนที่รายงานตัวไปแล้ว แต่มาตามนัดเพื่อรับบัตรประจำตัว สว. เนื่องจากเครื่องทำบัตรฯชำรุดในวันรายงานตัววันแรก อาทิ พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สว.ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเรื่องวุฒิการศึกษา แต่ปฏิเสธจะให้สัมภาษณ์อ้างไม่สะดวก จากนั้นเวลา 16.30 น. สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาแจ้งสรุปยอด สว.มาแสดงตนครบ 200 คนแล้ว

เลขาฯสภาฯ ปัดไม่มีหน้าที่เช็กปริญญา

ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แถลงถึงกรณีนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.โพสต์เฟซบุ๊กระบุหน้าแรกของเว็บไซต์ของ California University FCE เคลมว่า รัฐสภาไทยได้ยอมรับปริญญาบัตรของ California University FCE มีศักดิ์และสิทธิเทียบเท่าปริญญาบัตรที่ออกโดยมหาวิทยาลัยของรัฐในประเทศ ไทยว่า ขอยืนยันว่าสำนักเลขาธิการสภาฯ ไม่มีอำนาจรับรองปริญญาบัตรของสถาบันแห่งใดทั้งในและต่างประเทศเรื่องคุณสมบัติ หรือหากพิจารณาคุณสมบัติของ สส.หรือ สว.ก็ดี รัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดคุณสมบัติของการศึกษาไว้ เราจึงไม่ตรวจสอบ เพียงแค่สมาชิกมารายงานตัวแล้ว ต้องแนบเพื่อเป็นข้อมูลประกอบ กรณีดังกล่าวจึงเป็นข้อความที่ไม่น่าจะถูกต้อง เมื่อถามว่าคุณสมบัติของ พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สว. เคยเป็นคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ของสภาฯ จะย้อนไปตรวจสอบวุฒิปริญาได้หรือไม่ ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ตอบว่า เป็นส่วนของวุฒิสภา ไม่ขอก้าวล่วง

ร้อง อว.ไขปม สว.ใช้ ศ.นำหน้าชื่อ

ที่สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ถนนศรี อยุธยา นายวีรชัย พุทธวงศ์ เลขาธิการศูนย์ประสานงานบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ และนายศิวัช พงษ์เพียจันทร์ ผอ.ศูนย์วิจัยและพัฒนาการป้องกันและจัดการภัยพิบัติ คณะพัฒนาสังคมและยุทธศาสตร์การบริหาร สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ยื่นหนังสือให้ น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.อว. พิจารณาดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งกรณีมีผู้ใช้ตำแหน่งศาสตราจารย์เพื่อสมัครเข้ารับการสรรหา สว.นำหน้าชื่อทำให้สังคมไทยเข้าใจผิดว่าเป็นการได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย มีนายวันนี นนท์ศิริ ผู้ช่วยปลัดกระทรวง อว.เป็นผู้แทนรับหนังสือ

“หมอเกศ” ยื่นเอกสารเพิ่ม-ชิ่งหนีสื่อ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากอาคารรัฐสภาว่า เมื่อเวลา 13.30 น. พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สว.มายื่นเอกสารเพิ่มเติมที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาและรับบัตรประจำตัว สว. โดย พญ.เกศกมลใส่เสื้อสีขาวสวมสูททับ ใช้เวลายื่นเอกสารและรับบัตรไม่เกิน 10 นาที ก่อนเดินออกทางประตูด้านหลังห้องรายงานตัวเดินทางกลับทันที โดยขึ้นรถยนต์ยี่ห้อเมอร์เซเดส เบนซ์ สีขาว ทะเบียน 7474 กรุงเทพ มหานคร ออกไปทันที หลีกเลี่ยงการเจอผู้สื่อข่าวที่มาดักรออยู่ที่ประตูด้านหน้าห้องรายงานตัว แม้ผู้สื่อข่าวพยายามโทรศัพท์ไปสอบถามเพิ่มเติม แต่ พญ.เกศกมลปฏิเสธให้สัมภาษณ์ระบุว่าได้ออกจากอาคารรัฐสภาแล้วมีภารกิจต่อไม่สามารถให้สัมภาษณ์ได้ และไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ก่อนวางสายทันที

DPU แจง “หมอเกศ” ไม่ใช่อาจารย์

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า วันเดียวกัน มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ออกแถลงการณ์เผยแพร่ระบุว่า ตามที่มีภาพและข้อความแพร่ในอินเตอร์เน็ตว่า พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัยจะได้เป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ และทางมหาวิทยาลัยเปิดโอกาสให้ทำตำแหน่งทางวิชาการ (ศาสตราจารย์) มหาวิทยาลัยขอชี้แจงว่าภาพดังกล่าวเป็นภาพเหตุการณ์ซ้อมฝึกอบรมดับเพลิงฯเมื่อเดือน มิ.ย.ปี 2566 ซึ่ง พญ.เกศกมล มาร่วมในฐานะคณะกรรมการตรวจและติดตามการบริหารงานตำรวจ ขอยืนยันว่า พญ.เกศกมล “ไม่เคยเป็นอาจารย์” ของมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ พญ.เกศกมลไม่เคยขอตำแหน่งทางวิชาการใดๆผ่านมหาวิทยาลัย

เผย 2 ทางออกส่งศาล รธน.ชี้ขาด

ผู้สื่อข่าวรายงานจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า แนวทางดำเนินการกรณีที่มีการวิพากษ์ วิจารณ์เกี่ยวกับวุฒิปริญญาเอกของ พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สว.นั้น เนื่องจาก พญ.เกศกมลได้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามจาก ผอ. การเลือกระดับอำเภอมาจนได้รับการเลือกเป็น สว. และ กกต.ได้ประกาศผลการเลือก สว.ไปแล้ว ดังนั้น หากเห็นว่า สว.คนใดยังมีปัญหาในเรื่องคุณสมบัติ หรือลักษณะต้องห้ามสามารถดำเนินการได้ 2 แนวทางตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ดังนี้ (1) สว.จำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของจำนวน สว.เท่าที่มีอยู่เข้าชื่อร้องต่อประธานวุฒิสภา เพื่อส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และ (2) หาก กกต.เห็นว่า สว.คนใดมีลักษณะดังกล่าวสามารถส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้เช่นกัน

นายกฯย้ำสกัดทุจริตดิจิทัลวอลเล็ต

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ครั้งที่ 4/2567 มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและ รมว.คลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา และตัวแทนหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าร่วม ต่อมาเวลา 11.20 น. นายเศรษฐาแถลงว่า การประชุมยาวมีรายละเอียดมาชี้แจงทำให้กระจ่างขึ้น ไม่ว่าประเภทของสินค้าหรือหลายอย่าง นายจุลพันธ์จะแถลงไม่ได้สั่งการอะไรพิเศษเป็นการตอกย้ำความชัดเจนและการป้องกันการทุจริตประพฤติมิชอบ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.มาด้วย ส่วนแหล่งเงินไม่เอาเงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กลับไปใช้งบฯปี 67-68 เดี๋ยวจะชี้แจง

คาดใช้เงินน้อยลงห่วงขัดวินัยไม่ยุ่ง ธ.ก.ส.

ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต มีมติเห็นชอบโครงสร้างแหล่งที่มาของเงินใหม่ สาเหตุที่ปรับเปลี่ยนเนื่องจากดำเนินการตามข้อห่วงใยของหน่วยงานที่ตรวจสอบ แต่ไม่ได้ลดขนาดโครงการยังคงเป็น 50 ล้านคนเหมือนเดิม และเมื่อดูจากโครงการในอดีตรัฐไม่มีโครงการไหนที่มีผู้ลงทะเบียนเกินกว่า 90% จึงตั้งงบฯไว้ 45 ล้านคน ตั้งงบรองรับไว้ประมาณ 4.5 แสนล้านบาท แต่หากมีคนลงทะเบียนน้อยกว่าหรือมากกว่า จะใช้กลไกการบริหารงบฯเพื่อให้มีงบฯเพียงพอ เราเห็นว่าจำเป็นต้องเตรียมงบฯน้อยลง ประกอบกับมีข้อห่วงใยกับการใช้มาตรา 28 ของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังที่จะใช้เงินของ ธ.ก.ส. ที่ประชุมเห็นชอบไม่ใช้มาตรา 28 และจะใช้จากแหล่งเงินงบฯปี 67 และงบฯปี 68 ซึ่งเพียงพอและดำเนินการได้ภายในกรอบงบฯ

ใช้งบฯปี 67-68 ปั่นพายุหมุน ศก.

“ที่มาของเงินประกอบด้วย งบฯ ปี 67 จากงบฯ เพิ่มเติม 1.22 แสนล้านบาท จะเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯวันที่ 17 ก.ค.และงบฯการบริหารจัดการทางการคลังและการบริหารงบฯอีก 4.3 หมื่นล้านบาท ส่วนหนึ่งอาจเป็นงบกลางได้ รวมถึงงบฯปี 68 จำนวน 1.52 แสนล้านบาทและงบฯการบริหารจัดการทางการคลังและการบริหารงบฯของปี 68 อีก 1.32 แสนล้านบาท ยืนยันสามารถบริหารจัดการงบฯปี 68 ในกรอบที่ได้รับมา และยืนยันว่างบฯที่จัดสรรยังถือว่าทำให้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจได้ การเปิดลงทะเบียนจะแยกการลงทะเบียนเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ ผู้มีสมาร์ทโฟน ผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน และร้านค้ามีช่วงเวลาการลงทะเบียนแตกต่างกันเล็กน้อย ขอให้รอการแถลงวันที่ 24 ก.ค.จะมีความชัดเจน” รมช.คลังกล่าว

ตัดสิทธิร้านค้าผิดเงื่อนไขในอดีตร่วมวง

นายจุลพันธ์กล่าวว่า ส่วนการเปิดลงทะเบียนจะชี้แจงวันที่ 24 ก.ค.ที่ประชุมมอบหมายให้คณะกรรมการกำกับโครงการ ไปกำหนดรายละเอียดวันเริ่มลงทะเบียนชัดเจนอีกครั้ง ส่วนการทำงานด้านตัวระบบลงทะเบียนคืบหน้าระดับที่น่าพอใจ ไทม์ไลน์ของโครงการจะนำเสนอ ครม.สัปดาห์หน้า และที่ประชุมยังมอบให้กระทรวงพาณิชย์กำหนดสินค้าที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการฯได้หรือ Negative List ไม่ว่าจะเพิ่มเติมหรือปรับลดได้หากมีความจำเป็นตามสถานการณ์ต่อไป แต่ต้องเสนอที่ประชุมอนุกรรมกำกับโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเลตอีกครั้ง และในที่ประชุมมีข้อเสนอจากบางส่วนงาน ยกตัวอย่างที่ยังไม่ได้คุยกัน เช่น สินค้าอาวุธปืน ยุทธโธปกรณ์ ยังไม่ได้คิดกันในอนุกำกับฯเป็นอีกหนึ่งกลุ่มต้องพิจารณา จึงรับข้อเสนอให้กระทรวงพาณิชย์ไปดูและนำเสนอคณะกรรมการต่อไปนอกจากนี้ที่ประชุมได้พิจารณาตัดสิทธิกลุ่มบุคคลและร้านค้าที่เคยทำผิดเงื่อนไขโครงการของรัฐในอดีตหรือมีการฟ้องร้องเรียกเงินคืนในอดีตหลายหมื่นรายอีกด้วย

ไม่คอยเก้อแน่เปิดลงทะเบียน 1 ส.ค.

ต่อมา 12.30 น.นายกฯทวีตข้อความผ่าน X ว่า ดิจิทัลวอลเล็ตพร้อม เปิดลงทะเบียน 1 ส.ค.นี้ การประชุมวันนี้ ถือเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดลงทะเบียน และการดำเนินการใน
ภาพรวมที่จะรองรับการใช้งานของประชาชนและร้านค้า โดยมีการมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการ รวมไปถึงการลงรายละเอียดเงื่อนไขของการรับสิทธิ์และมาตรการป้องกันการทุจริต การเรียกเงินคืนให้ชัดเจนขึ้น โครงการดิจิทัลวอลเล็ต คือ โครงการใหญ่ของภาครัฐที่จะเติมเงินกระเป๋าพี่น้องประชาชน ผู้ประกอบการ และระบบเศรษฐกิจในภาพรวม เพื่อความละเอียดรอบคอบทั้งทางกฎหมาย และทางเทคนิค โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยของผู้ใช้งาน ทำให้ใช้เวลาดำเนินการมากหน่อย แต่พี่น้องไม่ต้องคอยเก้อแน่นอน

ระบบพร้อมรองรับเต็มร้อย

ด้านนางไอรดา เหลืองวิไล รอง ผอ.รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล กล่าวถึงความพร้อมการลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ตผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ว่า ระบบการลงทะเบียนของประชาชนนั้นถือว่ามีความพร้อมแล้ว 100% เพราะระบบนี้คือระบบที่พัฒนามาตั้งแต่ 3-4 ปีที่ผ่านมา โดยสามารถที่จะทำการยืนยันตัวตนออนไลน์ผ่านระบบ ที่เรียกว่า “KYC” ได้อยู่แล้ว

สภาฯเร่งถกงบเพิ่มเติมเงินดิจิทัล

ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท.ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณางบ ประมาณเพิ่มเติมโครงการดิจิทัลวอลเล็ตว่า ในวันพุธที่ 17 ก.ค.พิจารณางบฯเพิ่มเติม 122,000 ล้านบาทของปี 2567 เพื่อใช้ในโครงการเงินหมื่นดิจิทัลวอลเล็ตวาระแรก 1 วัน และแปรญัตติอีก 2 วัน คาดเป็นวันที่ 19-20 ก.ค.ส่วนการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมปี 2567 คาดเริ่มวันที่ 20 ก.ค.ใช้เวลา 5 วัน ก่อนพิจารณาวาระ 2-3 ขอย้ำว่า เราพยายามเร่งรัดเพราะประชาชนเดือดร้อนต้องการเงินส่วนนี้ ตั้งใจทำให้เสร็จอย่างรวดเร็ว และตรวจสอบไม่ให้มีช่องโหว่ให้ใครกล่าวหา เมื่อถามว่า มีความกังวลหรือไม่ฝ่ายค้านเตรียมจะยื่นร้องศาลปกครอง นายวิสุทธิ์ตอบว่า เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน แต่เรามั่นใจว่าสิ่งที่ทำรัฐบาลคิดดีแล้ว ฝ่ายค้านไม่อยากให้เอาเงินออกไปไวๆเป็นธรรมดา เราเป็นฝ่ายค้านก็ทำแบบนี้ แต่เรามั่นใจในเสียงของรัฐบาลไม่ได้กังวลอะไร

“อ้วน” แง้ม “ทักษิณ” จ่อร่วมงาน พท.

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ระบุว่า เดือน ส.ค.ผลงานรัฐบาลจะออกมาเป็นรูปธรรมมากขึ้นว่า เป็นความเห็นของนายทักษิณ เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่หากนายทักษิณพ้นจากการพักโทษในเดือน ส.ค.จะเข้ามาช่วยงานพรรค พท. นายภูมิธรรมตอบว่า ถ้าท่านพ้นพักโทษทั้งหมดสามารถที่จะเข้าไปช่วยเหลือได้ เมื่อถามถึงการเพิ่มมาตรการการรักษาความปลอดภัยนายกฯ หลังเกิดเหตุลอบสังหารนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาว่า ตนเสียใจ ไม่อยากเห็นการทำงานการเมืองใช้ความรุนแรง การเมืองอเมริกากับไทยไม่เหมือนกัน ฉะนั้นอย่าคิดไกลเกินไป การเพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัยนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงเป็นผู้ประเมิน เมื่อถามว่าสมัยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เคยถูกคาร์บอมลอบสังหารนายภูมิธรรมตอบว่า ปัจจุบันเวลาห่างกันมานานแล้วอยากให้ดูความจริงดีกว่า ไม่อยากให้คาดการณ์เพราะหากคาดการณ์จะทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน

นายกฯออกตัวยังไม่คิดดึงมาเป็นกุนซือ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ระบุหลังเดือน ส.ค.รัฐบาลจะทำงานได้เป็นรูปธรรมมากขึ้น และเป็นประโยชน์กับประชาชนทั้งประเทศ แนวคิดที่จะเชิญอดีตนายกฯที่จะพ้นโทษและเป็นผู้บริสุทธิ์เดือน ส.ค.เช่นกัน มาเป็นที่ปรึกษา หรือให้คำแนะนำอะไรหรือไม่ว่าพอดียังไม่ได้ฟังการให้สัมภาษณ์ของนายทักษิณ ยังไม่ได้คิดและยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน ส่วนการทำงานที่จะเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นนั้น คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีการพูดคุยกันตลอดเวลาเรื่องการทำงานเพื่อประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันตรงนี้ แต่อย่างที่ตนเคยชี้แจงไปแล้วตนได้มีโอกาสได้พบปะกับอดีตนายกฯ หรือผู้นำประเทศไม่ว่าใครก็ตามที่มีข้อเสนอแนะที่ดียินดีรับฟัง

ร่วมดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล

นายเศรษฐายังกล่าวถึงงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลเย็นวันที่ 15 ก.ค. ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นเจ้าภาพที่บ้านปาร์คนายเลิศ ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม.ว่า “ไปครับ” เมื่อถามว่า มีการประสานให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อหัวหน้าพรรค พปชร. มาร่วมด้วยหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ยืนยันไปแล้วว่าอยากให้ท่านมา แต่ไม่ทราบจริงๆว่าท่านจะมาหรือไม่มา อันนี้แล้วแต่พรรค เพราะไม่ได้เช็กเลยว่าใครมา หน้าที่ของผมคือไปพูดคุยกันว่าใครมีเรื่องไม่สบายใจหรือจะเสนอแนะอะไร ยินดีรับฟังหมด”

“อิ๊งค์” คึกกระชับสัมพันธ์พรรคร่วมฯ

ที่กระทรวงกลาโหม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค พท. ให้สัมภาษณ์ถึงการนัดกินข้าวของพรรคร่วมรัฐบาลในช่วงเย็นวันที่ 15 ก.ค.ว่า ขณะนี้พรรค พท.กับพรรคร่วมรัฐบาลมีความสัมพันธ์กันเหมือนเดิม รอบนี้เป็นคิวของพรรค พปชร.เป็นเจ้าภาพ โดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค ที่ผ่านมาพรรคร่วมคุยกันอยู่แล้ว ขณะที่นายกฯเองน่าจะมีโอกาสพูดคุยกับพรรคร่วมมากกว่า วันนี้ไม่มีประเด็นหารือเป็นพิเศษ อาจติดตามงานปัจจุบันที่อยากให้พรรค พท.สนับสนุนอย่างไรเป็นหน้าที่ของนายกฯต้องพูดคุย ส่วนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตที่ต้องให้พรรคร่วมช่วยกันสนับสนุนนั้นสื่อสารกันตลอด ทั้งในตัวบทกฎหมายและขั้นตอนดำเนินการของโครงการ เพื่อขับเคลื่อนและผลักดันให้เป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด

ดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลคึกคัก

เมื่อเวลา 17.30 น.ที่พิพิธภัณฑ์บ้านปาร์คนายเลิศ ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม.พรรค พปชร.เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อกระชับความสัมพันธ์ ครั้งที่ 3 บรรยากาศคึกคัก แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลทยอยร่วมงาน นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรฯ ในฐานะกรรมการบริหารพรรค พปชร.ถึงคนแรก ตามด้วย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ ในฐานะเลขาธิการ พปชร.นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร. ขณะที่พรรค พท.นำทีมโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค พท. นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดีอี และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและ รมว.คลัง พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ประกอบด้วยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท.นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค และนายภราดร ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรค ด้านพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค รทสช. น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรมและ สส.นครศรีธรรมราช ขณะที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค รทสช.ติดภารกิจต่างประเทศ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค ชทพ.และนายนิกร จำนง ผอ.พรรค ชทพ.พรรคประชาชาติ (ปช.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรค ปช. และนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) กระทั่ง 18.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ เดินทางมาถึง

“ลุงป้อม” มอบ “ธรรมนัส” ดูแลแทน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.ไม่ได้มาร่วมงานและ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค พปชร.ไม่ได้มาร่วมงาน เนื่องจากป่วยโควิด โดย ร.อ.ธรรมนัส กล่าวก่อนร่วมทานอาหารว่า วันนี้เป็นเจ้าภาพ ขอให้เจ้าภาพจงเจริญ ส่วน พล.อ.ประวิตร ไม่ได้มาร่วม แต่ได้ฝากให้ดูแลพรรคร่วมรัฐบาล และ พล.อ.ประวิตรได้แสดงเจตนารมณ์ตั้งแต่ร่วมรัฐบาลอยู่แล้วว่า ในกรณีที่มีงานหรือการพบปะกัน มอบหมายให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค และตนทำหน้าที่แทน แต่ พล.ต.อ.พัชรวาท ไม่ได้มาเนื่องจากป่วยโควิด

“อิ๊งค์” ชวนทำสัญลักษณ์รูปหัวใจ

ขณะที่บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักและเป็นกันเอง โดยก่อนร่วมรับประทานอาหาร น.ส.แพทองธาร ได้ชวนบรรดาแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ทำมือสัญลักษณ์รูปหัวใจ โดยนายกฯได้ร่วมทำด้วย สำหรับเมนูอาหารเป็นฝีมือ “เซฟป๊อป” พิชชากร รามบุตร ประกอบด้วยเมนู แสร้งว่าปลากะมงพร้าว สะเต๊ะปู แกงคั่วเนื้อไทยวากิว เมนูของหวาน สาคูแท้มะพร้าวอ่อน เป็นต้น ทั้งนี้ โดยเมนูอาหารใช้วัตถุดิบจากเกษตรกรไทยในหลายจังหวัด ที่ทางร้านเป็นผู้คัดสรรเอง อาทิ จากเครือข่ายประมงพื้นบ้านท้องทะเลไทย โดยเมนูคาเวียร์ มาจาก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เนื้อวัวไทยวากิวจาก จ.หนองคาย โคขุนวากิว จาก จ.ขอนแก่น หมูดำ จ.น่าน ไก่จากระบบปศุสัตว์อินทรีย์ จาก จ.นครปฐม และน้ำแร่ที่ใช้ระบบปิดและวัตถุดิบท้องถิ่นจาก จ.กาญจนบุรี

มั่นใจ 314 เสียงไม่มีแตกแถว

ต่อมาเวลา 19.50 น. นายเศรษฐากล่าวกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลว่า จากความร่วมมือของทุกคนในรัฐบาลนี้ เรามีมากกว่า 314 เสียง แน่นอนการอยู่ด้วยกัน ได้พูดคุยถึงการทำงานร่วมกัน บรรยากาศอาจตึงเครียดบ้าง ตนอาจจะดุบ้าง พูดจาไม่เข้าหูบ้าง แต่เรามี 300 กว่าเสียง ยืนยันทำงานด้วยกันเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกัน พูดคุยกันอย่างเป็นผู้ใหญ่ แม้จะมีเสียงเล็ดลอดออกไปบ้าง แต่ในวันนี้สื่อมวลชนได้มาอยู่ที่นี้แล้ว อยากขอบอกว่าดูบรรยากาศเอาเองแล้วกันว่าเราสมัครสมานสามัคคีกันหรือเปล่า ดูจากรอยยิ้ม และวิธีการที่เราพบปะพูดคุยกัน มั่นใจว่า 314 เสียงเป็นอย่างน้อย ไม่มีการแตกแถว ทำงานหนักกันทุกคนเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนทุกคน ไม่ว่าจากการทำงานในทำเนียบฯหรือในกระทรวงต่างๆ การลงพื้นที่ เท่าที่เคยติดตามการเมืองมาไม่เคยเห็นรัฐบาลไหนลงพื้นที่เยอะเท่ารัฐบาลนี้ เชื่อว่ารัฐบาลนี้จะแข็งแกร่งขึ้นไปเรื่อยๆ

จากนั้นนายกฯและแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลร่วมถ่ายภาพ ทำมือสัญลักษณ์มินิฮาร์ตและจับมือคล้องแขนจับมือโชว์ความสามัคคี ผู้สื่อข่าวกระเซ้าจับมือแบบนี้จะอยู่ครบ 4 ปีใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า แน่นอน มากกว่า 4 ปีด้วย ขณะที่การจัดงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลครั้งต่อไป พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นเจ้าภาพ

“วัน” แจ้ง กกต.พ้นสภาพสมาชิก พท.

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายวัน อยู่บำรุง เดินทางเข้ายื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.) ต่อเลขาธิการ กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง โดยนายวันกล่าวว่า ได้ลาออกจากพรรค พท.แล้วเมื่อวันที่ 9 ก.ค.หลังการประชุมพรรคได้ไปรอพบหัวหน้าพรรค ได้พูดกับหัวหน้าพรรคว่า “วันนี้พี่มามอบตัว ทราบข่าวมาว่าหัวหน้าพรรคและผู้บริหารพรรคไม่สบายใจที่มีภาพในวันนับคะแนนการเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี ที่บ้านของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ครอบครัวอยู่บำรุง จงรักภักดีต่อพรรคมาโดยตลอด ไม่เคยคิดคดทรยศ อาจคิดไม่รอบคอบ ขอเรียนว่า ครอบครัวอยู่บำรุง และครอบครัวธูปกระจ่าง รู้จักมักคุ้น รักใคร่ชอบพอกันมาหลายสิบปี ที่ผมไปอยู่ในช่วงเวลาปิดหีบแล้ว ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงคะแนน”

น้ำตาคลอคิดไม่ถึงผิดแสนสาหัส

นายวันกล่าวว่า เมื่ออธิบายความออกไปไม่ได้มีท่าทีว่าอะไรจะดีขึ้นเลย เป็นเหตุให้พูดออกไปว่า ขอลาออกจากกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ส่วนวันนี้ที่มาลาออก เมื่อผู้ใหญ่ในพรรคมองว่าไม่เข้าตา แล้วไม่แฮปปี้ก็ไม่สบายใจ ถ้าไม่ลาออกจากสมาชิกพรรค มีกิจกรรมอะไรต้องไปร่วมงานคงไม่หน้าด้านที่จะไปเดินเกะกะรกหูรกตาผู้ใหญ่ในพรรค จังหวะนี้นายวันถึงกับน้ำตาคลอก่อนกล่าวว่า แค่ สส. กทม.ยังสอบตก แต่สอบตกถึง 32 คนจาก 33 คน ถ้าตกคนเดียวคงพิจารณาตัวเอง พรรคต้องกลับไปพิจารณาว่านโยบายหาเสียงเป็นอย่างไร คนเราอย่าเกรงกลัวการเปลี่ยนแปลง จงหาทางอยู่รอดกับการเปลี่ยนแปลง ชีวิตต้องดำเนินต่อไป กรณีของตนจะเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู หรือตีวัวกระทบคราดหรือไม่ รู้ว่าผิดจึงไปมอบตัว ไม่คิดว่าความผิดจะหนักหนาสาหัส คิดไปเองว่าแค่โดนดุ หรือตักเตือน ไม่คิดว่าจะเลยเถิดบานปลายถึงขนาดนี้

ย้ำ “เฉลิม” ท้าให้ตะเพิดพ้นชายคา

เมื่อถามว่า ตัดสินใจเองหรือถูกบีบให้ลาออก นายวันตอบว่า ขอให้ตั้งข้อสังเกตกรณีนายวรชัย เหมะ ที่ปรึกษารองนายกฯ ที่วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของนายกฯกับตน ผิดมารยาทหรือไม่ หรือมีคนอยู่เบื้องหลังนายวรชัย มากบารมีกว่านายกฯ ทำให้นายวรชัยพูดได้ คนที่ไม่เข้าตาอยู่ไปไม่มีประโยชน์ ตระกูลอยู่บำรุงประจบสอพลอใครไม่เป็น ถ้าพรรคการเมืองใดที่คิดว่าตนพอเป็นประโยชน์ลองติดต่อมา ขอยืนยันครอบครัวอยู่บำรุง รักชาติ ศาสนาและเทิดทูนสถาบัน เมื่อถามว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ยังอยู่กับพรรค พท.อยู่หรือไม่ นายวันตอบว่า ท่านอยากให้ขับออก คุณพ่ออายุเยอะ แต่ความรู้ ความสามารถไม่ได้ลดน้อยลง แต่ยังไม่ได้รับโอกาส

“อิ๊งค์” ยัน พท.ไร้นโยบายขับออก

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค พท.ให้สัมภาษณ์ระหว่างไปฟังบรรยายพิเศษเรื่อง “นโยบายการพัฒนากองทัพ” ที่กระทรวงกลาโหม ในฐานะนักศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.อบ.) รุ่นที่ 1 ถึงกรณีที่นายวัน อยู่บำรุง ลาออกจากสมาชิกพรรค พท.จะสร้างความหวั่นไหวภายในพรรคหรือไม่ว่า เรื่องนี้ได้พูดคุยกันเป็นการส่วนตัวไปแล้ว เห็นนายวัน ออกมาให้สัมภาษณ์แล้ว ไม่มีประเด็นอะไรที่มากกว่านี้แล้ว เคยแสดงความตั้งใจกับนายวันไปแล้วว่า ไม่ได้อยากให้นายวันออกจากพรรค แต่เคารพการตัดสินใจของนายวัน เพราะเป็นผู้ใหญ่แล้ว และ 2 ครอบครัวรู้จักกันมานาน ดังนั้นขอให้กำลังใจกันดีกว่า ถึงจะไม่ได้อยู่ในพรรค พท.แต่สามารถให้กำลังใจกันได้อยู่แล้ว ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อยากให้พรรคขับออกเพื่อไปสังกัดพรรคใหม่นั้น น.ส.แพทองธารตอบว่า พรรคไม่มีนโยบายขับออก

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่