รมว.กลาโหม “สุทิน คลังแสง” เผย หารือกฤษฎีกาไปนาน 2-3 เดือนแล้ว ปมเปลี่ยนสัญญาซื้อเรือดำน้ำ บอกทำได้ ถ้าจะทำต้องเป็นมติ ครม. ยอมรับ จีนอยากจบ แต่ไม่ถึงกับกดดันไทย
วันที่ 9 ก.ค. 2567 เมื่อเวลา 09.35 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวถึงการถามความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกาเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาให้คำตอบมาแล้ว รอคำตอบมาดูกับข้อเท็จจริงของเรา และมีข้อมูลที่คุยกับทางจีนไว้ส่วนหนึ่งค้างอยู่ หากจีนตอบมาสัปดาห์หน้าก็จะนำข้อมูลเข้าหารือนายกรัฐมนตรี เพื่อสรุปให้ฟัง และให้ท่านตัดสินใจ ผู้สื่อข่าวถามว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ดูในส่วนของข้อกฎหมายแล้วใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาตอบมาแล้วแต่เป็นหลักการ เราก็นำมาดูกับข้อเท็จจริงที่ดำเนินการอยู่ ทั้งเรื่องการเปลี่ยนแปลงสัญญา รวมถึงเรื่องที่สำคัญและไม่สำคัญ เมื่อถามว่า เลขาฯ คณะกรรมการกฤษฎีการะบุว่า ยังไม่มีการส่งข้อกฎหมายการเปลี่ยนสัญญาให้กฤษฎีกาดู นายสุทิน กล่าวว่า หารือไป 2-3 เดือนแล้ว ทั้งสำนักงานอัยการสูงสุด คณะกรรมการกฤษฎีกา เขาก็ตอบมาว่าทำได้ ถ้าจะทำต้องเป็นมติ ครม. แต่ก่อนจะมีมติก็ต้องมีข้อมูลที่สมบูรณ์ก่อน จะได้ใช้ดุลพินิจ ถือเป็นการบ้านที่เราต้องไปทำว่าจะอธิบาย ครม.อย่างไร ส่วนเรื่องการเปลี่ยนสัญญานั้น มี 2 ข้อ คือ 1. มีการขยายเวลา 2.ปิดเครื่องเปลี่ยนจากเครื่องยนต์เดิมเป็นเครื่องยนต์ใหม่ ซึ่งจะต้องใช้มติ ครม. คาดว่าวันนี้ข้อมูลน่าจะสมบูรณ์ คงไม่ต้องหารือกับประเทศจีนแล้ว หากจีนตอบกลับมาในประเด็นสำคัญที่เราถามไป ก็จะนำเรียนนายกฯ แต่หากนายกฯ ให้ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมก็ค่อยว่ากัน
เมื่อถามว่า จีนกดดันเราหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า เขาก็อยากให้จบเหมือนกัน เพราะเขาก็ทำมานาน ก็อยากให้จบ แต่ไม่ถึงกับกดดัน แค่ขอความเห็นใจ ส่วนเรื่องการขายเครื่องยนต์ของไทยให้อินโดนีเซียนั้น ไม่มีข้อเท็จจริง เช็กดูแล้ว มาจากไหนไม่ทราบ
...