“ทักษิณ ชินวัตร” กราบสักการะท้าวสุรนารี ถวายดาบเดี่ยว คล้องผ้าแพร 7 สี เพื่อความเป็นสิริมงคล มวลชนเสื้อแดงแห่ต้อนรับ ด้าน “สุวัจน์” เป็นเจ้าภาพเลี้ยงมื้อค่ำ ด้าน “ทักษิณ” ชม โคราชเป็นเมืองระเบียบดี เอ่ยปากชวนเข้าเพื่อไทยแทนลูกสาว 


เมื่อเวลา 16.20 น. วันนี้ (25 พ.ค. 67) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลฯ นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย พร้อมด้วย สส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทยทั้ง 12 คน และคณะ ได้เดินทางมาถึงอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารึ (ย่าโม) ท่ามกลางมวลชนคนเสื้อแดงชูป้ายและตะโกนสนับสนุน “รักเราทักษิณๆ” ส่วนกลุ่ม คปท.และกปปส.ที่อยู่ศาลาทรงไทยห่างกันกัน 20 เมตร ตะโกนว่า “ทักษิณ กลับคุก” และ “ยิ่งลักษณ์ข้าวเน่า” อยู่ตลอดเวลา ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา 

...

โดยนายทักษิณฯ ได้จุดธูปเทียนสักการะย่าโม โดยมี “พระมหาต่อ” จากวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร อ.เมืองนครราชสีมา เป็นผู้นำกล่าวบทสักการะ จากนั้น นายทักษิณฯ ได้ขึ้นไปปิดทองที่รูปหล่อท้าวสุรนารี (ย่าโม) องค์จำลอง และถวายดาบเดี่ยว และคล้องผ้าแพร 7 สี ที่ฐานอนุสาวรีย์ฯ เพื่อความเป็นสิริมงคล หลังจากไม่ได้มาสักการะย่าโมถึง 17 ปี  

ต่อจากนั้น นายทักษิณฯ และคณะ ได้เดินทางไปยังภัตตาคารเสียวเสี้ยว ถนนบัวรอง อ.เมืองนครราชสีมา เพื่อรับประทานอาหารเย็น ท่ามกลางภาคเอกชน กลุ่มพลังมวลชน มารอต้อนรับ และร่วมรับประทานอาหารโต๊ะจีน จำนวน 250 โต๊ะ ประมาณ 300 คน โดยมีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานพรรคชาติพัฒนา มอบรูปหล่อย่าโม จำนวน 1 องค์ และนายเทวัญ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ในฐานะเจ้าภาพ มอบรูปหล่อพระชัยเมือง รุ่นครบรอบ 197 ปี วัดศาลาลอย ให้กับนายทักษิณฯ ก่อนที่ นายสุวัจน์ฯ จะเป็นตัวแทนชาวโคราช กล่าวต้อนรับนายทักษิณฯ และคณะ 

ซึ่งนายสุวัจน์ฯ กล่าวต้อนรับว่า “สมัยนายทักษิณฯ เป็นนายกรัฐมนตรี และตนเป็นรองนายกฯ ได้อนุมัติงบประมาณ 2,200 ล้านบาท สร้างสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติฯ จ.นครราชสีมา และอนุมัติให้จัดแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่ จ.นครราชสีมา จนได้เป็นเจ้าซีเกมส์ และยังอนุมัติงบอีก 2,000 กว่าล้านบาท สร้างระบบน้ำประปา ส่งตรงมาจากเขื่อนลำตะคอง และเขื่อนลำแชะ ชาวโคราชจึงขอขอบพระคุณอดีตนายกทักษิณฯ เป็นอย่างสูงนอกจากนี้ ปัจจุบันโคราชมีซอฟต์พาวเวอร์หลายอย่าง ที่จะมอบให้ท่านจากใจชาวโคราช เช่น รูปหล่อย่าโม ทุเรียนจีไอปากช่อง ส้มโอสูงเนิน ไก่ย่างท่าช้าง เครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน ไก่กะเต๊ดโนนไทย ขนมจีนประโดก ลาบสมพิศ กาแฟดงมะไฟ ไวน์ปากช่อง” 

ด้านนายทักษิณ ขึ้นพูดบนเวทีว่า วันนี้อบอุ่นมากที่ได้รับการต้อนรับและได้รับของที่ระลึกมากมายจากชาวโคราช ไม่ได้พูดนานรู้สึกเขินแต่ขอเอาหัวใจพูด ขอชื่นชมว่าโคราชเป็นอีกจีงหวัดที่มีระเบียบดีในเมืองมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยเพราะบางจังหวัดเป็นเมืองที่ไม่เรียบร้อยและไม่สะอาด ตนเองเป็นคนที่ชอบดูเรื่องความเป็นระเบียบ มาครั้งนี้นึกถึงเมื่อตอนที่มากราบย่าโมครั้งแรกตอนอายุ 16 ปีและได้ไปรอดซุ้มประตูชุมพลเพราะโบราณบอกว่า ถ้ารอดซุ้มประตูแล้วจะได้กลับมาอีก หลังจากหายไป 18 ปีวันนี้ได้กลับมาอีกก็ดีใจ 

นายทักษิณยังกล่าวอีกว่า เศรษฐกิจทุนนิยมหลักก็คือปลาใหญ่กินปลาเล็ก แค่คนบ้านนอกคือปลาทั้งเล็กทั้งช้าโดนกินมาตลอดกินจนเหลือกระดูก ยังต้องถูกกินต่อ จึงรู้สึกเห็นใจคนจนอยากให้มีเศรษฐกิจที่ดี และเชื่อว่ารัฐบาลภายใต้การบริหารของพรรคเพื่อไทยจะทำเศรษฐกิจให้ดี และเศรษฐกิจจะดีวันนี้ต้องเปลี่ยนวิธีคิดให้หมด และการให้โอกาสคนถือเป็นเรื่องสำคัญและเชื่อว่าข้าราชการก็อยากจะขับเคลื่อนประเทศให้มีความก้าวหน้าเช่นกัน

นายทักษิณยังบอกอีกว่า วันนี้ดีใจที่มาพบเพื่อนคนเก่าคนแก่ทั้งหลายทั้งเก่าและคนก็แก่ และสำคัญที่สุด ต้องขอบคุณนายสุวัจน์ ที่รู้จักกันตั้งแต่พรรคปวงชนชาวไทย แล้วก็สืบสานการเมืองพรรคชาติพัฒนามายาวนานเหมือนมรดกที่ต้องรับและดูแลต่อจากพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ และก็ต้องติดอยู่กับพรรคชาติพัฒนาต่อไป แต่วันนี้ไม่รู้จะเรียกนายสุวัจน์ว่าเสี่ยสุวัจน์ดีไหม เพราะตอนไปภูเก็ตได้พาไปดูธุรกิจใหญ่โตหลายอย่าง ส่วนนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล ก็ต้องขอบคุณเพราะมีลูกเป็นรัฐมนตรี และลูกหลานเป็นนักการเมือง ต้องฝากอนาคตทางการเมืองกับครอบครัวหวังศุภกิจโกศลไปอีกนาน

ช่วงท้ายของการขึ้นพูดบนเวทีนายทักษิณพูดว่า “ส่วนนายสุวัจน์เดี๋ยวก็เป็นกำลังสำคัญของพรรคเพื่อไทย วันนี้ตนเองพูดแทนลูกเพราะหัวหน้าพรรคเขามาให้ตนเองลิปซิงค์ เพราะอายุยังน้อย ไม่กล้าเอ่ยปากชวน” หลังนายทักษิณพูดจบนายสุวัจน์ได้หัวเราะ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ระหว่างที่นายทักษิณ พูดชักชวนนายสุวัจน์บนเวทีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่นั่งอยู่ด้านล่างได้กระซิบว่า ชวนหลังไมค์แล้ว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายทักษิณ ได้เดินทักทายผู้มาร่วมรับประทานอาหาร ผู้สื่อข่าวจึงถามว่า การที่จะให้นายสุวัจน์ เป็นกำลังของเพื่อไทยต้องไปจีบหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า เปล่า ตนแค่พูดกับอากาศ เมื่อถามถึงการเดินสายอีสาน นายทักษิณ กล่าวว่า ยังไม่มี ถ้าไม่มีงานก็ไม่ไปไหน ที่จะไปประทุมธานีก็ไปงานบวช