ย้อนเส้นทางรมต.ประจำสำนักนายกฯ ป้ายแดง “พิชิต ชื่นบาน” จากมือกฎหมายสู้คดีตัวฉกาจของบ้านชินวัตร กับคดีถุงขนม 2 ล้านอันอื้ออึง ที่ชวดเก้าอี้รัฐมนตรีรอบแรก จนมาสู่คนใน ครม.เศรษฐา 1/1
หากย้อนไปเมื่อครั้งรัฐบาลเศรษฐา 1 ชื่อของนายพิชิต ชื่นบาน ถือว่าเป็น 1 ในตัวเต็งที่คาดว่าจะมาเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แต่แล้วกลับไปไม่ถึงฝัน เพราะมีประเด็นเรื่องคุณสมบัติของนายพิชิต มาเกี่ยวข้อง จนทำให้ ครม.เศรษฐา 1 ต้องเปลี่ยนตัวในนาทีสุดท้าย และนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ต้องมอบเก้าอี้ที่ปรึกษาให้เป็นรางวัลปลอบใจ
แต่สุดท้ายเมื่อผลัดใบเข้าสู่ ครม.เศรษฐา 1/1 นายพิชิต เป็นตัวเต็งอีกครั้ง เหมือนคำเปรียบเปรยที่ว่า “อะไรที่เป็นของเรายังไงก็เป็นของเรา” ทำให้นายพิชิต ได้ตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีไปครอง
ประวัติ “พิชิต ชื่นบาน”
สำหรับประวัติ นายพิชิต ชื่นบาน จบปริญญาตรี นิติศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 2) มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปริญญาโท นิติศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ สาขากฎหมายมหาชน เนติบัณฑิตไทย สมัยที่ 34 สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา
...
ปริญญาโท ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (รัฐศาสตร์) มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาบริหารธุรกิจอุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
โดย นายพิชิต นับเป็นหัวหน้าทีมทนายความต่อสู้คดีต่างๆ ให้แก่ครอบครัวชินวัตร ตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทย ในรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร และยังเป็นทีมกฎหมายให้กับ รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จนมาสู่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน แน่นอนว่านายพิชิตถือว่าเป็นบุคคลที่มีสัมพันธ์อันใกล้ชิดของตระกูลชินวัตร จนถูกแซวว่าเป็นเด็กในบ้านทักษิณ
ส่วนบทบาทที่สำคัญของนายพิชิตที่โดดเด่น คือการรับหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมทนายความของนายทักษิณช่วงที่ถูกทำรัฐประหารเมื่อปี 2549 จำนวนหลายคดี แต่นายพิชิตเป็นที่จดจำมากที่สุด คือ คดีความอันอื้อฉาว จากกรณีหิ้วถุงขนมใส่เงินสด 2 ล้านบาท ไปมอบให้เจ้าหน้าที่ธุรการศาล ระหว่างการพิจารณาคดีที่ดินรัชดาฯ ของศาลฎีกาคดีแผนกอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จนถูกศาลฎีกามีคำสั่งจำคุก ฐานละเมิดอำนาจศาลสถานหนัก 6 เดือน ไม่รอลงอาญา หลังจากนั้นสภาทนายความก็มีมติให้ลงโทษหนักสุด ให้ลบชื่อนายพิชิตออกจากทะเบียนผู้ประกอบวิชาชีพทนายความ ทำให้ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะทนายความได้จนถึงปัจจุบันนี้ แม้นายพิชิตจะพยายามยื่นขอจดทะเบียนเป็นทนายความใหม่อีก 3 ครั้ง หลังจากพ้นโทษไปแล้ว 5 ปีตามข้อบังคับ แต่ก็ถูกกรรมการสภาทนายความตีตก ไม่อนุญาตจดทะเบียนทนายความให้ เพราะเห็นว่าความผิดที่ถูกลงโทษเป็นเรื่องร้ายแรง ซึ่งถือเป็นบ่วงติดเงื่อนไขอันร้ายแรงของการก้าวมาเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในยุครัฐบาลเศรษฐา 1
อย่างไรก็ตาม ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายพิชิต มีบทบาทในฐานะ สส.บัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย และอยู่เบื้องหลังในกลั่นกรองระเบียบกฎหมายให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อีกทั้งนายพิชิตก็ยังทำหน้าที่ในฐานะหัวหน้าทีมทนายความสู้คดีจำนำข้าวด้วย
ขณะที่การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 นายพิชิต ชื่นบาน ยังดำรงตำแหน่งกรรมการสรรหา ของพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ที่มีร้อยโท ปรีชาพล พงษ์พานิช เป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งถูกมองว่าเป็นพรรคสาขาของพรรคเพื่อไทย ก่อนจะถูกศาลรัฐธรรมนูญ สั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ เมื่อ 7 มีนาคม พ.ศ. 2562 พร้อมตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค ทั้ง 13 คน โดย 1 ในนั้น คือนายพิชิต ห้ามลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี ฐานยื่นพระนาม ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ในช่วงของการตั้ง ครม.เศรษฐา 1 นายพิชิต ได้ประกาศไม่ขอรับตำแหน่งรัฐมนตรี หลังมีชื่อได้นั่งเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมยืนยันว่าคุณสมบัติของตนเองครบถ้วนถูกต้องทุกประการ ไม่ขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามใดๆ ทั้งสิ้น และขอขอบคุณ ผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยที่ให้โอกาส ที่เห็นความสำคัญของตนเองมาโดยตลอด ซึ่งการสละตำแหน่งของนายพิชิตในครั้งนั้น เจ้าตัวระบุว่าเพื่อต้องการให้การจัดตั้งรัฐบาลของนายเศรษฐาสำเร็จโดยเร็ว ขณะที่นายเศรษฐา ก็ไม่มีการดึงคนในพรรคเพื่อไทยมานั่งแทน และยังเว้นว่างเก้าอี้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อีก 1 เก้าอี้ ไว้รอนายพิชิต
อย่างไรก็ตาม ในช่วงก่อนการแต่งตั้ง ครม.เศรษฐา 1/1 นายพิชิต ยังให้สัมภาษณ์กับสื่อ ภายหลังที่มีชื่อจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง ว่า “ตนเองเป็นคนทำงาน อยู่ตรงไหนก็สามารถทำงานได้หมด”