“ราเมศ” ยุ ไปให้สุดซอย หากจะใช้ ทักษิณโมเดล กับกรณี “ยิ่งลักษณ์” ด้าน “พิชิต” ตอบโต้ อย่าพูดใส่ร้ายกันทางการเมือง ยัน เข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย เชื่อ กรมราชทัณฑ์ดำเนินการตามข้อเท็จจริง

วันที่ 18 เมษายน 2567 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่ นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ไม่มีอะไรน่าแปลกใจ เพราะเชื่อว่าทุกคนพอจะคาดการณ์ได้อยู่แล้ว ที่นายพิชิต ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าการกลับมาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ โมเดลก็คล้ายๆ กันกับกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยเวลานี้หมดเวลาเตือนรัฐบาลแล้ว มีแต่จะบอกว่าถ้าคิดจะทำอะไรก็เดินไปให้สุดซอย

นายราเมศ ระบุต่อไปว่า กระบวนการยุติธรรมของประเทศ ถ้าจะพังเพราะการสนองความต้องการส่วนตัว ในการช่วยเหลือพวกพ้อง วันหนึ่งประชาชนไม่มีวันยอมแน่นอน และคดีจำนำข้าวจะมาอ้างว่าเป็นคดีที่เกิดขึ้นหลังจากยึดอำนาจ ก็เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะคดีจำนำข้าวเกิดขึ้นจากการตรวจสอบในระบบประชาธิปไตย ที่ผ่านกระบวนการตรวจสอบโดยฝ่ายนิติบัญญัติ โดยฝ่ายค้านในขณะนั้นคือพรรคประชาธิปัตย์ ส่งคดีต่อไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งต่อไปยังพนักงานอัยการ แล้วก็ไปจบที่ศาลฎีกา ทุกกระบวนการเป็นไปตามหลักการในกระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่การยัดข้อหาแต่อย่างใด

“ท้ายที่สุดกรณี นางสาวยิ่งลักษณ์ ทุกคนอาจจะคาดการณ์กันไป รอดูเรื่องจริงดีกว่า ว่าจะใช้โมเดลทักษิณ จริงอย่างที่พูดหรือไม่”

ในเวลาต่อมา นายพิชิต เปิดเผยถึงการให้สัมภาษณ์ไปว่า การกลับมาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ใช้โมเดลคล้ายกับกรณีของ นายทักษิณ โดยคำว่าคล้ายกันในที่นี้หมายถึงการเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย เพื่อเข้าสู่การบังคับโทษ ซึ่งมีขั้นตอนตามกฎหมายที่ชัดเจน ทั้งนี้เมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เดินทางถึงประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดำเนินการคุมตัวไปศาล เพื่อออกใบแดงแจ้งโทษ จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะถูกนำตัวไปอยู่ในอำนาจของกรมราชทัณฑ์ เพื่อบังคับโทษให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาล ส่วนกรมราชทัณฑ์จะดำเนินการอย่างไร ก็มีแนวทางการปฏิบัติอยู่แล้ว 

...

นายพิชิต กล่าวต่อไปว่า ในกรณีของ นายทักษิณ มีเหตุเจ็บป่วย กรมราชทัณฑ์ก็ปฏิบัติกับ นายทักษิณ ไปตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หากท่านไม่ได้มีอาการเจ็บป่วย กรมราชทัณฑ์ก็จะปฏิบัติแตกต่างกันออกไป เชื่อว่าจะดำเนินการไปตามข้อเท็จจริงและอยู่ในกระบวนการตามกฎหมาย

ส่วนที่ นายราเมศ ออกมาระบุว่าการดำเนินการกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะใช้เป็นทักษิณโมเดล หรือดำเนินการให้สุดซอยนั้น นายพิชิต ระบุว่า นายราเมศ ก็เป็นนักกฎหมาย ดังนั้นตนไม่อยากให้พูดจาใส่ร้ายกันทางการเมือง หรือออกมาพูดตีขลุมแบบนี้ ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าทางกรมราชทัณฑ์จะพิจารณาดำเนินการในแต่ละกรณีไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น.