“ไตรศุลี” เผย กระทรวงมหาดไทย เตรียมผลักดันแก้ไขกฎหมายภาษีป้าย คิดภาษีเป็นรายเดือน แทนการเก็บภาษีป้ายล่วงหน้าทั้งปี พร้อมทั้งขยายระยะเวลาชำระเป็น 30 วัน “อนุทิน” เซ็นลงนามแล้ว รอเสนอวาระพิเศษเข้า ครม.

วันที่ 8 เมษายน 2567 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เตรียมผลักดันการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีป้าย พ.ศ. 2510 ซึ่งบังคับใช้มาเป็นเวลานาน ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อปรับปรุงกระบวนการจัดเก็บภาษีป้ายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการรับ-ส่งเอกสารต่างๆ การยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้าย การยื่นคำร้องต่างๆ การแจ้งประเมินภาษีป้าย การยื่นอุทธรณ์ภาษีป้าย และการขอรับเงินคืน สามารถดำเนินการในรูปแบบผ่านอิเล็กทรอนิกส์ได้ ซึ่งจะช่วยเพื่ออำนวยความสะดวกในการบริการให้มีความทันสมัย และให้ประชาชนเข้าถึงการบริการภาครัฐได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น

โดยการปรับปรุงกฎหมายดังกล่าว กระทรวงมหาดไทย โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ได้ยกเป็นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีป้าย (ฉบับที่...) พ.ศ. .... ซึ่งขณะนี้ รมว.มหาดไทย ได้ลงนามแล้ว อยู่ระหว่างการนำเสนอต่อสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อบรรจุเป็นวาระพิจารณาของ ครม. และเมื่อผ่านแล้วจะเสนอไปยังสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา และจะมีผลบังคับใช้เมื่อผ่านกระบวนการตามกฎหมาย และประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว

โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า สาระสำคัญที่ได้รับการแก้ไขในร่าง พ.ร.บ.ภาษีป้ายฯ มีหลายประเด็นที่จะทำให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรมมากขึ้น เช่น กรณีป้ายที่ติดตั้งหรือแสดงป้ายไม่ตลอดทั้งปี ให้เสียภาษีตามระยะเวลาที่ติดตั้งหรือแสดง โดยคิดภาษีเป็นรายเดือน เศษของเดือนให้นับเป็นหนึ่งปี แตกต่างจากปัจจุบันที่การจัดเก็บภาษีป้ายเป็นการจัดเก็บภาษีล่วงหน้าทั้งปี การแก้ไขกฎหมายจะทำให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้เสียภาษีตามหลักการเสียภาษี “ได้เท่าไร เสียเท่านั้น”

...

มีการกำหนดอัตราเงินเพิ่มในกรณีที่ไม่ชำระภาษีภายในกำหนด โดยให้เสียเพิ่มร้อยละ 2 ต่อเดือน แต่ไม่เกินกว่าจำนวนภาษีที่ต้องเสีย จากปัจจุบันที่จะต้องเสียเงินเพิ่มจนกว่าจะชำระภาษีครบ ซึ่งจะช่วยให้ไม่เป็นภาระแก่ประชาชนเกินสมควร มีการกำหนดประเภทป้ายใหม่จาก 3 ประเภท เป็น 2 ประเภท และปรับเพดานอัตราภาษีป้ายให้เหมาะสมกับเหตุการณ์ปัจจุบัน โดยอ้างอิงเงินเฟ้อ รวมทั้งจีดีพีที่เปลี่ยนแปลงไป

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า กฎหมายที่ปรับปรุงใหม่ยังได้กำหนดให้มีการลดภาษีป้ายเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพความจำเป็นทางเศรษฐกิจ สังคม เหตุการณ์ กิจการ หรือสภาพแห่งท้องที่โดยตราเป็นกฎกระทรวงได้ แต่ต้องไม่เกินร้อยละ 90 ของจำนวนภาษีที่ต้องเสีย เพื่อเป็นมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนในกรณีที่เกิดสถานการณ์ไม่ปกติขึ้น เทียบกับปัจจุบันไม่มีบทบัญญัติเรื่องให้ลดภาษีเอาไว้ และยังให้อำนาจผู้บริหารท้องถิ่น หรือ รมว.มหาดไทย สามารถประกาศขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษี เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจริง และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น กรณีเกิดเหตุสาธารณภัยต่างๆ รวมถึงขยายระยะเวลาชำระภาษีเป็น 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งการประเมิน จากปัจจุบันที่ต้องชำระภาษีป้ายภายใน 15 วัน ซึ่งทั้งหมดเป็นการเพิ่มความยืดหยุ่นในการชำระภาษีของประชาชน