"เรืองไกร" ฟันธง ไร้ปัญหา "พิธา" นั่ง "ผู้นำฝ่ายค้าน" ได้ เมื่อ"ชัยธวัช" ลาออกหัวหน้าพรรค ชี้ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญกำหนด เมิน เกรียนคีย์บอร์ดถาม จะรับผิดชอบอะไร หลัง ศาลรธน.วินิจฉัย ทิม พิธา รอดคดีหุ้นไอทีวี
วันที่ 25 ม.ค. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวกับทีมข่าวการเมืองไทยรัฐออนไลน์ กรณีโลกโซเชียลมีเดีย ตั้งคำถาม จะรับผิดชอบอย่างไร หลัง ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า "ไอทีวี" ไม่ใช่สื่อมวลชนแล้ว และ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล รอดคดีหุ้นไอทีวี ทำให้เสียเวลาไป 6 เดือน ว่า จะรับผิดชอบอะไร คุณพิธา ก็ไปเรียกเงินประจำตำแหน่งคืนก็เท่านั้น พวกนักเลงคีย์บอร์ดทั้งหลาย ให้ไปอ่านกฎหมายให้มีรอยหยักในสมองบ้าง จะให้รับผิดชอบอะไร เพราะเป็นไปตามกฎหมาย ยืนยันส่วนตัว ไม่ได้มีความกังวล หรือสนใจประเภทเกรียนคีย์บอร์ดในโซเชียลแต่อย่างใด
ส่วนกรณีเกิดข้อสงสัย นายชัยธวัช ตุลาธน สส. บัญชีรายชื่อและ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ประกาศจะคืนตำแหน่งหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้กับนายพิธา แต่นายชัยธวัช ติดอยู่ที่มีตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านซึ่งต้องได้รับการโปรดเกล้าฯ จะสามารถคืนตำแหน่งหัวหน้าพรรคก้าวไกลให้นายพิธา ให้ได้เลยหรือไม่ ว่า ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน มีการโปรดเกล้าฯ เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ แต่เมื่อนายชัยธวัชลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคก้าวไกล และกรรมการบริหารพรรคทั้งชุดพ้นจากตำแหน่ง ที่ประชุมใหญ่พรรคก้าวไกล ก็สามารถเลือกนายพิธาเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ได้ ขณะที่เมื่อรัฐธรรมนูญกำหนดว่า หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านที่มี สส.จำนวนมากที่สุดเท่านั้น ที่จะสามารถเป็นผู้นำฝ่ายค้านได้ ก็ทำให้ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ ต้องมีการเสนอชื่อกราบบังคมทูลให้ได้รับการโปรดเกล้าฯ ใหม่ก็เท่านั้น สรุปว่า นายพิธา สามารถเป็นผู้นำฝ่ายค้านได้เมื่อได้รับการเสนอชื่อ
...
นายเรืองไกร ยังกล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย นายพิธา ไม่สิ้นสภาพ ส.ส.จากคดีหุ้นไอทีวี โดยมีประเด็นเรื่อง หนึ่งหุ้นก็ผิด เพราะเป็นเรื่องที่ต้องหาข้อเท็จจริง ของนักการเมือง รัฐมนตรี ส.ส.และส.ว. รวมถึงคู่สมรส และบุตรด้วย ซึ่งส่วนตัวมองว่า การ ซื้อ-ขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ บางทีซื้อเช้าขายบ่าย จะไม่ปรากฏอยู่ในสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น หรือ บอจ.5 รวมถึง บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัท หรือ บมจ.006
จึงเตรียมยกร่างคำร้องยื่นต่อ กกต.ไปไล่ตรวจสอบ ส.ส.ทั้งหมดว่า ในระหว่างการดำรงตำแหน่ง มีใครซื้อขายหุ้นที่เป็นหุ้นสื่อ ที่มีอยู่ในตลาดหลักทรัพย์หลายตัว เพราะหลายคนแจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2566 ซึ่งมีหลายคนบอกว่ามีบัญชีหุ้น