นายกฯจับเข่าคุยผู้ว่าการแบงก์ชาติ กลบภาพความไม่ลงรอย “เศรษฐา” แจงหารือภาพรวมไม่มีก้าวก่าย ติดใจชวนจิบกาแฟทุกอาทิตย์ พร้อมไปเยือนวังบางขุนพรหม นัดคุยแจกเงินหมื่นในบอร์ดดิจิทัลวอลเล็ตแบบเปิดเผย ห่วงตลาดอสังหาฯฟุบยาว สั่งเร่งอัดฉีด “ภูมิธรรม” ไล่ สว.ไปเดินตลาดดูกับตาวิกฤติ-ไม่วิกฤติ ตัวแทน ธปท.แจงนิยามวิกฤติ ศก. กลางวง กมธ.งบฯ ยกเคสมหาอุทกภัย-โควิดเป็นตัวอย่าง “ศิริกัญญา” ยันก้าวไกลไม่ยื่นตีความ พ.ร.บ.กู้เงิน เตือนผู้นำอย่าแทรกแซงแบงก์ชาติ “สรรเพชญ” จับโป๊ะรัฐบาลจ่อกู้มโหฬาร 1.1 ลล. หวั่นหนี้สาธารณะทะลักเกิน 11 ลล. รพ.ตำรวจไฟเขียว กมธ.ลุยชั้น 14 “ชัยชนะ” ไล่บี้อธิบดีราชทัณฑ์ ม็อบ 2 ฝ่ายระดมพล มติเลือก “นครินทร์” นั่ง ปธ.ศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่
หลังปรากฏภาพความคิดเห็นไม่ลงรอยกันในเรื่องของการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ล่าสุดนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง เปิดห้องทำงานทำเนียบรัฐบาล จับเข่าคุยกับนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แลกเปลี่ยนความเห็นแนวทางการแก้ปัญหาให้ประชาชน
...
นายกฯจับเข่าคุยผู้ว่าการ ธปท.
เมื่อเวลา 14.10 น. วันที่ 10 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือกับนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า นัดผู้ว่าการ ธปท.หารือเรื่องเศรษฐกิจโดยรวม เศรษฐกิจต่างประเทศ เรื่องดอกเบี้ย และเรื่องอัตราเงินเฟ้อ บอกกับผู้ว่าการ ธปท.ว่าในสถานการณ์ตลาดปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้าง รวมทั้งเรื่องของภาวะประชาชนที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เรื่องดอกเบี้ยตนไม่มีอำนาจไปก้าวก่าย ธปท.เข้าใจว่า ธปท.ต้องมีความเป็นอิสระ แค่อธิบายเหตุผลให้ฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ไม่ได้ไปสั่ง ส่วนผู้ว่าการ ธปท.ก็บอกว่ากำลังเร่งรัดเรื่องการแก้ปัญหาหนี้สินประชาชน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว “บอกว่าเรามากินกาแฟทุกอาทิตย์ก็ได้ หรือจะให้ผมไปที่แบงก์ชาติที่วังบางขุนพรหมก็ได้ เรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยกัน เพราะบางหน่วยงานต้องการข้อมูลเพื่อแก้ปัญหาต่อเนื่อง”
ขอคุยดิจิทัลวอลเล็ตเปิดเผย
ผู้สื่อข่าวถามว่าเรื่องเงินเฟ้อประเทศที่ติดลบผู้ว่าการ ธปท.ให้ความเห็นอย่างไร นายเศรษฐาตอบว่า ให้ทาง ธปท.แถลงเองดีกว่า เราให้เกียรติท่าน ครั้งนี้เราพูดคุยกันเรื่องใหญ่ๆ เป็นสัญญาณที่ดีที่มีการพูดคุยกันแล้ว เมื่อถามว่าเรื่องของเงินเฟ้อที่ติดลบนั้นหากรัฐบาลถอนมาตรการเยียวยาประชาชนเรื่องพลังงาน จะทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นหรือไม่ นายกฯตอบว่า เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องลดรายจ่ายประชาชน ต้องไปดูโครงสร้างระยะยาวว่าจะทำอย่างไรให้ราคาที่ทุกคนยอมรับได้ ส่วนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต บอกผู้ว่าการ ธปท.ว่าไปคุยกันในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ตดีกว่า จะได้แสดงความคิดเห็นกันอย่างเต็มที่ตรงไปตรงมา เห็นต่างเห็นชอบไปว่ากันในที่ประชุม เปิดเผยไม่ต้องคุยกันเป็นความลับ เมื่อถามว่ามีการหารือกันเรื่องนิยามของคำว่าวิกฤติหรือไม่วิกฤติ หรือไม่ นายกฯตอบว่า ไม่มีคำว่าวิกฤติเลย และไม่มีการพูดคุยกันว่าวิกฤติหรือไม่
เร่งแก้ตลาดอสังหาฯฟุบยาว
ต่อมาเวลา 15.30 น. นายเศรษฐายังทวีต X ระบุถึงสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดการชะลอตัวอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2562 ว่า นี่เป็นปัญหาสำคัญที่ควรต้องเร่งแก้ไข เพราะการกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์จะเกิด Multiplier effect (ผลคูณ) ต่อหลายภาคธุรกิจ วันนี้ 7 องค์กรด้านอสังหาริมทรัพย์เข้ามานำเสนอมาตรการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการลดหย่อนค่าธรรมเนียม ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา การสนับสนุนการมีบ้านหลังแรก จะเป็นการฟื้นฟูตลาดอสังหาริมทรัพย์ และภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องและเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ได้ตั้งคณะทำงานกลุ่มเล็ก เพื่อรวบรวมและนำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหานี้โดยเร็ว
“อ้วน” ไล่ สว.ไปเดินตลาดดูวิกฤติ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณี สว.ต้องการให้รัฐบาลกำหนดนิยามคำว่าวิกฤติเศรษฐกิจให้ชัดเจน เพื่อเป็นหลักเกณฑ์การพิจารณาออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ว่า วิกฤติหรือไม่วิกฤติเป็นเรื่องที่ต้องช่วยกันตอบ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นข้อถกเถียงกัน พรรคที่จะทำก็บอกว่าวิกฤติ ส่วนพรรคที่จะไม่ทำก็บอกว่าไม่มีวิกฤติ หากอยากรู้ว่าวิกฤติหรือไม่ให้ลงไปที่ตลาด ไปสอบถามจากชาวบ้าน ถ้าชาวบ้านบอกว่าไม่วิกฤติให้มาบอกรัฐบาล ส่วนกรณีที่ สว.ล่าชื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 153 รัฐบาลพร้อมชี้แจงอยู่แล้ว แต่ขณะนี้ยังรวมชื่อไม่ถึงเกณฑ์ที่จะยื่นได้ แต่หากรวมชื่อยื่นได้ก็พร้อมรับฟังและชี้แจง เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปในทิศทางดีขึ้น ไม่มีส่วนไหนที่รัฐบาลต้องกังวลใจ
ปัดแหยงไม่ถ่ายทอดสดถกงบฯ
นายภูมิธรรม ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า กมธ. จะทำงบประมาณออกมาให้ชัดเจนและเร็วที่สุด ส่วนการไม่อนุญาตให้ถ่ายทอดสดการประชุมตามที่พรรคก้าวไกลเสนอมา เนื่องจากเรื่องงบประมาณยังไม่ได้ข้อสรุป การพูดคุยกันบางเรื่องมีส่วนเกี่ยวพันกับคนนอกอาจมีปัญหาที่ต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่แค่ผู้กล่าวถึงคนเดียวอาจเกี่ยวพันไปถึงเจ้าหน้าที่ด้วย ข้อเสนอดังกล่าวเข้าใจดีว่ามีเจตนาต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วม แต่ต้องดูหลายเรื่องประกอบกัน ไม่ใช่ดูเพียงประเด็นเดียว กมธ.ไม่ได้ปิดกั้นการตรวจสอบ เพราะมีการถ่ายทอดภายในอาคารรัฐสภา ให้สื่อมวลชนติดตามได้ ยืนยันไม่ได้กลัวเรื่องการให้ประชาชนรับทราบ แต่เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาคดีความ
พท.ดิ้นผู้ว่าการ ธปท.ไม่มาชี้แจง
ที่รัฐสภา เวลา 09.30 น. มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ประธาน กมธ. เป็นประธานการประชุม มีการเชิญผู้แทนกระทรวงการคลัง ธปท. สำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และสำนักงบประมาณ มาให้ข้อมูลภาพรวมเศรษฐกิจ มีช่วงหนึ่งนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สส.แพร่ และนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ กมธ.ตัวแทนพรรคเพื่อไทย แสดงความไม่พอใจที่นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท. ไม่ยอมมาชี้แจงด้วยตัวเอง ขณะที่ตัวแทน ธปท.ยืนยันว่านายเศรษฐพุฒิมีภารกิจเร่งด่วน กมธ.ในสัดส่วนพรรคเพื่อไทยยังคงกล่าวท้วงติงการทำงานของ ธปท.หลายเรื่อง โดยเฉพาะการปล่อยให้เกิดช่องว่างระหว่างดอกเบี้ยเงินกู้กับดอกเบี้ยเงินฝากห่างกันมาก สร้างภาระให้ประชาชนที่เป็นหนี้จำนวนมาก
แบงก์ชาติแจงนิยามวิกฤติ ศก.
ขณะที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล สอบถามผู้แทนทั้ง 4 หน่วยงาน ถึงนิยามคำว่า “วิกฤติเศรษฐกิจ” มีปัจจัยอะไรบ้าง ตัวแทน ธปท.ชี้แจงว่า ธปท. โดยคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กบง.) เล็งเห็นถึงความเดือดร้อนประชาชนจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น กนง.จึงมีมาตรการไปยังธนาคารพาณิชย์ให้ลงไปดูแลลูกหนี้ ให้มีการปรับโครงสร้างหนี้ ทั้งก่อนและหลังเป็นลูกหนี้เอ็นพีแอล ส่วนการปรับดอกเบี้ยนโยบายในปัจจุบัน มองว่ามีความเหมาะสมกับศักยภาพประเทศ และสอดคล้องการเจริญเติบโตเศรษฐกิจ ขณะที่นิยามคำว่าวิกฤติเศรษฐกิจ ต้องพิจารณาข้อมูลรอบด้าน และหลายปัจจัยที่เกิดขึ้น เช่น สถาบันการเงินมีหนี้ไม่เกินรายได้จำนวนมาก จนกระทบต่อสถานะธนาคาร การเกิดภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นเวลานาน รวมถึงการเกิดวิกฤติเศรษฐกิจไม่คาดคิด เช่น โควิด-19 ที่พอจะเป็นตัวอย่างวิกฤติเศรษฐกิจ หรือแม้แต่ปัญหาอุทกภัยที่ทำให้การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจติดลบ จนต้องมีการออก พ.ร.ก.ในขณะนั้น
“ศิริกัญญา” ไม่ยื่นตีความ พ.ร.บ.กู้เงิน
น.ส.ศิริกัญญาให้สัมภาษณ์ถึงการเดินหน้าผลักดันร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทของรัฐบาล หลังคณะกรรมการกฤษฎีกาทำความเห็นกลับมายังรัฐบาลว่า ยืนยันว่าพรรคก้าวไกลไม่มีความคิดจะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน เพราะหน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลให้เป็นไปตามวินัยการเงินการคลัง สามารถพิจารณาได้ว่าควรทำ หรือไม่ควรทำอยู่แล้ว “น่าเสียดายที่กฤษฎีกาไม่ได้ตีความตรงๆ ว่าสรุปแล้วทำได้หรือไม่ ควรทำหรือไม่ เสียโอกาสที่อุตส่าห์รอคอยมา 1 เดือน แต่คำตอบกลับไม่ชี้ชัดฟันธง” ส่วนกรณีที่นายกฯเชิญผู้ว่าการ ธปท. เข้าหารือที่ทำเนียบรัฐบาล ต้องยืนยันในหลักการความเป็นอิสระของธนาคารกลางที่ทุกประเทศจำเป็นต้องเดินตามหลักการนี้ เพราะไม่ได้กระทบเพียงแค่นโยบายทางการเงิน แต่รวมถึงเครดิตเรตติ้ง เพราะอาจถูกคาดการณ์ว่ามีการแทรกแซงเพื่อให้ลดดอกเบี้ย ต้องขอให้นายกฯทำเรื่องนี้ด้วยความระมัดระวัง เพราะปกติจะไม่มีการแทรกแซงระหว่างฝ่ายบริหารและธนาคารกลาง
“สรรเพชญ” ให้ยึดกฤษฎีกาชี้แนะ
นายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ข้อเสนอแนะของกรรมการกฤษฎีกาไม่ได้ฟันธงว่ารัฐบาลสามารถจัดทำนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตได้หรือไม่ แต่กำลังบอกรัฐบาลว่าหากจะจัดทำนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตต้องพิจารณาภายใต้กฎหมายใดเป็นพิเศษ นโยบายรัฐบาลคือฉันทามติของสังคมที่ไม่สามารถหักล้างได้ นโยบายนี้เป็นนโยบายเรือธงพรรคเพื่อไทยที่สร้างความฮือฮาให้ประชาชน แต่ภายใต้ความฮือฮามีข้อกังขาถึงความเป็นไปได้ของนโยบาย จนถึงวันนี้ยังไม่มีความชัดเจน เพราะรัฐบาลไม่มีเงินมาทำ และยังมีความสับสนว่าจะกู้หรือไม่กู้ จะใช้เงินผ่านแพลตฟอร์มหรือแอปพลิเคชัน ที่น่าสังเกตคือการระบุที่มาของเงิน จาก 4 แหล่ง ไม่มีเรื่องของการกู้ หมายความว่านโยบายนี้จะสามารถดำเนินการได้โดยใช้เงินที่มีอยู่แล้ว ไม่ต้องสร้างภาระเพิ่ม
จับโป๊ะ รบ.จ่อกู้มโหฬาร 1.1 ลล.
นายสรรเพชญกล่าวต่อว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่าหากรัฐบาลจะดึงดันดำเนินการนโยบายนี้ให้ได้ภายในปี 2567 เท่ากับรัฐบาลชุดนี้จะต้องกู้เงินถึง 1.1 ล้านล้านบาท เพราะในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯปี 2567 ไม่ปรากฏนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต แต่มีการกู้เงินเพื่อชดใช้เงินคงคลังกว่า 6 แสนล้านบาท และหากดำเนินนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต รัฐบาลต้องกู้เพิ่มอีก 5.6 แสนล้านบาท รวมแล้วรัฐบาลนายเศรษฐา จะสร้างหนี้กว่า 1.1 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ การกู้เงินของรัฐบาลต้องเป็นไปตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะมาตรา 53, 6, 7 และมาตรา 9 ขณะที่รัฐบาลมีหนี้สาธารณะคงค้าง ณ เดือน พ.ย.2566 อยู่ที่ 11 ล้านล้านบาท จึงไม่เห็นด้วยหากต้องกู้เงินมาทำนโยบายนี้ ความท้าทายของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยคือมาตรฐานนโยบายการเมืองกับความถูกต้องทางกฎหมาย
ก.ก.โวย ก.ม.อากาศสะอาดถูกดอง
ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทน ราษฎร เป็นประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระประชุม นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หารือว่าในการประชุมสภาฯวันที่ 11 ม.ค. มีวาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด จำนวน 4 ฉบับ จากทั้งหมด 7 ฉบับ แต่ปรากฏว่าไม่มีร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดฉบับพรรคก้าวไกลรวมอยู่ด้วย ทั้งที่เป็นร่างกฎหมายที่มีเนื้อหาเดียวกับของฝ่ายรัฐบาล เพราะนายกฯยังไม่ลงนาม ไม่รู้ต้องการตัดตอนพรรคก้าวไกลหรือไม่ ก่อนหน้านี้ร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ที่พรรคก้าวไกลเสนอ ยังนำมาพิจารณาพร้อมกันได้ ดูเหมือนอากาศไม่สะอาดตั้งแต่ต้น ขณะที่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากขอคำอธิบาย เหตุใดไม่บรรจุร่างกฎหมายพรรคฝ่ายค้านที่มีหลักการเดียวกันพิจารณาไปด้วยกัน อย่าเลือกปฏิบัติเพราะเห็นเป็นกฎหมายของฝ่ายค้าน
รัฐบาลอ้างไม่ได้กีดกันแต่ส่งมาช้า
ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุที่ยังไม่ลงนามว่า ร่างฯยังไม่มา มาช้า ส่วนที่บอกว่าส่งมาตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค. ตนยังไม่ทราบ ยังไม่เห็น ลงนามเท่าที่เห็น ยืนยันว่าไม่มีการกีดกันอะไรทั้งสิ้น
นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด รวม 4 ฉบับที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ได้แก่ ฉบับ ครม. นำเสนอโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฉบับพรรคเพื่อไทย ฉบับพรรคภูมิใจไทย และฉบับภาคประชาชน 22,000 รายชื่อ และจะมีอีก 2 ฉบับที่จะเสนอประกบ คือ ร่างของพรรคประชาธิปัตย์ และร่างพรรคพลังประชารัฐ ส่วนฉบับของพรรคก้าวไกลที่นายกฯไม่ได้ลงนามนั้น เป็นเรื่องของไทม์ไลน์ และขั้นตอนที่นำเข้าพิจารณาใน ครม.ไม่ทัน
“วันนอร์” ชี้หลักการประกบกันได้
นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย รองประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า เรื่องนี้วิปรัฐบาลประสานไปยังรัฐบาลให้เร่งดำเนินการแล้ว ไม่ใช่ไม่ร้อนใจ เพราะเป็นกฎหมายสำคัญที่เป็นประโยชน์
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า จะรีบประสานงานและติดตามเรื่องดังกล่าว ถึงเหตุผลที่รัฐบาลยังไม่ส่งร่างกฎหมายมา มองว่าร่างกฎหมายที่มีหลักการเดียวกัน ควรพิจารณารวมกันทีเดียว จะได้จบ ไม่ค้างอยู่
ฝ่ายค้านจี้นายกฯอย่าทำอิดออด
ต่อมาเวลา 14.30 น. สส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดยนายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร สส.เชียงใหม่ พรรคก้าวไกล นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมแถลงเรียกร้องให้นายกฯลงนามบรรจุร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดของฝ่ายค้าน เข้าเป็นเรื่องเร่งด่วนในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 11 ม.ค. นายภัทรพงษ์กล่าวว่า ได้ยินมาว่าสาเหตุที่นายกฯไม่ลงนาม เพราะร่างของพรรคก้าวไกลไม่เหมือนกับร่างของ ครม. ยืนยันว่าไม่จริง เพราะหลักการและเนื้อหามีเป้าหมายเดียวกัน คือ แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 เหมือนกัน และยังช่วยเสริมสร้างให้กฎหมายฉบับนี้สมบูรณ์มากที่สุด ขอย้ำว่าร่างของพรรคก้าวไกลมีการเอาผิดไปถึงผู้ประกอบการ นายทุนปลูกข้าวโพด หวังว่านายกฯจะเห็นตรงกันในจุดนี้ ไม่มองว่าความแตกต่างจะสร้างความขัดแย้ง
ขณะที่นายร่มธรรมกล่าวว่า สส.พรรคประชา ธิปัตย์ร่วมกันผลักดันร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพ เพราะเห็นปัญหานี้มายาวนาน เป็นเรื่องน่าเศร้าใจหากร่างกฎหมายของพวกเราไม่ได้ถูกพิจารณา แม้มีรายละเอียดปลีกย่อยแตกต่างกัน แต่จุดประสงค์เดียวกัน เพื่อให้ประชาชนจะได้เห็นภาพและเปรียบเทียบได้ ขอส่งเสียงถึงนายกฯ ทุกคนต้องการให้มีกฎหมายนี้ออกมาบังคับใช้เพื่อแก้ไขมลพิษทางอากาศ ทวงคืนอากาศบริสุทธิ์ คืนลมหายใจให้กับพี่น้องประชาชนทุกคน ไม่อยากให้เป็นเกมสกัดขาทางการเมือง
มอบโอวาท 1,220 เยาวชนดีเด่น
ช่วงสายที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง ให้โอวาทแก่เด็กและเยาวชนดีเด่น ที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศ 1,220 คน เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ 2567 ว่า รู้สึกปลาบปลื้มใจที่เด็กไทยทุกคนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ นำชื่อเสียงอันน่าภาคภูมิมาสู่ประเทศชาติ ขอชื่นชมกระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รัฐบาลตระหนักดีในความสำคัญของการพัฒนากำลังคนของชาติ สร้างความร่วมมือทุกภาคส่วนเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา คุณภาพชีวิต รวมทั้งปลูกฝังความเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีความภูมิใจในชาติ ยึดมั่นสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สิ่งสำคัญต้องมีความรู้สึกรู้จักกตัญญูรู้คุณต่อบิดามารดา ผู้มีพระคุณ และประเทศชาติ ประพฤติตนอยู่ในกรอบของกฎหมาย ตระหนักถึงความร่วมมือในการช่วยเหลือสังคมและประเทศชาติ สอดรับกับคำขวัญวันเด็กปีนี้ว่า “มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่าง ร่วมกันสร้างประชาธิปไตย”
ปลื้มเด็กสาธิต มศว.เชียร์หงส์
หลังกล่าวมอบโอวาท นายเศรษฐาเดินทักทายเด็กและเยาวชน มีเด็กๆมาขอเซลฟี่เรียกเสียงกรี๊ดอย่างสนุกสนาน จังหวะหนึ่งได้อุ้มเด็กนักเรียนชายจากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตรขึ้นมาถ่ายรูปด้วย พร้อมชี้ไปที่ตราอกเสื้อเพราะเป็นโรงเรียนเก่าของนายเศรษฐา ขณะที่เด็กชายกลุ่มหนึ่งบอกว่า “ผมเชียร์ลิเวอร์พูลครับ” ทำเอานายกฯชูนิ้วโป้งขึ้นมาพร้อมบอกว่าแบบนี้เอาไป 2 เพราะเป็นแฟนบอลทีมลิเวอร์พูลเหมือนกัน จากนั้นนายกฯถ่ายรูปหมู่กับเยาวชนทั้งหมดและเดินชมกิจกรรมงานแสดงฝีมือของเด็กๆ พร้อมเดินทักทายพูดคุยและถ่ายรูปร่วมกับผู้ปกครอง
แอร์เอเชียปักหมุดไทยศูนย์กลาง
นายเศรษฐากล่าวว่า ได้หารือกับนายโทนี เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แคปิตอลเอ (Capital A) บริษัทแม่ของกลุ่มสายการบินแอร์เอเชีย นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ประธานผู้บริหารบริษัทสายการบินแอร์เอเชียมาพูดคุย จะให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบินของสายการบินแอร์เอเชีย เตรียมย้ายจุดศูนย์กลางมาอยู่ที่ประเทศไทย เพราะเชื่อว่ามีนโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยวที่ดีที่สุดตอนนี้แอร์เอเชียมีความเชื่อมั่นในสนามบิน และแผนงานระยะยาว รวมถึงการลงทุนของไทย มีการสั่งซื้อเครื่องบินอีกประมาณ 200 ลำ มาให้บริการมากขึ้น รวมทั้งการบริการเชื่อมต่อเมืองรองเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวมากขึ้น
นายกฯนำคณะถึงเชียงใหม่แล้ว
จากนั้นเวลา 16.00 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง นำคณะเดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 10-12 ม.ค. ถึงท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 อ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อเวลา 17.15 น. ทั้งนี้ นายกฯมีกำหนดการตรวจการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง การแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 การส่งเสริมการท่องเที่ยว และการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ รวมถึงการส่งเสริมการอนุรักษ์งานประเพณีศิลปวัฒนธรรม
ชื่นใจ นทท.ต่างชาติเดินสตรีทฟู้ด
หลังเดินทางถึงโรงแรมที่พัก นายกฯได้พูดคุย กับนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ ร.ท.สมบัติ บัญชาเมฆ หรือบัวขาว บัญชาเมฆ นายกฯกล่าวว่า ชวนปลัด กระทรวงทรัพย์ฯมาพูดคุยและเตรียมประชุมตรวจไฟป่า โชคดีที่ได้เจอกับ “บัวขาว” ที่มาซ้อมมวยพอดี เลยพูดคุยกันถึงการยกระดับมวยไทย เป็นซอฟต์พาวเวอร์ไทย จากนั้นนายกฯ ไปเดินตลาดสตรีทฟู้ดช้างเผือก ต.ศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่ มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม และบัวขาว ร่วมคณะ บรรยากาศคึกคัก มีการทักทายและเซลฟี่กับนักท่องเที่ยว และยังสั่งลูกตาลมะพร้าวกะทิน้ำเชื่อม ได้เห็นบรรยากาศนักท่องเที่ยวก็ชื่นใจ
รอชมแมตช์ “บัวขาว-ปาเกียว”
นายกฯกล่าวว่า ที่มาเจอกับบัวขาวบังเอิญทีมงานเป็นเพื่อนกัน จึงเชิญมากินข้าวด้วย จะซื้อตั๋ว ไปชมไฟต์ประวัติศาสตร์แมตช์หยุดโลก “THE MATCH OF PHANTOMS” ที่จะชกกับ “แมนนี่ ปาเกียว” ในวันที่ 20 เม.ย. ด้วย ถือว่าเป็นการโปรโมต ประเทศ นอกจากนี้ ยังชวนผู้บริหารในโครงการฝึกอบรม การพัฒนาผู้บริหารระดับสูง ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เยี่ยมชมโครงการในพระราชดำริ ระหว่างวันที่ 19-20 ม.ค. จะมีผู้บริหารภาคเอกชนและหน่วยงานราชการ 100 กว่าคน ตอบรับร่วมลงพื้นที่ด้วย จากนั้น จึงเดินทางกลับที่พัก
รพ.ตำรวจไฟเขียว กมธ.ลุยชั้น 14
วันเดียวกัน นายชัยชนะ เดชเดโช ประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง การนำคณะ กมธ.ไปศึกษาดูงานที่บริเวณชั้น 14 รพ.ตำรวจ ที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นอน รักษาตัวอยู่ว่า พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ (สบ.8) รพ.ตำรวจ ส่งหนังสือมาแล้ว ให้ กมธ.เดินทางไปถึงเวลา 10.00 น. วันที่ 12 ม.ค. มอบหมายให้ พ.ต.อ.สฤษติ์ พุทธพงษ์ศิริพร ผกก.ฝ่ายยุทธศาสตร์ กองบังคับการอำนวยการ รพ.ตำรวจ เป็นผู้ประสานงาน ศึกษาดูงาน คงมีการสอบถามขั้นตอนการปฏิบัติต่อ ผู้ต้องขังที่มาเป็นผู้ป่วยของ รพ.ตำรวจ เจ้าหน้าที่เข้าเวร บันทึกภาพกี่ชั่วโมง กมธ.จะสอบถามถึงนักโทษทุกคน รวมถึงนายทักษิณด้วย
บี้ “อธิบดีกรมราชทัณฑ์” เร่งแจง
เมื่อถามว่า ให้สื่อมวลชนติดตามไปทำข่าวด้วย หรือไม่ นายชัยชนะตอบว่า สื่อมวลชนรอทำข่าวได้ บริเวณด้านหน้า เนื่องจาก รพ.ตำรวจ อนุญาตเฉพาะกมธ.เท่านั้น กมธ.จะแถลงให้ทราบต่อไป เมื่อถามย้ำว่า เป้าหมาย กมธ. เพื่อไปติดตามดูนายทักษิณ ว่ายังอยู่ชั้น 14 เท่านั้นหรือไม่ นายชัยชนะตอบว่า ไปดูผู้ต้องขังคนอื่นๆด้วย เทียบกับนายทักษิณเหมือนกัน หรือไม่ คนอื่นพักห้องไหน ทำไมนายทักษิณถึงพัก อยู่ชั้น 14 เมื่อถามว่า หากพบการเอื้ออภิสิทธิ์ชนจริง จะดำเนินการอย่างไร นายชัยชนะตอบว่า จะดำเนินการ ตามกฎหมายที่มีอยู่ ส่วนการสอบถามอาการป่วยของนายทักษิณ แพทยสภาชี้แจงไว้ชัดเจนว่าเป็นกฎหมายที่สงวนไว้เฉพาะผู้ป่วย ขอฝากไปถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ที่ยังไม่ได้ตอบกลับหนังสือมา คิดทบทวน ให้ดี ท่านต้องให้ความร่วมมือกับ กมธ. มิเช่นนั้น จะเป็นจำเลยของสังคมไปตลอดชีวิต วันนี้คาใจกรมราชทัณฑ์ที่ยังไม่ตอบหนังสือของ กมธ.
ม็อบขู่คนช่วย “ทักษิณ” ระวังคุก
ที่ห้องประชุมอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว นายพิชิต ไชยมงคล นายนัสเซอร์ ยีหมะ แกนนำ เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นายวสันต์ ทองมณโฑ นายวัชระ เพชรทอง อดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ แกนนำกลุ่มนักรบสีน้ำเงิน และนายอานนท์ กิ่งแก้ว แกนนำกลุ่มศูนย์รวมประชาชน ปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ร่วมแถลงกำหนดการจัด กิจกรรมชุมนุม “ทวงคืนความยุติธรรม” ค้างคืนที่ หน้าทำเนียบรัฐบาลระหว่างวันที่ 12-14 ม.ค. ที่เชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ์ แสดงจุดยืนและส่งสัญญาณไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องที่อนุญาตให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไม่ได้ถูกคุมขังในเรือนจำ แต่ถูกนำตัว รักษาตัวอยู่ รพ.ตำรวจถึง 139 วัน นายพิชิตกล่าวว่า เตือนไปยังข้าราชการการเมือง ข้าราชการกรมราชทัณฑ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ดูตัวอย่างคดีจำนำข้าวให้ดี มีข้าราชการจำนวนมากติดคุก ครั้งนี้เช่นกันเป็นทุจริตต่อกระบวนการยุติธรรมไทย
เสื้อแดงสาย พท.ออกโรงป้องคนดี
อีกด้าน นางสุดสงวน สุธีสร อดีตนักวิชาการ ม.ธรรมศาสตร์ พร้อมคณะ ร่วมกันแถลงผ่านสถานีโทรทัศน์ทีวี 24 ของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย ประกาศชวนคนเสื้อแดงไปชุมนุมกัน ที่แยกราชประสงค์ วันที่ 12 ม.ค. ให้กำลังใจนายทักษิณ นางสุดสงวนกล่าวว่า ประสานตำรวจ สน.ลุมพินี และ สน.ปทุมวัน ขอชุมนุมไว้แล้ว คาดว่าจะมีมวลชนจาก จ.เชียงใหม่ จ.ศรีสะเกษ จ.นครราชสีมา มาร่วมด้วย จะรวมตัวตั้งแต่ 08.00 น. ที่หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ฝั่งถนนราชดำริ ร่วมกันร้องเพลง “โปรดช่วยกัน รักษาคนดี” และตั้งเวทีปราศรัยให้มวลชนสลับกัน ขึ้นมากล่าวถึงคุณงามความดีของนายทักษิณ ที่เคยทำ ต่อประเทศชาติก่อนถูกรัฐประหาร และจะยุติการชุมนุมเวลาประมาณ 17.00 น.
มท.1 ฟันไม่ยั้งโกงสอบ ขรก.ท้องถิ่น
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย ให้นโยบายทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสอบคัดเลือกบุคลากรเข้ารับราชการในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในปี 2567 ต้องปลอดการทุจริต จะร่วมกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบเข้มงวดทุกรายไม่มีละเว้น รมว.มหาดไทยได้รับรายงานว่า ในอดีตมีการเรียกรับเงินจากผู้สมัครสอบในหลายจังหวัด ประชาชนถูกหลอกจำนวนมาก คดีอยู่ในศาลหลายคดี ขอเน้นย้ำว่าผู้เกี่ยวข้องทุกขั้นตอนต้องร่วมกันรับผิดชอบทั้งทางแพ่ง อาญา และวินัย ตั้งแต่กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น มหาวิทยาลัยผู้รับจ้างจัดการสอบ ผู้เข้าสอบ ผู้เรียกรับเงิน และผู้ประกาศผลสอบ ในยุคนายอนุทิน เป็น รมว.มหาดไทย ต้องไม่มีการทุจริตซื้อขายตำแหน่ง
ศาล รธน. พร้อมชี้ขาด 3 คดีร้อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเผยแพร่เอกสารข่าว การนัดอ่านคำวินิจฉัย 3 คดีที่จะมีขึ้นในเดือน ม.ค. คือคดีวินิจฉัยคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรี ของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีต รมว.คมนาคม วันที่ 17 ม.ค. คดีหุ้นสื่อไอทีวีฯของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล วันที่ 24 ม.ค. และคดีนายพิธาและพรรคก้าวไกลเสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมยกเลิก ป.อาญามาตรา 112 ใช้เป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่งหรือไม่ ในวันที่ 31 ม.ค. โดยศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งกำหนดบุคคลให้เฉพาะผู้ร้อง ผู้ถูกร้อง ผู้รับมอบอำนาจหรือผู้รับมอบฉันทะ หรือผู้ที่ศาลอนุญาต รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่เท่านั้นอยู่ในห้องพิจารณาคดีในวันดังกล่าว และให้สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญจัดช่องทางการรับฟังการอ่านคำวินิจฉัยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน และสื่อมวลชน
เลือก “นครินทร์” ปธ.ศาล รธน.ใหม่
วันเดียวกัน คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ทั้ง 9 คน ประกอบด้วย นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ นายปัญญา อุดชาชน นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม นายวิรุฬห์ แสงเทียน นายจิรนิติ หะวานนท์ นายนภดล เทพพิทักษ์ นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ นายอุดม รัฐอมฤต และนายสุเมธ รอยกุลเจริญ ร่วมประชุมเพื่อลงมติคัดเลือกประธานศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่ แทนนายวรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ที่ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ครบ 9 ปี และต้องพ้นตำแหน่งไปเมื่อวันที่ 9 ก.ย.2566 ผลการลงคะแนนปรากฏว่า นายนครินทร์ได้คะแนน 5 เสียง นายจิรนิติ ได้ 2 เสียง และนายปัญญา ได้ 2 เสียง ทำให้นายนครินทร์ได้รับเลือกเป็นประธานศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่ สำหรับนายนครินทร์ได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อเดือน พ.ย. 2558 มีวาระการดำรงตำแหน่ง 9 ปี ตามรัฐธรรมนูญ จะพ้นจากตำแหน่งในเดือน พ.ย.2567 นี้
ศาลฎีกาฟันอดีต 3 สส.ภท.เสียบบัตร
ที่ศาลฎีกา ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษาคดีที่ คมจ.3/2564 หรือ คมจ.1/2567 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานอัยการสูงสุด ยื่นฟ้องนายฉลอง เทิดวีระพงศ์ อดีต สส.พัทลุง นายภูมิศิษฏ์ คงมี อดีตสส.พัทลุง และนางนาที รัชกิจประการ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย กรณีเสียบบัตร สส.แทนกันในการประชุมสภาฯ เมื่อวันที่ 8-11 ม.ค.2563 ศาลพิพากษาว่าให้ผู้คัดค้าน 1 และ 2 พ้นจากตำแหน่งนับแต่วันที่ 3 ก.ย.2564 ให้ผู้คัดค้านที่ 1 และ 2 หยุดปฏิบัติหน้าที่ เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้คัดค้านทั้ง 3 ตลอดไป และไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ กับให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้คัดค้านทั้ง 3 มีกำหนดเวลา 10 ปีนับแต่วันที่ศาลฎีกามีคำพิพากษา ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 235 วรรคสาม และวรรคสี่ พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตมาตรา 87 ประกอบมาตรา 81 คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
มีรายงานว่า ในส่วนคดีอาญา เมื่อวันที่ 18 พ.ค.2566 ศาลฎีกานักการเมืองพิพากษาจำคุกอดีต สส.พรรคภูมิใจไทย 3 ราย จำคุกคนละ 9 เดือน ไม่รอลงอาญา ให้พ้นจากตำแหน่งและตัดสิทธิทางการเมือง กรณีเดียวกันนี้ คดีอยู่ระหว่างชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์
“สมศักดิ์” ถกมาเลย์ดับไฟใต้
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ ให้การต้อนรับ พล.อ.ตันศรี ดาโต๊ะสรี ซุลกิฟลี ไซนัล อะบีดิน ผู้อำนวยความสะดวกในกระบวนการพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายสมศักดิ์กล่าวว่า การหารือกับ พล.อ.ตันศรี เพื่อสร้างความเข้าใจการทำงานให้ลงตัว รวมถึงกำหนดกฎเกณฑ์การพูดคุย เตรียมพร้อมให้เกิดความรวดเร็ว แต่การพูดคุยสันติสุขครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่นั้นยังไม่ทราบ เมื่อถามถึงกรณีภาคประชาสังคมยื่นหนังสือถึงเลขาธิการสหประชาชาติว่า ถูกภาครัฐใช้การดำเนินคดีปิดปากกว่า 40 คดี สวนทางการพูดคุยสันติภาพหรือไม่ นายสมศักดิ์ตอบว่า ถ้าเรายกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินในบางอำเภอ แล้วใช้กฎหมายความมั่นคงแทน จะทำให้การแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ง่ายขึ้น ขอยืนยันว่าทั้ง 2 ประเทศต้องทำหลักการให้ชัดเจนและดำเนินไปตามแนวทางที่วางร่วมกันเพื่อไปสู่เป้าหมาย
สมช.ขอต่อยอดแนวทางเดิม
ขณะที่นายฉัตรชัย บางชวด รักษาการเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนใต้กล่าวว่า การหารือวันนี้เพื่อนำคณะพูดคุยของฝ่ายรัฐทั้ง 2 ประเทศมาพูดคุยกัน กำหนดแนวทางการทำงาน และขั้นตอนที่จะไปพูดคุยที่มาเลเซีย ยืนยันว่าจะสานต่อการพูดคุยสันติสุขในแนวทางเดิม โดยใช้แผนสันติสุขแบบองค์รวมหรือ JCPP ที่ทำกับ BRN และคนในพื้นที่ก็มีส่วนสำคัญ คาดว่าจะพิจารณาร่างดังกล่าวกันในเดือน มิ.ย. โดยจะไปพูดคุยกับฝั่งมาเลเซีย ขั้นต้นคาดหวังว่าจะมีข้อตกลงสันติสุขภายในเดือน ธ.ค. หรือช่วงต้นปีหน้า แต่ปัจจุบันขึ้นอยู่กับสถานการณ์และสภาพแวดล้อม สุดท้ายต้องเป็นเรื่องของคนไทยด้วยกันเอง ที่ต้องหาข้อสรุปขับเคลื่อนร่วมกัน แต่ความไว้เนื้อเชื่อใจเป็นส่วนสำคัญ จำเป็นต้องให้ทางมาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวกสร้างความไว้วางใจให้ผู้เห็นต่างเชื่อมั่นว่ารัฐจริงจังที่จะแก้ไขปัญหา
ยันชุดมาลายูใส่ได้เต็มที่ไม่ผิด
นายฉัตรชัยกล่าวว่า ส่วนเรื่องที่กองทัพภาค ที่ 4 (ทภ.4) แจ้งความดำเนินคดีกรณีมีผู้สวมชุดมาลายูนั้น อาจเป็นความเข้าใจผิด ไม่ได้มีข้อห้าม ใดๆทั้งสิ้น เป็นไปตามนโยบายจังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐบาล เป็นสิ่งสวยงาม อัตลักษณ์ วัฒนธรรม ทุกส่วนสามารถดำเนินการได้อย่างเต็มที่ ส่วนการกระทำความผิดเป็นเรื่องของ ทภ.4 ที่จะดำเนินการตามขั้นตอน ต้องปล่อยให้กระบวนการดำเนินการไป การพูดคุยภาพใหญ่ประชาชนในพื้นที่ต้องการให้ดำเนินการต่อคู่ขนานกันไป
เล็งปันขุมทรัพย์ทับซ้อนกับเขมร
อีกเรื่อง นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในโอกาสที่สมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนต นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา เดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 ก.พ. จะมีการหารือนำไปสู่การแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับพื้นที่ที่ไทย-กัมพูชา อ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน (overlapping claims area-OCA) บนพื้นฐานของหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และใช้ประโยชน์ร่วมกันจากทรัพยากรธรรมชาติใต้ทะเล เชื่อมั่นจะช่วยยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ เพิ่มความมั่นคงทางพลังงาน โดยนายกฯจะพยายามแสวงหาทางออกที่เป็นที่ยอมรับของทั้ง 2 ประเทศ เชื่อมั่นว่ามิตรภาพและนโยบายต่างประเทศด้วยความเป็นมิตรกับทุกประเทศจะทำให้บรรลุข้อตกลงกันได้ ทั้งนี้ที่รัฐบาลเร่งเจรจากรณีพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา เพื่อนำทรัพยากรมาแบ่งปันใช้ประโยชน์ แก้ปัญหาค่าพลังงานในไทย โดยเฉพาะก๊าซจากพื้นที่ทับซ้อนจะทำให้ประเทศไทยสามารถผลิตไฟฟ้าในราคาที่ถูกลง ช่วยลดค่าใช้จ่ายของประชาชน และเพิ่มความสามารถการแข่งขันของประเทศ
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่