“ปานปรีย์” รมว.ต่างประเทศ เผย 1 มี.ค. 67 เริ่มยกเว้นวีซ่าถาวรไทย-จีน ย้ำ พำนักได้ไม่เกิน 30 วัน รวมไม่เกิน 90 วัน ภายในช่วงเวลา 180 วัน เตรียมบินไปลงนามความตกลง ชี้ เป็นผลสำเร็จจากนายกฯ เยือนจีน
วันที่ 2 มกราคม 2567 นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบการจัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่าด้วยการตรวจลงตราหรือการยกเว้นวีซ่าซึ่งกันและกัน สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาและหนังสือเดินทางกึ่งราชการ และเห็นชอบให้ตนเดินทางไปลงนามความตกลงภายในเดือนมกราคม หรือต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2567 เพื่อให้การเดินทางไปมาระหว่างกันเกิดความราบรื่น เนื่องจากมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (วีซ่าฟรี) แก่นักท่องเที่ยวจีน (ผ.30) เป็นการชั่วคราวจะสิ้นสุดในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567
“สาระสำคัญร่างความตกลงฯ ระบุให้ยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาของไทยและผู้ถือหนังสือเดินทางกึ่งราชการ และหนังสือเดินทางธรรมดาของจีน สามารถพำนักได้ไม่เกิน 30 วัน และรวมระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน ภายในช่วงเวลา 180 วัน ยกเว้นกรณีการพำนักถาวร การทำงาน การศึกษา กิจกรรมด้านสื่อ หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่จำเป็นต้องได้รับการอนุญาตล่วงหน้า”
นายปานปรีย์ ระบุต่อไปว่า ความตกลงนี้เป็นผลมาจากที่นายกรัฐมนตรีไปเยือนจีนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 16-19 ตุลาคม 2566 และได้หารือกับ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยขอให้ทั้ง 2 ฝ่าย มีการจัดทำความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาซึ่งกันและกัน ต่อมาเมื่อวันที่ 6-7 ธันวาคม 2566 ตนได้ไปร่วมประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ที่กรุงปักกิ่ง และได้หารือทวิภาคีกับ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน โดยหยิบยกเรื่องการยกเว้นวีซ่าให้กับคนไทย ซึ่งนายหวัง อี้ เห็นชอบด้วย จึงได้เสนอขอตั้งคณะทำงานทั้งสองฝ่ายมาหารือกัน จากนั้นวันที่ 21-22 ธันวาคม 2566 คณะทำงานฝ่ายไทย นำโดยรองอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก ได้เจรจากับรองอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศของจีน ที่กรุงปักกิ่ง และเห็นพ้องที่จะให้ความตกลงฯ มีผลใช้บังคับภายในวันที่ 1 มีนาคม 2567
...