ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย วิเคราะห์คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เชื่อออก 3 แนวทาง ยกคำร้อง-ยื่นร่างใหม่-ยุบพรรค แต่เชื่อไม่กล้าฝืนกระแสสังคม ถึงขั้นสั่งให้ยุบพรรค เตรียมประชุม ร่างคำแถลงปิดคดี 10 กรากฎาคม...
วันที่ 9 ก.ค.ที่พรรคเพื่อไทย นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมประชุมกับทีมกฎหมายของพรรคเพื่อไทยเพื่อเตรียมความพร้อมถึงการแถลงปิดคดีแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันพุธที่ 11 ก.ค.ว่า ทีมกฎหมายได้หารือถึงสิ่งที่ฝ่ายผู้ถูกร้องได้ชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ซึ่งมีบางเรื่องต้องชี้แจงให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ทั้งนี้คำแถลงปิดคดีนั้นในส่วนของประธานสภาฯ จะมอบให้สภาฯ เป็นผู้เขียนคำแถลงปิดคดี ส่วนรัฐบาลจะมอบให้คณะกรรมการกฤษฎีกาดำเนินการ ขณะที่พรรคเพื่อไทยจะให้ทีมกฎหมายเป็นผู้เขียนคำแถลงปิดคดี โดยในวันที่ 10 ก.ค.ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย จะหารือกันอีกครั้ง เพื่อสรุปแนวทางการเขียนคำแถลงปิดคดี อย่างไรก็ตามแม้ว่าเราจะเขียนคำแถลงปิดคดีได้ดีแค่ไหน แต่ถ้าเขาตั้งใจที่จะทำอะไรอยู่ ก็คงไปทำอะไม่ได้
นายอุดมเดช กล่าวว่า ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย วิเคราะห์แนวทางตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญว่า จะออกมาใน 3 แนวทางคือ 1.ยกคำร้องเพราะไม่เข้าข่ายการทำผิดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 2.ไม่สามารถแก้ได้ทั้งฉบับตามมาตรา 291 โดยให้ไปยกร่างใหม่เป็นรายมาตรา 3.เข้าข่ายกระทำความผิดตามมาตรา 68 และยุบพรรค แต่ทีมกฎหมายเห็นว่าไม่น่าจะออกมาในแนวทางที่ 3 เพราะเป็นการฝืนกระแสสังคมรุนแรงเกินไป น่าจะเป็นแนวทางที่ 1 หรือ 2 แนวทางที่รุนแรงสุดคือแนวทางที่ 2 หากผลออกมาในแนวทางนี้จริง ส่วนตัวเชื่อว่าจะเป็นผลดี ทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญรวดเร็วมากขึ้น เพราะไม่ต้องตั้ง ส.ส.ร.มายกร่าง โดยให้ ส.ส.และ ส.ว.ไปยื่นร่างแก้ไขเป็นรายมาตรามาใหม่ ทำให้ใช้เวลาเร็วขึ้นกว่าเดิม 8 เดือนกว่า ใครที่คิดจะถ่วง ก็ถ่วงไม่ได้ แต่แนวทางนี้อาจถูกคัดค้านว่า ไม่มีการทำประชามติจากประชาชน แต่ถ้าเทียบกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลที่แล้วที่มีการแก้ไขประเด็นเขตเลือกตั้ง ก็ไม่มีการทำประชามติจากประชาชนเช่นกัน.
...