“เศรษฐา” โชว์วิสัยทัศน์ปิดจ๊อบเอเปก ชูแลนด์บริดจ์ไทยเชื่อมเศรษฐกิจโลก ฟังเสียงคนไทยในอเมริกาครวญถึงกับหน้าชารับปากยกระดับพาสปอร์ตไทยให้มีเกียรติมีศักดิ์ศรี เปิดใจบอกสอนลูกให้เป็นขี้ข้าก่อนเป็นนายคน พท.ตั้งป้อมโต้ “ธนาธร” สอนมวยใช้งบฯ 5 แสนล้านคุ้มกว่าแจกเงินหมื่น “ภูมิธรรม” ยันต้องกระตุ้นเศรษฐกิจให้โตก่อนรัฐสวัสดิการ“วรชัย” เย้ยรัฐบาลชุดนี้ไม่ใช่ “ก้าวไกล” ท้าเหยงนโยบายใครจะสร้างพายุหมุน ศก.ได้มากกว่ากัน “พร้อมพงศ์” ตะเพิดให้ลงพื้นที่คุยกับชาวบ้านอย่ามัวมองแบบคนรวย “เจ้าสัวธนินท์” ชูจั๊กแร้เชียร์ ลั่นรัฐบาลชุดนี้กระตุ้น ศก.เจริญรุ่งเรืองแน่ “นิกร” ชงแก้กฎหมายประชามติกรุยทางแก้ รธน. ขณะที่ศึกในพรรคเก่าแก่ให้จับตา “มาดามเดียร์” ควง “ชัยชนะ” ชิงธงนำปชป.

ภารกิจวันสุดท้ายในการเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 30 ที่สหรัฐอเมริกา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ขึ้นโชว์วิสัยทัศน์ในที่ประชุมผู้นำชาติเอเปก ปิดท้ายด้วยการไปพบปะรับฟังปัญหาของกลุ่มตัวแทนชุมชนชาวไทยในสหรัฐฯอย่างเป็นกันเอง ก่อนบินกลับประเทศไทย

“เศรษฐา” โชว์วิชันผู้นำเอเปก

ภารกิจเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกครั้งที่ 30 และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ที่นครซาน ฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา วันสุดท้าย เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 17พ.ย. (เวลาท้องถิ่นนครซานฟรานซิสโก ช้ากว่า กทม. 15 ชม.) ที่ศูนย์ประชุมมอสโคนีเซ็นเตอร์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกในรูปแบบ Retreat APEC Economic Leaders’ Retreat (Session II) หัวข้อ “การสร้างเศรษฐกิจที่ครอบคลุมและยืดหยุ่นจากความเชื่อมโยง” และร่วมรับรองเอกสารผลลัพธ์การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 30 โดยนายกฯกล่าวถ้อยแถลงเป็นลำดับที่ 18 ว่า ท่ามกลางความไม่แน่นอนของโลก ไทยยังคงมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ต่อระบบการค้าพหุภาคีและเอเปก เพื่อมุ่งสู่ประชาคมเอเชีย-แปซิฟิกที่เปิดกว้าง ยืดหยุ่นและสงบสุข โดยไทยได้หารือและสนทนาถึงวิธีการต่อสู้กับปัญหาสภาพภูมิอากาศที่เห็นพ้องกับผู้นำทุกคนว่า ถึงเวลาที่ต้องลงมือให้บรรลุเป้าหมาย ไทยขอเสนอ 3 มุมมอง 1.ให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสานต่อพัฒนาการเป้าหมายกรุงเทพฯว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG ที่ปีนี้เอเปกมีความก้าวหน้ามากกว่า 280 โครงการ ตอบสนองต่อเป้าหมายฯนี้ ขณะที่ ABAC เดินหน้าผลักดันการจัดทำ BCG Pledge การจัดการประชุม Sustainable Future Forum ครั้งแรก เพื่อกระตุ้นธุรกิจและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น

...

ชูแลนด์บริดจ์เชื่อม ศก.โลก

นายเศรษฐากล่าวต่อว่า 2.เปิดการค้าและการลงทุนอย่างเติบโตและรุ่งเรือง เอเปกสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคีที่ยึดกฎเกณฑ์ โดยมีองค์การการค้าโลก (WTO) เป็นแกนกลาง เป็นกุญแจสำคัญ รวมถึงการมีส่วนร่วมไปสู่ผลลัพธ์ที่มีความหมายในการประชุมรัฐมนตรีครั้งต่อไป The Thirteenth Ministerial Conference (MC13) โดยไทยผลักดันความพยายามอย่างต่อเนื่องในเรื่องเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก (FTAAP) เพื่อความก้าวหน้าในการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค และไทยจะเร่งเจรจา FTA อื่นในเชิงรุก รวมทั้งยกระดับการเจรจาที่มีอยู่เพื่อรับมือกับความท้าทายทางการค้าที่จะเกิดขึ้นใหม่ 3.เสริมสร้างความเชื่อมโยง เพื่อเศรษฐกิจและห่วงโซ่อุปทานที่มีความยืดหยุ่น โดยไทยกำลังเดินหน้าโครงการแลนด์บริดจ์ เชื่อมมหาสมุทร แปซิฟิกและมหาสมุทรอินเดีย และยังได้อนุมัติวีซ่าฟรีส่งเสริมการท่องเที่ยว และสนับสนุนความต่อเนื่องของบัตรเดินทางสำหรับนักธุรกิจเอเปก (APEC Business Travel Card) ให้ครอบคลุมมากขึ้นเพื่อสนับสนุน MSMEs และสตาร์ตอัพอีกด้วย

อวย “ปธน.สี” บอลจีนชนะไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเข้าร่วมประชุมนายกฯ Retreat APEC Economic Leaders’ Retreat (Session II) นายเศรษฐาได้พบปะกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน สนทนากันอย่างเป็นกันเองในหลายประเด็น รวมถึงพูดคุยถึงผลการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 กลุ่มซี นัดแรกที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ที่ทีมชาติไทยแพ้ทีมชาติจีน 1-2 โดยนายกฯเปิดเผยว่า ได้แสดงความยินดีต่อประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ที่ทีมฟุตบอลจีนชนะไทย และท่านก็อวยพรให้ทีมไทยชนะและผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลกได้เช่นกัน ทั้งนี้ ช่วงพูดคุย นายสี จิ้นผิง ยังได้ทำท่าเตะฟุตบอลด้วย

ถกผู้บริหารบริษัทคอมฯชั้นนำ

ต่อมานายกฯได้ไปพบหารือผู้บริหาร และเยี่ยมชมบริษัท NVIDIA ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ หน่วยประมวลผลทางด้านกราฟิก ขณะที่นายกฯได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า ขอบคุณ Jensen (นายเจนเซน หวง ซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัท NVIDIA) สําหรับการต้อนรับที่สำนักงานใหญ่ NVIDIA ทั้งนี้ Generative AI ที่ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยี NVIDIA มีประสิทธิภาพและสามารถดูว่าช่วยเราแก้ปัญหาความท้าทายที่สำคัญระดับโลกได้อย่างไร เป็นความหวังอย่างยิ่งว่าเราจะได้ร่วมมือและใช้ AI ในภาครัฐ เพื่อคนไทยที่ดีขึ้น

โวอีก 3 เดือนเห็นผลดึงนักลงทุน

จากนั้น เวลา 17.00 น. ที่โรงแรมริทซ์-คาร์ลตัน นครซานฟรานซิสโก นายกฯพบปะตัวแทนชุมชนชาวไทยในสหรัฐอเมริกา 180 คน โดยนายกฯกล่าวตอนหนึ่งว่า ยินดีที่ได้มาพบ รัฐบาลนี้มีภารกิจหลักต้องทำคือประกาศให้ทั่วโลกรู้ว่า ประเทศไทยเปิดแล้วพร้อมแล้วสำหรับนักลงทุน ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีในช่วง 2 เดือนที่ได้เดินทาง ส่วนหนึ่งมาจากรัฐบาลที่แล้วปูทางไว้แล้ว ตนและรัฐบาลนี้มาสานต่อ มีทีมงานที่แข็งแกร่ง มีข้าราชการที่มีความสามารถปรารถนาดีกับประเทศมาช่วยกันทำงาน ทำให้นักลงทุนสนใจเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น เช่น บริษัทอะเมซอน กูเกิล และเฟซบุ๊ก รวมถึงบริษัทจากจีนก็สนใจมาลงทุนบริษัทรถไฟฟ้า คาดว่า 2-3 เดือนจะมีการลงทุนอย่างแน่นอน และการเดินเข้าสู่เวทีการเมือง สิ่งที่ต้องการทำคือต้องการยกระดับความเป็นอยู่คุณภาพชีวิตประชาชนให้ดีขึ้น ไม่อยากให้ติดอยู่กับดักรายได้ปานกลาง ไทยมีศักยภาพ และในสถานการณ์ความขัดแย้ง รัฐบาลมีนโยบายชัดเจนคือเป็นกลาง ต้องการยืนอยู่ในความขัดแย้งอย่างมีเกียรติและมีศักดิ์ศรี ยึดมั่นความสงบ ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

ขอทำ ปท.ดีขึ้น รอคนไทยคืนถิ่น

นายกฯกล่าวว่า ตนเองเคยเรียนอยู่อเมริกา 6 ปีเต็ม พยายามหางานทำที่นี่ แต่มีปัญหาเรื่องใบอนุญาตทำงานและวีซ่า อีกทั้งผลการเรียนอยู่ในระดับปานกลาง ไม่ได้เรียนเก่งมาก จนมีบริษัทต้องการตัว จึงกลับไปทำงานบริษัทต่างชาติในไทย ส่วนตัวมีความไม่สบายใจ และถูกล้อเลียนจากฝ่ายตรงข้ามตลอดเวลาว่า เป็นนายกฯที่จะสร้างอนาคตให้ลูกหลานคนไทย แต่ลูกชาย 2 คนของตัวเองไม่ยอมกลับเมืองไทย ยังทำงานอยู่เมืองนอก พยายามที่จะหัวเราะให้กับมุกตลกตรงนี้ให้ได้ แต่ความจริงไม่ใช่เรื่องขมขื่นอะไรดีใจที่ลูกทั้ง 2 คนมีความสุขที่อยู่ใน
ต่างประเทศใช้ชีวิตและอิสรภาพได้ แม้ในฐานะผู้ปกครอง จะอยากให้เขากลับไปใช้ชีวิตที่เมืองไทยดีกว่า แต่ต้องยอมรับโดยตรงว่า ประเทศไทยไม่มีข้อเสนอที่ดีกว่า แม้แต่หลายคนในที่นี้ รัฐบาลก็อยากให้กลับมาทำงานสนับสนุนประเทศไทย และนี่ก็คือเหตุผลที่เข้ามาทำงานการเมืองเพราะอยากทำให้ประเทศดีขึ้น

สอนเป็นขี้ข้าก่อนเป็นเจ้านายคน

จากนั้น นายกฯได้เปิดโอกาสให้สอบถาม มีนักศึกษาไทยคนหนึ่งตั้งคำถามกับนายกฯว่า ทำอย่างไรจะประสบความสำเร็จแบบนายกฯ นายเศรษฐาตอบว่า สิ่งที่ต้องทำ 2 อย่าง คือต้องทำงานหนัก และมีวินัย ยกตัวอย่าง ลูกทั้ง 3 คนเรียนจบในมหาวิทยาลัยชื่อดังของโลก ตนไม่ได้สั่งแค่มองตาก็รู้ใจ ขอให้ลูกทำงานก่อน 3 ปี โดยใช้คำแรงว่าให้เป็นขี้ข้าก่อน ทำงานให้รู้ระบบก่อนจะเป็นเจ้านายคน หรือแม้แต่ตนเมื่อเรียนจบปริญญาโทจากต่างประเทศ ต้องกลับมาทำงานตอกบัตรเข้างานเหมือนกับคนทั่วไป ดังนั้น อยากให้ทุกคนตระหนักว่า การจะประสบความสำเร็จได้ ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นเหมือน “มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก” ไม่ใช่ฝันเพียงอย่างเดียวแล้วจะประสบความสำเร็จ หากจะให้แนะนำขอแนะนำว่า ฝันเป็นจริงได้คือต้องตื่นขึ้นมาทำ

หน้าชาปัญหาคนไทยในสหรัฐฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่คนไทยจากสมาคมนวดแผนไทยในสหรัฐฯขอให้รัฐบาลช่วยเหลือส่งครูมาสอนนวด โดยนายกฯตอบว่า เป็นหน้าที่สถานทูตหรือสถานกงสุลต้องช่วยเหลือดูแลอยู่แล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าสถานกงสุลมีนโยบายอย่างไร กลับไปจะสอบถามให้ ฝากฝ่ายเลขาฯติดตามเรื่องนี้ด้วย แต่มีหน่วยงานรับผิดชอบอยู่แล้ว ต้องฝากไปยังกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็ละอายใจเจอคำถามแบบนี้ก็หน้าชา สถานกงสุลต้องตอบคำถามว่าดำเนินการให้ได้หรือไม่อย่างไร นอกจากนี้ ตัวแทนคนไทยได้สอบถามถึงการขอวีซ่าเดินทางเข้าสหรัฐฯสำหรับอาชีพกุ๊กที่ค่อนข้างติดขัด นายกฯตอบว่า เป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่นโยบายรัฐบาลต้องการที่จะยกระดับพาสปอร์ตไทยให้มีเกียรติมีศักดิ์ศรี ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย อยากให้เอกอัครราชทูตและกงสุลลองดำเนินการต่อไป เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สหรัฐฯแข็งมากและแข็งมานาน ช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาการขอวีซ่าเข้าสหรัฐฯต้องเข้าคิวนานมาก เข้าใจและเห็นใจ จากนั้นเวลา 23.30 น. (เวลาท้องถิ่น)นายกฯและคณะเดินทางออกจากนครซาน
ฟรานซิโกกลับไทย โดยเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิเวลา 07.00 น. วันที่ 19 พ.ย.

“อ้วน” สวน “ธนาธร” สอนมวย รบ.

อีกเรื่องกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ออกมาสอนมวยให้รัฐบาลทยอยใช้งบประมาณ 5 แสนล้านบาทไปพัฒนาโครงสร้าง พื้นฐาน 5 ด้านเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน จะคุ้มค่ากว่าการกู้เงิน 5 แสนล้านบาทมาใช้ในโครงการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท โดยเมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังการปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศครั้งที่ 41 ว่า นายธนาธรแสดงความเห็นได้ รัฐบาลพร้อมรับฟัง แต่ต้องการให้นายธนาธรแยกส่วนกันระหว่างการดำเนินการด้านสาธารณูปโภคกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ได้หมายความว่าจะนำเงิน 5 แสนล้านบาทมาทำลอยๆ สิ่งที่แตกต่างกันคือ นายธนาธรอยากเอาเงินมากระจายก่อนและให้เติบโตไปด้วยกัน แต่เราไม่เห็นด้วย โดยเห็นว่าต้องทำให้สมบูรณ์ก่อนถึงมากระจายให้เกิดการเติบโตขึ้น จู่ๆจะทำรัฐสวัสดิการคิดหรือไม่ว่ารัฐอาจจะใช้เงิน 5 แสนล้านบาทหรือมากกว่า และผูกพันงบประมาณทุกปี ปัญหาคือกลุ่มคนชนชั้นกลาง ผู้ประกอบการทั้งหลายต้องเสียภาษี คนไทยพร้อมหรือไม่ เพื่อให้รัฐนำไปดูแลรัฐสวัสดิการ เวลาพูดต้องพูดให้ครบ ไม่ได้ปฏิเสธสิ่งที่เขาทำ เราอยากทำแต่ต้องพูดให้หมด แต่ของเราใช้เงินแค่ช่วงกระตุ้นเศรษฐกิจเท่านั้น

กวักมือนัดไปเปิดโต๊ะคุยกันได้

นายภูมิธรรมกล่าวว่า ถ้าจะบอกว่าเศรษฐกิจจะไม่วิกฤติต้องไปถามชาวบ้าน ชาวนา นักธุรกิจ ผู้ประกอบการที่ต้องเผชิญกับสภาวะแบบนี้ สิ่งที่พูดนั้นเป็นการพูดที่ไม่ได้มองให้กว้างไปถึงทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้ไม่เห็นด้วยกับนายธนาธรให้ไปพิจารณา แต่อยากให้มองกว้างมากขึ้น ทำทุกอย่างเพื่อช่วยกันแก้ปัญหา อย่ามองว่ามันเป็นเกมการเมือง ไม่เกิดประโยชน์ หากมาร่วมกันทำ เปิดโต๊ะคุยกันน่าจะดีกว่าการไปพูดในที่สาธารณะให้มีภาพพจน์ที่ดูดี มองว่าไม่ดี พูดแบบนี้ทัวร์จะลงได้แต่พูดจากใจจริง อยากเห็นการเสนอแนะในการแก้ปัญหา

“วรชัย” โต้รัฐบาล พท.ไม่ใช่ ก.ก.

นายวรชัย เหมะ คณะที่ปรึกษาฝ่ายการเมืองของรองนายกรัฐมนตรี และอดีต สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ข้อเสนอของนายธนาธร เป็นนโยบายของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) การกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นนโยบายของแต่ละพรรค ต้องพิสูจน์กันว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจใครจะสร้างพายุหมุนได้มากกว่ากัน การแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตสร้างกำลังซื้อทั้งประเทศ การให้เงินประชาชน 50 ล้านคน เป็นการสร้างกำลังซื้อขับเคลื่อนเอสเอ็มอีทั่วประเทศนี้คือเป้าหมายของพรรค พท. ที่นายธนาธรพูดคือหลักคิดต่อเมื่อพรรค ก.ก.เป็นรัฐบาล แต่วันนี้พรรค พท.เป็นแกนนำรัฐบาลจะใช้วิธีการของเรา นายธนาธรเองก็ไม่ได้คัดค้านนโยบายของพรรค พท.เพียงแต่เปรียบเทียบนโยบายว่าต่างกันอย่างไร ต่างคนต่างคิดต่างคนต่างทำ วันนี้เป็นเวลาของพรรค พท.แนวคิดของนายธนาธรคงต้องรอวันที่พรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาลก่อนแล้วจะได้เปรียบเทียบกันว่าแบบไหนดีกว่า

ข้องใจ ป.ป.ช.จับตาแจกเงินหมื่น

นายวรชัยยังกล่าวถึง กรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน ร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)สอบนายกฯออก พ.ร.บ.กู้เงินอาจขัดรัฐธรรมนูญว่า ขอตั้งข้อสังเกตนายศรีสุวรรณ มักร้องพรรค พท.เกือบทุกเรื่อง ใช้อคติร้องหรือไม่สังคมคงเป็นผู้ตอบได้ดีที่สุด เหมือนกับที่ ป.ป.ช.ที่เป็นองค์กรตรวจสอบแต่ถูกสังคมตั้งคำถามว่าทำงานสองมาตรฐานหรือไม่ พอเป็นเรื่องของพรรค พท.ที่เป็นนโยบายหาเสียง ยังไม่ได้ลงมือทำก็ตั้งคณะกรรมการเพื่อศึกษา และดำเนินการรับฟังความเห็นเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาลกรณีการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต มี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ เป็นประธานกรรมการ ทั้งที่ น.ส.สุภาถูกสังคมตั้งข้อสังเกตว่า เป็นคนที่มีทัศนคติเชิงลบกับพรรค พท.และกำลังจะหมดวาระ ทำไมไม่ตั้งคนอื่นที่สามารถทำงานต่อเนื่องได้มาทำหน้าที่ ขอตั้งคำถามว่าต้องการตรวจสอบอย่างจริงจังหรือมีนัยอะไร เพราะวิธีดำเนินการกับพรรค พท. ช่างแตกต่างกับการดำเนินการกับรัฐบาลก่อน เช่น เรื่องนาฬิกายืมเพื่อน ที่ศาลปกครองสั่งให้เปิดข้อมูลแต่ ป.ป.ช.กลับนิ่งเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“เด็จพี่” แซะมองแบบคนรวย

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ที่ปรึกษาฝ่ายการเมือง ของรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่แปลกใจกับท่าทีหรือสิ่งที่นายธนาธรทำ เพราะนายธนาธรมักจะทำงานคู่ขนานกับพรรค ก.ก.ความคิดเห็นต่างเป็นเรื่องที่ดี จะไม่เห็นด้วยก็สามารถทำได้ หากสิ่งเหล่านั้นไม่เกิดขึ้นเพื่อหวังผลทางการเมืองหรือเพื่อดิสเครดิตรัฐบาล แนะนำให้นายธนาธรออกไปลงพื้นที่พบปะพูดคุยกับประชาชน ที่กำลังเดือดร้อน และรอคอยเงินดิจิทัลวอลเล็ตดูบ้างเผื่อจะได้เห็นปัญหา รับรู้ ความเดือดร้อน อยากให้นายธนาธรมองจากมุมอื่น อย่ามองแบบคนรวย ขอให้หยุดด้อยค่าเงินดิจิทัล การแก้ปัญหาเดิมๆด้วยวิธีเก่าๆจะได้ผลลัพธ์ในแบบเดิมๆ โครงการดิจิทัลวอลเล็ตคือคำตอบใหม่ที่จะแก้ปัญหาเดิมๆได้

เติมเงินใส่กระเป๋า ปชช.ด่วนกว่า

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท.กล่าวว่า สิ่งที่นายธนาธรพูด เป็นโครงการที่เป็นระเบียบปฏิบัติประจำของรัฐบาลอยู่แล้ว หลายเรื่องมีความก้าวหน้าไปมาก หากจะนำเงินไปลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานจะถูกใช้ผ่านบริษัทหรือกลุ่มทุนขนาดใหญ่ กว่าจะส่งต่อถึงมือประชาชนต้องใช้เวลานาน นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตเป็นการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่กระเป๋าเงินของประชาชนโดยตรง ไม่ผ่านคนกลาง เป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เงินจะสะพัดหมุนไปในหลายภาคส่วนหลายๆรอบ ประชาชนมีอำนาจจับจ่ายใช้สอยได้ทันที การค้าการขายดีขึ้น เศรษฐกิจโดยรวมจะโตขึ้น ประเทศไทยไม่ได้มีเงินมาก เราต้องกระตุ้นอัดฉีดเม็ดเงินให้ประชาชนมีเงินในกระเป๋าก่อนเป็นปัญหาเร่งด่วน เมื่อเศรษฐกิจโตรัฐบาลพร้อมจะยกระดับดูแลสวัสดิการประชาชนให้ดีขึ้นอย่างแน่นอน หากนำไปลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานก่อนเม็ดเงินนั้นจะไม่เกิดการหมุนเวียน เงินในกระเป๋าประชาชนไม่มี เศรษฐกิจก็ไม่โต รัฐบาลเห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนจากวิกฤติที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ วิธีคิด วิธีทำแบบเดิมๆไม่ตอบโจทย์ ดิจิทัลวอลเล็ตคือหนึ่งในนโยบายเรือธงที่กระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่

“เจ้าสัวซีพี” ยกนิ้วเชียร์กระตุ้น ศก.

นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวตอนหนึ่งระหว่างปาฐกถาพิเศษ ในโอกาสครบรอบ 90 ปี หอการค้าไทย ระหว่างงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศครั้งที่ 41 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคว่า วันนี้คนจนของเราส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร เกิดหนี้นอกระบบ ถึงเวลาที่ทุกพรรคการเมือง นักธุรกิจ ข้าราชการ ต้องมองประโยชน์ของประเทศเป็นหลักก่อน แล้วค่อยพูดถึงตัวเอง ถ้าประเทศไม่มีกำลังซื้อ นักธุรกิจจะขายสินค้าให้ใคร นายกฯเศรษฐากระตุ้นเศรษฐกิจโดยใช้เงินดิจิทัล พวกเราต้องช่วยกันพูดว่า ไม่ได้ช่วยคนยากจน แต่เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ วินัยการเงินเรายังไม่เสีย ชื่อเสียงทางการเงินของไทยอยู่ในระดับท็อปของโลก พอกระตุ้นแล้วต้องมีแผนต่อไป เชื่อมั่นว่าถ้าเราสามัคคีกัน ภายใต้การนำรัฐบาลชุดนี้เจริญรุ่งเรืองแน่ เพราะเวลานี้ใครๆก็อยากมาไทย แม้มีเงินเฟ้อบ้างอย่าไปกลัว กลัวเงินฝืดมากกว่าเพราะเงินฝืดเศรษฐกิจล้มละลาย ประเทศล้ม

“นิกร” ชงแน่แก้ ก.ม.ประชามติ

วันเดียวกัน นายนิกร จํานง โฆษกคณะกรรมการเพื่อพิจารณา ศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นประชาชนเกี่ยวกับแนวทางในการทำประชามติ ให้สัมภาษณ์ถึงการเสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ.ประชามติ มาตรา 13 เรื่องเกณฑ์การทำประชามติว่า คณะอนุกรรมการฯได้หารือกันแล้ว โดยตนจะเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ เป็นประธานพิจารณาในวันที่ 24 พ.ย.นี้ เพราะคิดว่ากฎหมายประชามติไม่สามารถปฏิบัติได้จริงสมควรแก้ไขจะได้ใช้ในอนาคตได้ด้วย เสียงข้างมากชั้นที่ 2 ไม่ควรมีเป็นอย่างยิ่ง ควรใช้เสียงข้างมากอย่างเดียว ทั้งยังมีความเห็นของพรรคก้าวไกลที่มองว่า ควรเป็น 25% ของผู้มีสิทธิ เมื่อคำนวณแล้วก็คล้ายกับที่ตนเสนอ เพียงแต่เขามีวิธีอธิบายอีกแบบ แต่ก็จะมีปัญหาว่าประชาชนเข้าใจยาก และจะทำให้กฎหมายผ่านยาก ดังนั้นต้องคุยกันว่าเรื่องนี้จะแก้ยังไง ถ้าแก้โดยตัดชั้นที่ 2 ทิ้งให้เป็นแบบเสียงข้างมาก ปกติแก้แค่มาตรา 13 อย่างเดียวจะแก้ได้เร็วขึ้น แต่เนื่องจากเป็นกฎหมายปฏิรูป ต้องผ่านความเห็นของทั้ง 2 สภา ดังนั้นต้องทำความเข้าใจกับ สว.ให้ดี เพราะเขาไม่เห็นด้วยกันอยู่

“ธนกร” หนุนกาสิโนถูกกฎหมาย

นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า สนับสนุนแนวคิดตั้งกาสิโนถูกกฎหมายเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำของประเทศ ส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยการหาแหล่งที่มาของรายได้เพิ่ม เพื่อนำมาพัฒนาประเทศเชิงรุกด้านธุรกิจเกี่ยวกับสถานบันเทิงในประเทศไทย และเป็นแหล่งที่มีรายได้สูง เนื่องจากประเทศเรามีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวสูง และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ทั้งปัจจุบันพบว่ามีการลักลอบเปิดสถานบันเทิง บ่อนการพนันทำธุรกิจผิดกฎหมาย หากมีการกำหนดหลักเกณฑ์จำกัดการออกใบอนุญาตอย่างเคร่งครัด กำหนดหลักเกณฑ์การจัดเก็บภาษี การจัดระเบียบการเข้าใช้บริการของผู้เข้าใช้ ต้องเป็นต่างชาติหากเป็นคนไทยต้องแสดงรายได้ที่มีเพียงพอไม่มีหนี้สิน เมื่อภาครัฐมีความเข้มแข็งในการควบคุม เพราะหลังเปิดกาสิโนถูกกฎหมายแล้วจะช่วยแก้ปัญหาการลักลอบเล่นการพนัน ปัญหาบ่อนเถื่อน ปัญหาเจ้าหน้าที่รับส่วยเงินใต้โต๊ะ รวมถึงปัญหาอาชญากรรมด้านสังคมและเศรษฐกิจได้ และช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว ทำให้ภาครัฐสามารถเก็บภาษีได้จำนวนมาก

จับตา “ชัยชนะ–เดียร์” ชิงธง ปชป.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ว่า บุคคลที่ประกาศตัวจะลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ปชป.ในการประชุมใหญ่วิสามัญ พรรค ปชป.ในวันที่ 9 ธ.ค.ที่ชัดเจนแล้วคือ นายนราพัฒน์ แก้วทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรคภาคเหนือ และถูกวางตัวคู่กับนายเดชอิศม์ ขาวทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรคภาคใต้ ในตำแหน่งเลขาธิการพรรค เช่นเดียวกับคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ที่ล้วนเป็นคนในสายของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อนรักษาการหัวหน้าพรรคและรักษาการเลขาธิการพรรค ล่าสุดช่วงต้นเดือน พ.ย. มีผู้เสนอชื่อของ น.ส.วทันยา บุนนาค หรือมาดามเดียร์ ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมืองกรุงเทพมหานครของพรรค เข้าเป็นหัวหน้าพรรคอีกคน พร้อมกับนายชัยชนะเดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช และรักษาการรองเลขาธิการพรรค เป็นคนรุ่นใหม่ มีภาพลักษณ์เหมาะสมขึ้นเป็นเลขาธิการพรรค ขึ้นอยู่กับนายเฉลิมชัยว่า จะให้การสนับสนุนใครเท่านั้น

ขั้วอาวุโสเสียงอ่อยขอรอมชอม

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะที่ฝั่งผู้อาวุโสของพรรคคือ นายชวน หลักภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรค ปชป.ที่สนับสนุนให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคอีกครั้ง กำลังหาทางออกเพื่อประสานหาทางรอมชอมกัน โดยเสนอว่าให้พบกันครึ่งทางคือ 1.ขั้วคนรุ่นใหม่ส่งคนมาเป็นหัวหน้าพรรค ขั้วผู้อาวุโสส่งคนเป็นเลขาธิการพรรค 2.ขั้วคนรุ่นใหม่ส่งคนมาเป็นเลขาธิการพรรค ขั้วผู้อาวุโสส่งคนเป็นหัวหน้าพรรค แต่แนวทางทั้งหมดยังไม่มีการเจรจาพูดคุยกัน ที่สำคัญขณะนี้เสียงโหวตเตอร์ที่มีสัดส่วน 70% คือ สส.พรรค ยืนยันว่าจะหนุนขั้วรุ่นใหม่ภายใต้การนำของนายเฉลิมชัย ยิ่งเมื่อนายจุรินทร์ลาออกจากรักษาการหัวหน้าพรรค โหวตเตอร์ที่มาจากกลุ่มอื่นๆที่มีน้ำหนัก 30% ยิ่งเคว้งไร้หัวขบวนนำ สภาพในพรรค ปชป.จึงอยู่ใต้อาณัติของนายเฉลิมชัยทั้งหมดคือ คุมทั้ง สส.และคณะ กก.บห.รักษาการ รวมถึงคณะผู้บริหารพรรคชุดใหม่ที่กำลังจะเลือกในวันที่ 9 ธ.ค.

“ราเมศ” มั่นใจองค์ประชุมไม่มีล่ม

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงถึงการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคชุดใหม่ว่า กก.บห.ได้ตั้งคณะทำงานเพื่อออกระเบียบกำหนด กฎเกณฑ์กติกา กรณีที่องค์ประชุมพรรค ปชป.ไม่ครบ 250 คน จะนำองค์ประชุมสำรองที่พรรคกำลังรับสมัคร 150 คนเพิ่มให้ครบตามจำนวน 250 คน และให้เพิ่มอีก 10 คน เพื่อให้การประชุมสามารถดำเนินการให้สำเร็จลุล่วงไปได้ แต่ครั้งนี้อาจมีเหตุผลพิเศษ เพราะการประชุมใหญ่ 2 ครั้งที่ผ่านมาองค์ประชุมไม่ครบ ต้องหาวิธีการเพื่อให้การประชุมสำเร็จลุล่วงไปได้ โดยยึดสัดส่วนน้ำหนักคะแนนที่ 70 : 30เช่นเดิม เชื่อมั่นว่าเมื่อมีองค์ประชุมสำรอง ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่ององค์ประชุมล่มอีกต่อไป

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่