“เชาว์” อดีตรองโฆษก ปชป.ชี้ คดี “อิทธิพล คุณปลื้ม” อดีตรมว.วัฒนธรรม สั่นคลอนระบบยุติธรรมไทย จี้ นายกฯ ตั้ง กรรมการอิสระ ตรวจสอบหาคนผิด ปล่อยคดีขาดอายุความ อุดช่องโหว่กฎหมาย สร้างบรรทัดฐาน
เมื่อวันที่ 9 ต.ค. 2566 นายเชาว์ มีขวด ทนายความอาสาและอดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นข้อกฎหมาย ในหัวเรื่องชื่อ “หมายจับ อิทธิพล กับความสั่นคลอนกระบวนการยุติธรรมไทย” มีเนื้อหาระบุว่า มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) สุวรรณภูมิ ทำการควบคุมตัว นายอิทธิพล คุณปลื้ม ตามหมายจับไว้ได้ขณะเดินทางเข้ามาประเทศไทย เที่ยวบิน KR701 เดินทางมาจากกรุงพนมเปญ กัมพูชา ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย เวลา 10.00 น. ภายหลังทำบันทึกการควบคุมตัว เจ้าหน้าที่จะนำตัวนายอิทธิพล ส่งสำนักงานอัยการคดีทุจริตภาค 2 จังหวัดระยองต่อไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เกินความคาดหมาย เพราะก่อนหน้านี้ ตนเคยให้ความเห็นข้อกฎหมายไปครั้งหนึ่งแล้วว่า คดีที่นายอิทธิพลถูกกล่าวหาเหตุคดีเกิดเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2551 ขณะนั้นกฎหมาย ป.ป.ช. ฉบับใหม่เรื่องไม่ให้นับอายุความระหว่างหลบหนียังไม่ใช้บังคับ จึงต้องนับอายุความตามกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ขณะนั้น คือ กฎหมายอาญา มาตรา 95 กำหนดอายุความสำหรับความผิดคดีนี้ไว้ 15 ปี คดีนี้จึงขาดอายุความ วันที่ 10 กันยายน 2566 เมื่อไม่ได้ตัวมาฟ้องต้องถือว่าคดีขาดอายุความ จึงเชื่อว่า หลังวันที่ 10 กันยายน นายอิทธิพล จะเดินทางกลับมาประเทศไทยอย่างเท่ๆ แม้จะถูกจับตามหมายจับใหม่ นายอิทธิพล ก็จะยกข้อกฎหมายเรื่องอายุความขึ้นต่อสู้ ซึ่งไม่ยาก เพราะเคยมีแนวคำพิพากษาศาลฎีกาวินิจฉัยไว้ ไม่ให้นำอายุความมาใช้ย้อนหลัง เช่น ฎีกาที่ 17905/2557, ฎีกาที่ 9955/2558, ฎีกาที่ 10166/2558, ฎีกาที่ 10616/2558
...
“เรื่องนี้ ป.ป.ช. และอัยการก็รู้อยู่เต็มอกว่า หมายจับใหม่ไม่มีผลย้อนหลังและทำอะไรนายอิทธิพลไม่ได้แล้ว ตามข้อกฎหมายและคำพิพากษาฎีกา ที่ยกมาข้างต้น แต่ที่ดิ้นขอให้ศาลออกหมายจับใหม่แทนหมายจับเดิมก็เพื่อต้องการลดกระแสความร้อนแรงจากการถูกสังคมตั้งคำถาม เรื่องความล่าช้า ว่า ป.ป.ช. และอัยการ ทำอะไรกันอยู่ถึง 15 ปี ถึงเพิ่งเอาคดีมาฟ้องก่อนขาดอายุความเพียง 6 วัน จนทำให้นายอิทธิพลไหวตัวหลบหนีไปตั้งหลักเพื่อให้คดีขาดอายุความ หลังจากนี้ทีมทนายความของนายอิทธิพลก็คงจะต้องยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้เพิกถอนหมายจับฉบับใหม่ เพราะคดีขาดอายุความไปแล้ว
ผมคิดว่า นี่คือตัวอย่างของความเหลื่อมล้ำในการบังคับใช้กฎหมายที่เห็นได้ชัด สร้างความสั่นคลอนกระบวนการยุติธรรมไทย ที่ไม่ควรปล่อยให้ผ่านไปโดยไม่มีการตรวจสอบอุดรอยรั่วและหาคนรับผิด ผมจึงขอเรียกร้องให้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ตั้งกรรมการอิสระขึ้นมาตรวจสอบความผิดปกติของสำนวนคดีเรื่องนี้ เพื่อทำความจริงให้ปรากฏ และหาคนรับผิดให้ได้ จะได้เป็นบรรทัดฐานของกระบวนการยุติธรรมที่สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน” นายเชาว์ระบุทิ้งท้าย