“กิตติศักดิ์” เผย สว. หนักใจโหวต “เศรษฐา” หากไม่ชี้แจงให้ชัด เพราะเรื่องจริยธรรมสำคัญ คาด นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 อาจไม่ได้มาจากพรรคเพื่อไทย บอก อย่าไล่กันเลย อยู่อีกแค่ 10 เดือน

วันที่ 7 สิงหาคม 2566 นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สัมภาษณ์ที่อาคารรัฐสภา ถึงประเด็นทางการเมืองโดยเฉพาะกรณี นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ที่คาดว่าจะถูกเสนอในการโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไป ว่า ยังไม่ถึงขั้นจะไม่โหวตให้ อยู่ในขั้นตอนดูคุณสมบัติ 

เมื่อถามว่ากระแสข่าวที่เกี่ยวข้องกับ นายเศรษฐา ในขณะนี้ ทำให้ สว. แคลงใจในการโหวตให้หรือไม่ นายกิตติศักดิ์ ตอบว่า จริงๆ เอาใจช่วย นายเศรษฐา แต่เมื่อความจริงคือความจริง สว. รู้สึกหนักใจแทน นายเศรษฐา เพราะผู้จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีเรื่องจริยธรรมสำคัญที่สุด ถ้าจะเป็น CEO บริษัทเราไม่ยุ่งเกี่ยว แต่นายเศรษฐา มาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ฉะนั้น สว. จึงใช้มาตรา 272 พิจารณาให้รอบคอบ โดยเฉพาะเรื่องที่ดินที่ สว. หนักใจ ทั้งภาษีไม่ชัดเจน และเรื่องที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ มายื่นตรวจสอบ ก็จะถูกพิจารณาเร่งด่วน 

ส่วนคำถามว่าแบบนี้เป็นการแนะนำพรรคเพื่อไทยหรือไม่ว่าไม่ควรส่ง นายเศรษฐา ชิงนายกรัฐมนตรีรอบหน้า นายกิตติศักดิ์ บอกว่า เรื่องนี้ไม่ใช่หน้าที่ของ สว. ในการชี้แนะว่าจะให้เลือกใครไม่เลือกใคร ผู้สื่อข่าวถามต่อ สว. จะปล่อยให้มีการโหวตนายกรัฐมนตรีให้ได้ก่อน แล้วค่อยไปสอยทีหลังหรือไม่ นายกิตติศักดิ์ ระบุว่า บ้านเมืองและนายกรัฐมนตรีไม่ใช่สิ่งที่ทดลองได้ ประเทศไทยไม่ใช่บริษัทหรือที่เล่นขายของ ประเทศมีความเสี่ยงในการนำพาคนไทย 70 ล้านคน ดังนั้น ผู้ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีต้องถูกตรวจสอบอย่างดีที่สุด แน่นอนว่าทุกคนไม่ได้ดี 100% และไม่ได้ชั่ว 100% แต่อย่างน้อยคนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีต้องมีความใสสะอาด และจริยธรรมสำคัญที่สุดเป็นอันดับต้นๆ

...

สำหรับการโหวตนายกรัฐมตรี รอบที่ 3 สว. จะมีแนวทางอย่างไร เพราะบางส่วนบอกจะของดออกเสียงในการโหวตนายกรัฐมนตรีตลอดไป นายกิตติศักดิ์ เผยว่า รอบที่ 3 งดออกเสียงน่าจะน้อย มีเห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบเท่านั้น ยืนยันว่าได้นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 แต่ไม่ทราบว่าเป็นใคร บ้านเมืองควรได้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลโดยเร็วที่สุด 

“ถ้ารอบ 3 เป็น นายเศรษฐา เท่าที่ฟังจาก สว.หลายคน บอกเลยว่าหนักใจแทน ส่วนจะถึงนายกรัฐมนตรีคนนอกหรือไม่ ผมยืนยันว่าไม่ถึง แต่ขอเป็นหมอเดาว่า นายกรัฐมนตรีไม่น่าจะมาจากพรรคเพื่อไทย ถ้าผิดก็หน้าแตกไป ซึ่งผมเคยโยนหินไปก่อนแล้วว่าพรรคอันดับ 2 เพื่อไทย หากไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ก็คือพรรคอันดับ 3 ซึ่งก็มี นายอนุทิน พรรคภูมิใจไทย และ พล.อ.ประวิตร จากพรรคพลังประชารัฐ”

ขณะที่มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีรัฐบาลสมานฉันท์ แต่ไม่มีพรรคก้าวไกล นายกิตติศักดิ์ มองว่าเป็นเรื่องที่พรรคจะไปคุยกัน และมีเสียง 300 กว่าที่มาก แต่คาดว่าอยู่ไม่ครบวาระ 4 ปี ต้องเรียนว่าจุดประสงค์รัฐบาลใหม่ เท่าที่ฟังมา คือการจะมาคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งตรงนี้ สว. ไม่ก้าวก่ายและให้ความร่วมมือ 

นอกจากนี้ นายกิตติศักดิ์ ยังพูดทิ้งท้ายด้วยว่า หากนายเศรษฐา มาชี้แจงแล้วยังมีความคลุมเครือในเรื่องข้อเท็จจริง และมาตรฐานจริยธรรม เชื่อว่า สว. จะไม่โหวตให้ เมื่อถามต่อหากเป็นแคนดิเดตพรรคที่ 3 พรรคที่ 4 จะสบายใจกว่าหรือไม่ นายกิตติศักดิ์ บอกว่า “ไม่ว่าใครก็ต้องถูกตรวจสอบทุกคน”  

จากนั้นผู้สื่อข่าวแซวขึ้น นึกว่าจะเดิมพัน หากเดาผิดว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้นายกรัฐมนตรี จะลาออกจาก สว. หรือเปล่า ทำไมแค่หน้าแตก นายกิตติศักดิ์ ตอบกลับว่า “อย่าไล่กันเลย อีกแค่ 10 เดือนเอง” พร้อมชู 2 นิ้วให้กล้อง ก่อนบอกว่า “ถ้าชู 3 นิ้ว เดี๋ยวหาว่ารับกล้วยมาอีก”