เสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา ร่ายยาว ยัน ไม่ลงมติให้พิธา เป็นนายกฯ ยัน เคารพเสียงประชาชน ไม่เชื่อ ไม่แก้ ม.112 ขอให้สัญญา ไม่ว่าจะได้เป็นนายกฯ หรือไม่ ขออย่าไปปลุกมวลชนข้างนอก เหตุเป็นกติกาตามรัฐธรรมนูญ

เมื่อเวลา 13.45 น. ที่รัฐสภา วันที่ 13 ก.ค. 2566 ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

นายเสรี สุวรรณภานท์ วุฒิสภา กล่าวว่า วุฒิสภาจะเห็นชอบ นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี หรือไม่ กราบเรียนว่า สิ่งเสนอไม่ได้เกิดจากอคติหรือไม่ชอบคุณพิธา หรือ พรรคก้าวไกล แต่เป็นไปตามที่ รธน.กำหนด ให้ สว.ให้ความเห็นชอบเป็นบุคคลที่สมควร ผมกราบเรียนแต่แรก คุณพิธา ได้รับการเสนอชื่อนี้ ไม่สมควรเป็นนายกรัฐมนตรี โดยมีเหตุผลสำคัญ สื่อมวลชน ถามผม จะไม่ลงมติตามมติมหาชนที่ลงคะแนนเลือกตั้งมาให้หรือ ขอทำความเข้าใจ ว่า เลือกตั้งที่ผ่านมา เป็นการที่พี่น้องประชาชน ลงคะแนนเลือกตั้งมาให้แล้ว แต่เราก็ถูกกล่าวด้วยถ้อยคำรุนแรงมาตลอดว่า เราให้ความเคารพประชาชนมาตลอด ประชาชนเลือกแล้ว เลือกตั้งมี ส.ส.มากเท่าไร แต่คนที่มาดำรงตำแหน่งนายกฯ ต้องเป็นบุคคลที่ไม่มีลักษณะต้องห้าม

วันนี้ก็มีประชาชนออกมาแสดงเจตจำนง จนมีผู้สื่อข่าวถามผมว่า ไม่กลัวประชาชนหรือ ตอบว่า กลัวประชาชนครับ กลัวมาก แต่ก็ขอบอกว่า การทำหน้าที่ของเราต้องทำหน้าที่ปกป้องประเทศ ปกป้องสถาบัน ไม่ว่ากลัวเสียงประชาชนมาให้มาข่มขู่ พูดจาให้ร้าย แต่ก็กลัวน้อยกว่า เราต้องออกมาปกป้องประเทศให้พี่น้องประชาชน

"เสียงพรรคก้าวไกลได้ 14 ล้านเสียง อย่าเข้าใจผิดว่ามี 30 ล้านเลียง โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ได้ 10 ล้านเสียง ก็ไม่น้อย พรรคเพื่อไทย ประชาชนเลือกมา ก็อยากให้ วุฒิสภาเคารพเสียงประชาชน แต่เสียงที่ได้มา ไม่ตรงเจตนารมณ์ที่ได้พรรคนั้นๆ มา การทำหน้าที่วุฒิสภา ต้องทำหน้าที่ตาม รธน.หากไม่ดำเนินการตามนี้ ก็ถือว่า ท่านทำผิดรัฐธรรมนูญ ยืนยันหลักสำคัญมาตลอด การเข้าเป็นนายกฯ จะต้องไม่มีพฤติกรรมใดๆ ไม่ปกป้อง หรือลบหลู่ดูหมิ่นสถาบัน

...

นายเสรี กล่าวต่อว่า 4 ปีที่ผ่านมา วุฒิสภา ถูกด่าทอมาตลอด แต่ไม่ใส่ใจหรอก แต่ที่ทนอยู่เพราะ เราต้องการปกป้องประเทศ มีการสร้างแนวคิดให้เด็กเยาวชนแบบผิดๆ จนปัจจุบัน มีคนถูกดำเนินคดีมาตรา 112 เป็นจำนวนมาก เป็นเพราะท่านไปสนับสนุนให้เด็กมาละเมิดสถาบัน เห็นได้ในคลิปที่ผ่านมา แสดงพฤติกรรมในการให้ร้าย พอถูกดำเนินดดีก็ใช้สถานะ ส.ส.ไปช่วยประกันคนเหล่านี้ พอตอนนี้เด็กติดคุกมากมาย ก็มาให้แก้ ม.112 ก็มีคนยุยง

ความเป็นนายกฯ ผมไม่เคยเห็นท่านออกไปห้ามปรามอะไรเลย แต่กลับให้คนของท่านไปช่วยประกันตัว แล้วยังไปติดสติกเกอร์ ยกเลิก ม.112 ชัดเจน คือ การล้มล้างครับ

นายเสรี กล่าวต่อว่า ท่านพิธา จะพูดก็พูดมาว่า ไม่แก้ ม.112 แต่ผมก็ไม่เชื่อหรอก ตอนนี้ ลงมติไปแล้ว ถ้าได้เป็นนายกฯ ผมก็ยินดี ถ้าเสียงไม่ถึง ท่านต้องไม่มีการไปปลุกม็อบมากดดันให้คนมาเรียกร้องให้ท่านพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะนี่เป็นกติกาในรัฐธรรมนูญ ผมยอมรับว่า มีความกังวลใจ รวมทั้งไม่อยากเห็นภาพประชาชนไปกราบท่าน เอาเด็ก 10 ขวบ มาขึ้นเวที เชียร์ท่านพิธา ผมเองก็รู้สึกไม่ปลอดภัยเหมือนกัน ขอให้เอาเรื่องเหล่านี้ไปพิจารณา อย่าให้ประชาชนออกมากดดัน ฝากพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ช่วยกันคิดพิจารณาใช้เหตุผลหูตาสว่าง ผมจึงไม่เห็นด้วยพิธา พรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ มาบริหารประเทศ