"หมออ๋อง" ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.ก้าวไกล โหวตชนะ "วิทยา แก้วภราดัย" ส.ส.รทสช. ด้วยคะแนน 312 ต่อ 105 งดออกเสียง 77 บัตรเสีย 2 คว้าตำแหน่ง  รองประธานสภา คนที่ 1 เจ้าตัว ขอบคุณสมาชิกสภาที่ไว้วางใจ ยันพร้อมทำหน้าที่อย่างดีที่สุด

วันที่ 4 กรกฎาคม 2566 เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ที่อาคารรัฐสภา การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 1 ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) พลตำรวจโท วิโรจน์ เปาอินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีอายุอาวุโสสูงสุด ทำหน้าที่เป็นประธานสภาในการประชุมชั่วคราว เพื่อแจ้งต่อ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปฏิญาณตนในที่ประชุมก่อนเข้ารับหน้าที่ ตามมาตรา 115 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 

ที่ประชุมเข้าสู่วาระการเลือกรองประธานสภาฯ คนที่ 1 โดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1

ด้านนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เสนอนายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1

จากนั้นประธานสภาฯ ได้เปิดโอกาสให้ทั้ง 2 คนแสดงวิสัยทัศน์ เริ่มที่ นายปดิพัทธ์ กล่าวขอบคุณสมาชิกที่ให้ความไว้วางใจ และเราอยากเห็นประชาชนกลับมามั่นใจในสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งหนึ่ง เราจะทำให้สภานิติบัญญัติกลับมามีตัวตนและศักดิ์ศรี ไม่อยู่ใต้อาณัติของฝ่ายบริหาร หากได้มีโอกาสดูภารกิจของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่ทำงานแบบ Smart Parliament ที่เสริมสร้างกระบวนการนิติบัญญัติตามมตรฐานสากล และเรียกความเชื่อมั่นทั้งในและต่างประเทศ จึงขอเสนอกระบวนการตรวจสอบฝ่ายนิติบัญญัติที่ประชาชนสามารถติดตามกฎหมายได้อย่างโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ เพราะนี่คืออำนาจของประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย พร้อมความร่วมมือรัฐสภาระหว่างประเทศ เพื่อขับเคลื่อนสภาอย่างเข้มแข็ง ทั้งนี้ที่ผ่านมาถูกวิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอด เรื่องการรับฟังความคิดเห็น การมีส่วนร่วมของประชาชน พร้อมขอความไว้วางใจกับสมาชิก จากสมาชิกที่ได้เห็นการทำงานในกรรมาธิการ โดยมั่นใจและให้คำสัญญาว่าจะทำหน้าที่รองประธานสภาฯ อย่างดีที่สุด ปราศจากอคติ เพื่อความสง่างามและมีประสิทธิภาพ 

...

ขณะที่ นายวิทยา กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ว่า ขอบคุณการเสนอชื่อตนเองขึ้นมา โดยย้ำความสำคัญของประมุขฝ่ายนิติบัญญัติคือ รักษาองค์กรนิติบัญญัติให้เป็นสภาอันทรงเกียรติและศักดิ์สิทธิ์ เพื่อพิจารณากฎหมายให้บ้านเมืองและทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ตนมั่นใจว่า สามารถรักษาเกียรติภูมิและหน้าตาของสภาฯ เป็นที่เชื่อมั่นของประชาชนและสมาชิก ยอมรับว่าบางยุคสมัยประชาชนเบื่อหน่ายสภาที่ไร้ระเบียบวินัย จึงให้ความมั่นใจกับสมาชิกว่าในสมัยของสภาชุดนี้จะปฏิบัติหน้ที่ด้วยความเป็นกลาง

ทั้งนี้เมื่อมีการเสนอชื่อแข่ง ที่ประชุมจึงต้องลงคะแนนแบบลับ โดยให้สมาชิกลงคะแนนเข้าคูหาครั้งละ 20 คน เรียงตามตัวอักษร แล้วเขียนชื่อบุคคลที่ต้องการเลือกลงไปในกระดาษแล้วใส่ในซองสีน้ำตาล ก่อนนำใส่ซองไปหย่อนในกล่องใส

ทั้งนี้ในการแข่งขันเป็นการลงคะแนนลับ เลือกรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ผลคะแนน นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล กับ นายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ. "หมออ๋อง" ปดิพัทธ์ โหวตชนะ "วิทยา แก้วภราดัย" ส.ส.รทสช. ด้วยคะแนน 312ต่อ 105 งดออกเสียง 77 บัตรเสีย 2 คว้าตำแหน่ง รองประธานสภา คนที่ 1