วันจันทร์ที่ 3 กรกฎาคม เวลา 17.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จพระราชดำเนินในรัฐพิธีเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร
วันอังคารที่ 4 กรกฎาคม เวลา 09.30 น. เปิดประชุมสภาฯ นัดแรก เพื่อเลือกประธานสภาผู้แทน ราษฎรและรองประธานสภาฯอีก 2 คน
ถ้าการโหวตเลือกประธานสภาฯและรองประธานสภาฯไม่มีการหักหลังพวกเดียวกันเอง??
การจัดตั้งรัฐบาลผสม 8 พรรค จะผ่านด่านแรกได้อย่างสะดวกโยธิน!!
จากนั้นอีก 10 วัน จะมีการประชุมร่วม 2 สภาฯ เพื่อโหวตเลือก “นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หน.พรรคก้าวไกล เป็นนายกฯคนที่ 30 ของประเทศไทย
ถ้าโหวตครั้งแรกไม่ผ่าน เพราะเสียงสนับสนุนไม่ถึง 376 คะแนน จากเสียง ส.ส.บวก ส.ว.ทั้งหมด 750 คน
ก็ต้องนัดประชุมครั้งที่ 2 หรือครั้งที่ 3 หรือครั้งที่ 4 หรือครั้งที่ 5...
หรือจนกว่านายพิธาจะได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
หากการโหวตเลือกนายกฯคนใหม่ต้องล่าช้าออกไป
ส.ว.ลากตั้ง 250 คน ต้องรับผิดชอบไปเต็มๆ
หากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ต้องยืดเยื้อเกินควร
ส.ว.ลากตั้งต้องรับผิดชอบผลกระทบที่จะตามมา
“แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่หักหลังพรรคก้าวไกล นายพิธา ต้องได้เป็นนายกฯคนใหม่แน่นอน!!
แม้ว่า “นายพิธา” อาจโดน กกต.ยื่นคำร้องศาลรัฐธรรมนูญให้หลุดจาก ส.ส.กรณีถือหุ้นไอทีวี??
ชะตากรรมนายพิธาอาจซ้ำรอยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ต้องหลุดจาก ส.ส.เพราะกรณีถือหุ้นสื่อเช่นเดียวกัน??
แต่ “แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่า “เคสพิธา” จะไม่ซ้ำรอย “เคสธนาธร”
เพราะกว่า กกต.จะลงมติยื่นคำร้องศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยสถานะ ส.ส.ของนายพิธา
ยังต้องใช้เวลาสอบสวนอีก 3 เดือน!!
...
กว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีมติรับ? หรือไม่รับคำร้อง? ยังต้องบวกเพิ่มอีก 1 เดือน
ถึงตอนนั้น นายพิธาได้เป็นนายกฯไปแล้วเต็มตัว
แตกต่างจาก นายธนาธร ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.หลังเลือกตั้งเพียง 60 วัน
ข้อสำคัญ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ “นายพิธา” หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ชั่วคราว
นายพิธายังสามารถปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อไป
และกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยสถานะ ส.ส.ของ “นายพิธา” ต้องยาวไปถึงต้นปีหน้าเป็นอย่างเร็ว
ป.ล.ถ้า กกต.จะดำเนินคดีนายพิธาต่อศาลฎีกา กว่าคดีจบต้องบวกเพิ่มอีก 5 ปี
นายพิธาก็ได้เป็นนายกฯจนครบเทอมสบายๆ.
“แม่ลูกจันทร์”