วงสัมมนาเพื่อไทยร้อนระอุ ส.ส.เหวี่ยงใส่ก้าวไกล “อดิศร” นำทีมถล่มห่างกันแค่ 10 เสียง ไม่ใช่จะหาวเอาเดือนเอาดาว ขวางพระบวชใหม่เป็นเจ้าอาวาส ยึดประธานสภาฯ ขู่งดออกเสียงโวยไม่ใช่สาขาพรรค ก.ก. “ภูมิธรรม” อ้อมแอ้มยังไม่ใช่ข้อสรุป “อุ๊งอิ๊ง” เจอโควิดเล่นงานรอบสอง งดร่วมกิจกรรมของพรรค “เศรษฐา” ปลุกปลอบขวัญรอบหน้า พท.ชนะแบเบอร์ ฉะเลอะเทอะพรรคฝ่ายตรงข้ามชงชื่อ “สุชาติ” แข่งขันแย่งเก้าอี้ “ชัยธวัช” ติวเข้มลูกพรรคสีส้ม ย้ำจุดยืนไม่ทนต่อการทุจริตคอร์รัปชัน ห้ามขาด 151 ส.ส.เอี่ยวงาบผลประโยชน์ ทำตัวอยู่เหนือประชาชน เครื่องร้อนจัดเวิร์กช็อปเตรียมดันร่างกฎหมายกว่า 40 ฉบับเข้าสภาฯทันที “วันนอร์” ไม่เห็นด้วยถ้าจะปล่อยฟรีโหวต ฟันธงปัญหาเกิดตามมาแน่นอน “สุดารัตน์” เตือน 2 พรรคหลักไปคุยกันให้เสร็จ ไม่เช่นนั้นการตั้งรัฐบาลจบเห่ อ้างการเมืองไม่นิ่ง ยังไขก๊อก ทิ้ง ส.ส.และหัวหน้าพรรค ทสท.ไม่ได้ ปชป.ประชุมใหญ่ 9 ก.ค. เฟ้นกรรมการบริหารพรรค ชุดใหม่ “เฉลิมชัย” ขอเพื่อนร่วมพรรคอย่ากลัวการเปลี่ยนแปลง ยอมรับให้คนรุ่นใหม่นำพรรค สายผู้อาวุโส-รุ่นเก๋าถือหาง “อภิสิทธิ์” คัมแบ็กชิงดำ “นายกชาย” “ศิริโชค” โพสต์โชว์รูปทีมมาร์ค ปูทางคืนสังเวียน “ไปป์” นำทีมทำบุญฉลองวันเกิดครบรอบ 56 ปีให้แม่ “ยิ่งลักษณ์” วิดีโอคอลอ้อนแฟนคลับกลางมีตติ้ง รักเราไม่มีแผ่ว
หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดให้ ส.ส.มารับหนังสือรับรองผลการเลือกตั้ง เพื่อไปรายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาฯแล้ว 2 วัน ล่าสุดมี ส.ส.รับเอกสารรับรองผลการเลือกตั้งรวม 259 คน
...
ส.ส.รับเอกสาร กกต. 2 วัน 259 คน
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 21 มิ.ย. ที่สำนักงาน คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดให้ ส.ส.เข้ารับหนังสือรับรองผลการเลือกตั้งเป็นวันที่สอง มี ส.ส.พรรคต่างๆทยอยเดินทางมารับหนังสือเพื่อไปรายงานตัวที่รัฐสภา ตั้งแต่ช่วงเช้ามี ส.ส.จากพรรคการเมืองต่างๆทยอยเข้ารับหนังสือรับรอง อาทิ พรรคเพื่อไทย (พท.) พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตัวแทนนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายสุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ นายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เป็นต้น ตลอดทั้งวันมี ส.ส.รับหนังสือรับรองรวม 167 คน เป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 34 คน ส.ส.แบ่งเขต 133 คน รวมยอด 2 วัน ส.ส.มารับหนังสือรับรองแล้ว 259 คน เป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 48 คน เหลืออีก 52 คน ส่วน ส.ส.แบบแบ่งเขตรับแล้ว 211 คน เหลืออีก 189 คน
“เอกนัฏ” ยัน รทสช.เดินหน้าต่อ
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรค รทสช.กล่าวว่า ก่อนเปิดสภาฯพรรคจะหารือการโหวตเลือกประธานสภาฯและนายกฯให้เป็นมติไปในทิศทางเดียวกัน ยังไม่คิดจะเสนอชื่อประธานสภาฯแข่ง พรรค รทสช.ได้ 36 ส.ส. ถือว่าประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง จากนี้จะระดมความคิดทบทวนวิธีการทำงานและปรับปรุงพรรค ใช้คะแนน 4,700,000 เสียง เป็นต้นทุนทำพรรคต่อไป นี่คือภารกิจสำคัญของพรรค รทสช. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รทสช.เตรียมยื่นลาออกจากเลขาธิการนายกฯก่อนเข้ารายงานตัวเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ เนื่องจากรัฐธรรมนูญระบุว่า ส.ส.จะเป็นข้าราชการการเมืองไม่ได้ ตามหมวด 9 ว่าด้วยการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ตามมาตรา 184 มาตรา 185 ต้องไม่ดำรงตำแหน่งในหน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ว่านายพีระพันธุ์ ไม่จำเป็นต้องลาออกก็รายงานตัวเป็น ส.ส.ควบคู่กับการทำหน้าที่เลขาธิการนายกฯจนกว่าจะปฏิญาณตนต่อที่ประชุมสภาฯ เพื่อทำหน้าที่ ส.ส.แต่หลังลาออกแล้ว ยังมีรองเลขาธิการนายกฯอีกหลายคนอยู่ทำหน้าที่ช่วงรอรัฐบาลใหม่
56 ส.ส.ตบเท้ารายงานตัววันที่สอง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาถึงบรรยากาศการรายงานตัวเป็น ส.ส.ในวันที่สองว่า ตลอดทั้งวันมี ส.ส.ทยอยมารายงานตัวต่อเนื่อง กระทั่งเวลา 16.30 น.มี ส.ส.มารายงานตัว 56 คน จาก 11 พรรค ได้แก่ พรรคเพื่อไทย 9 คน พรรค พปชร. 13 คน พรรค ภท. 2 คน พรรค ปชป. 11 คน พรรค ปช. 9 คน พรรค ทสท. 6 คน พรรค ชทพ. 1 คน พรรคเพื่อไทรวมพลัง 1 คน พรรคพลังสังคมใหม่ 1 คน พรรคประชาธิปไตยใหม่ 1 คน พรรคครูไทยเพื่อประชาชน 1 คน พรรคใหม่ 1 คน รวมยอด 2 วัน รายงานตัวทั้งสิ้น 87 คน จาก 500 คน ส่วนวันที่ 22 มิ.ย. คาดจะมี ส.ส.พรรค พท.ที่เหลืออีก 125 คน พรรค รทสช. 36 คน และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทยมารายงานตัว
“จาตุรนต์” คัมแบ็ก 17 ปี คืนสู่ ส.ส.
นายจาตุรนต์ ฉายแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดเผยว่า ถือฤกษ์สะดวกเข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาฯเมื่อเวลา 08.40 น. จะได้มาทำความรู้จักสภาฯ ตั้งแต่ก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่ไม่เคยมาสักครั้ง จึงตื่นเต้นและดีใจ ไม่ได้เป็น ส.ส.มา 17 ปี ตั้งแต่ปี 2549 ระบบการเมืองผิดเพี้ยน เกิดรัฐประหาร 2 ครั้ง ยุบพรรคการเมือง เพิกถอนสิทธิ ทำให้ไม่ได้เป็น ส.ส. การทำหน้าที่ ส.ส. หลังจากนี้คงทำอะไรได้มากกว่าสมัยก่อน ทำหน้าที่เป็นปากเสียงให้ประชาชนได้มากกว่าเดิมผ่านสื่อต่างๆ ไม่เหมือนสมัยก่อนต้องรอตั้งกระทู้ หารือหรือยื่นญัตติในสภาฯการเมืองหลังจากนี้เชื่อว่าเข้มข้นในการแก้กฎหมายที่ต้องหาข้อมูล ต้องคิดหาความรู้ ส่วนกรณี ส.ส.พรรค พท.ไม่อยากยกประธานสภาฯให้พรรค ก.ก.ควรยึดการจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยเป็นอันดับแรก มั่นใจเมื่อพูดคุยแล้วจะมีทิศทางที่ดี ส่วนกระแสข่าวจะมีพรรคอื่นเสนอชื่อนายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท.แข่งกับคนพรรค ก.ก. เป็นกึ่งๆข่าวลือ การลงคะแนนโหวตประธานสภาฯของพรรค พท.ไม่สามารถตอบว่าจะไม่มีการแตกแถว ต้องพยายามช่วยกัน ไปด้วยกัน เป็นสิ่งดีที่สุด แม้การลงมติจะเป็นเอกสิทธิ์และลงมติลับ แต่ความเป็นพรรคการเมืองที่ประกาศอะไรกับประชาชนการดำเนินการควรไปในทิศทางเดียวกัน
พท.สัมมนา ส.ส.เตรียมทำหน้าที่
เมื่อเวลา 09.00 น. ที่โรงแรมเอสซี ปาร์ค จัดสัมมนา ส.ส.พรรค ภายหลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรอง ส.ส. ครบทั้ง 500 คนแล้ว เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสภาฯ ภายใต้ชื่อ “โครงการเสริมศักยภาพ ส.ส.และบุคลากรทางการเมือง” มีแกนนำพรรคและ ส.ส.เข้าร่วมพร้อมเพรียง นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค นายชัยเกษม นิติศิริ แคนดิเดตนายกฯพรรค พท. ทั้งนี้ นายอดิศร เพียงเกษ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่คัดค้านการยกตำแหน่งประธานสภาฯให้พรรค ก.ก.ได้ทักทายจับมือนายภูมิธรรม ขณะที่นายภูมิธรรมบอกว่ามีอะไร ขอให้พูดคุยกัน วันนี้เบาๆหน่อยนะ โดย นพ.ชลน่านให้สัมภาษณ์ว่า ได้เตรียมพร้อม ส.ส. 141 ของพรรคเป็น ส.ส.ของประชาชนประสานงานในสภาฯจะเปิดโอกาสให้ ส.ส.แสดงความคิดเห็น เมื่อถามว่ากระแสข่าวความไม่พอใจของ ส.ส.ตำแหน่งประธานสภา นพ.ชลน่านกล่าวว่า เราเป็นองค์กรทางการเมือง มีคนหลากหลาย ความเห็นต่างเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญและเรายอมรับ
“ชลน่าน” ไม่เห็นทางพรรคอื่นชง “สุชาติ”
เมื่อถามว่ามองอย่างไรกับกระแสข่าวพรรคพปชร.จะเสนอชื่อนายสุชาติ ตันเจริญ แกนนำพรรค พท. เป็นประธานสภาฯ นพ.ชลน่านกล่าวว่า “มองยังไงก็มองไม่เห็น การทำหน้าที่สมาชิกสภาฯเป็นเอกสิทธิ์ แต่เชื่อว่าพรรคเราจะมีความเห็นร่วมได้ เราห้ามพรรคอื่นเสนอชื่อไม่ได้ เขาอาจเสนอได้แต่การบริหารจัดการของพรรคเราต้องเป็นไปตามความเห็นของพรรค ยกตัวอย่างง่ายๆพูดตรงนี้ไว้เลยว่าหากมีการเสนอชื่อตนโดยที่ตนไม่รู้ และมติพรรคชัดเจนว่าต้องสนับสนุนตามหลักการที่แถลงไว้ หากมีคนใดคนหนึ่งลุกขึ้นมาเสนอชื่อผมแข่งประธานสภาฯจะลุกขึ้นบอกว่าขอถอนตัว เราต้องมีเสียงข้างมากของพรรคเป็นมติไป”
“ภูมิธรรม” ยัน ปธ.สภายังไม่สะเด็ดน้ำ
จากนั้นเวลา 10.00 น. พรรค พท.เปิดโอกาสให้ ส.ส.ได้แสดงความคิดเห็น ภายใต้หัวข้อ “เพื่อไทยเปิดใจ เพื่ออนาคตไทย” โดยนายภูมิธรรมกล่าวเปิดใจถึงกระบวนการทำงานเป็นตัวแทนพรรคไปทำหน้าที่เจรจาร่วมจัดตั้งรัฐบาล ว่า ที่ผ่านมาพวกตนได้ดำเนินการตามที่คณะกรรมการบริหารพรรคมอบหมาย การพูดคุยกับพรรค ก.ก.ได้เสนอไปว่าแต่ละพรรคได้ ส.ส.ใกล้เคียงกัน ควรได้ตำแหน่งรัฐมนตรีพรรคละ 14 คน พรรค ก.ก.ได้ ส.ส.มาที่ 1 ควรได้ประมุขฝ่ายบริหาร พรรค พท.ควรได้ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ แต่ประธานสภาฯยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน ยังรอคำตอบจากพรรค ก.ก. แต่การให้ข่าวของตนและเลขาธิการพรรคอาจทำให้สมาชิกพรรคไม่สบายใจหรือไม่พอใจ การยึดหลักการเรื่องการยึดหลักพรรคอันดับ 1 จึงเปิดโอกาสให้ ส.ส.ได้แสดงความเห็นเต็มที่
“อดิศร” ไม่ให้พระใหม่เป็นเจ้าอาวาส
จากนั้นนายอดิศรพูดเป็นคนแรกว่า “เรื่องประธานสภาฯไม่เห็นด้วยที่เรา 141 เสียง เขา 151 เสียง แต่เราไปยอมเขาทุกเรื่องราว พรรค ก.ก.ควรได้เป็นฝ่ายบริหาร แต่จะหาวเอาเดือนเอาดาว เอาประธานสภาฯ ไปด้วย มันจะง่ายเกินไปหน่อย ไม่เห็นเพื่อนฝูงอยู่ในสายตา ผมตรงไปตรงมา สู้ให้พรรค พท.ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่ลูกน้องของพรรคใด ผมเห็นใจการเจรจาไม่ทราบว่าเจรจาอย่างไร ถ้าเขาได้นายกฯ เราได้ประธาน สภาฯจะสง่างาม และจะได้ถ่วงดุลการทำงานด้วยกัน ถึงอย่างไรเราไม่สามารถให้ประธานสภาฯกับพรรค ก.ก.ได้ เมื่อเกิดความขัดแย้งก็โหวตกันในสภาฯ ยืนยันว่าศักยภาพของเรา เรามีบุคลากรที่เหมาะสม ไม่อยากเห็นพระบวชใหม่มาเป็นเจ้าอาวาส เรามีบุคลากรเยอะ อย่าไปยอมให้เขาง่าย เราอย่าไปห่วงความรู้สึกเขา คุณจะเป็นพรรค ก.ก.หรือพรรค พท. เรื่องประธานสภาฯถึงอย่างไร คิดว่าต้องเป็นของพรรค พท. เพื่อให้รัฐบาลผสมเดินทางไปสู่การแก้ปัญหาอย่างเหมาะสม”
ขู่งดออกเสียง ลั่นไม่ใช่สาขา ก.ก.
“ผมคนหนึ่งไม่รู้จะงดออกเสียงหรือไม่ เพราะไม่สามารถยกมือให้พระบวชใหม่ได้ พรรค พท.ไม่ใช่สาขาของพรรค ก.ก. เราเหนื่อยยาก เพราะต้องสู้กับพรรค ก.ก. การทำงานทางการเมืองอย่าอ่อน ต้องแข็ง พรรค พท. มีประสบการณ์มา 22 ปี เราต้องสรุปบทเรียน และพรรค พท.จะกลับมายิ่งใหญ่กว่าทุกพรรคในประเทศนี้” นายอดิศรกล่าว
ส.ส.ดาหน้าค้านสปอยล์พรรคแกนนำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มี ส.ส.กว่า 10 คนต่างแสดงความเห็นโดยเฉพาะประเด็นตำแหน่งประธานสภาฯ เสียงส่วนใหญ่กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ของ ส.ส. 141 คนของพรรคเห็นว่าตำแหน่งนี้ควรอยู่กับพรรค พท. ไม่ควรยกให้พรรค ก.ก. เพราะได้ ส.ส.น้อยกว่าเพียง 10 เสียง ควรแบ่งตำแหน่งประมุขฝ่ายบริหารกับฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อถ่วงดุลการทำงาน แม้จะมีกล่าวอ้างกระแสสังคม โดยเฉพาะแฟนคลับพรรค ก.ก. แต่ต้องไม่ลืมความรู้สึกของแฟนคลับพรรค พท.กว่า 10 ล้านเสียงเช่นกัน เมื่อเขาเลือกเรามาก็หวังให้เราได้ทำงาน การไปเจรจาอะไรมา ก่อนให้ข่าวอะไรควรมาแจ้งให้ ส.ส.รับทราบก่อน นอกจากนี้ยังวิจารณ์การรณรงค์หาเสียงของพรรคค่อนข้างผิดพลาดผลสำรวจความนิยมพรรคไม่มีความแม่นยำ ทำให้การประเมินสถานการณ์ในการเลือกตั้งผิดพลาด
“สุชาติ” ผ่าฟันคุด “อิ๊ง” ติดโควิดงดร่วม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่านายสุชาติ ตันเจริญ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ไม่ได้มาร่วมงานสัมมนาในครั้งนี้ทั้งที่มีรายชื่อเป็นผู้บรรยายกิจกรรมในช่วงบ่าย ที่แบ่ง ส.ส.กันไปสัมมนาเป็นรายกลุ่ม ท่ามกลางกระแสข่าวที่จะได้รับการผลักดันจากพรรคพลังประชารัฐ เสนอชื่อเป็นประธานสภาฯ ซึ่งคนใกล้ชิดให้เหตุผลว่าเพิ่งไปผ่าฟันคุด ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย โพสต์อินสตาแกรมระบุว่า “เอ๊าแม่ ไม่ต้องตามกระแสก็ได้นะคะ ลูกยังเล็ก#เกมส์ซะงั้น เจ็บคอตั้งแต่วันอาทิตย์ จิ้มทุกวันไม่เจอ เจอเช้านี้ งงเลย อะไรก็ได้ขอให้สองจิ๋วที่บ้านไม่ติดพอ” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.แพทองธารติดโควิดครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง ทำให้ต้องงดการขึ้นบรรยายในการสัมมนา ส.ส.ของพรรค พท. ที่โรงแรมเอสซีปาร์ค เย็นวันที่ 21 มิ.ย.
“เศรษฐา” ปลุกรอบหน้า พท.ชนะแน่
ช่วงบ่ายวงสัมมนาพรรค พท.ได้แบ่งกลุ่มส.ส.พูดคุย 3 หัวข้อ ประกอบด้วยหัวข้อ “ความหวัง ความฝันในการเป็น ส.ส.” “บทบาทในสภาของ ส.ส.ที่พึงมี”และ “กฎระเบียบกติกามารยาท” เพื่อเตรียมความพร้อมทำหน้าที่ ส.ส. โดยนายเศรษฐา ทีวีสิน วนไปพูดคุยกับทั้ง 3 กลุ่ม ก่อนบรรยายพิเศษให้ ส.ส.ฟังตอนหนึ่งว่า เลือกตั้งครั้งนี้เป็นปรากฏการณ์ครั้งพิเศษที่ประชาชนอยู่ในความลำบากมานาน ถ้ามีพรรคใดสัญญาว่าจะให้เยอะมากๆ เปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญอาจโน้มน้าวใจได้มากกว่าการลงพื้นที่ และอาจเป็นเหตุผลให้ไม่เลือกเรา แต่ยืนยันการลงพื้นที่เป็นเรื่องใหญ่ที่สุด และเวลาที่ดีที่สุดคือเวลาที่เราแพ้ มั่นใจถ้าร่วมแรงร่วมใจกันเลือกตั้งครั้งหน้า เราจะกลับมาเป็นที่ 1 แน่นอน เป็นที่น่าสังเกตว่าทันทีที่นายเศรษฐามาถึงโรงแรมเอสซี ปาร์ค เวลา 14.00 น.ได้ไปพูดคุยกับนายพานทองแท้ ชินวัตร และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ บุตรนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก่อนเดินไปพูดคุยกับ ส.ส.
ซัดเลอะเทอะค่ายอื่นชูคน พท.
นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯพรรคพท. ให้สัมภาษณ์ว่า กรณีเสียง ส.ส.พรรคส่วนใหญ่อยากให้ประธานสภาฯอยู่กับพรรค พท.ขอฟังความคิดเห็นว่าหลักการคิดคืออะไรบ้าง อันนั้นเป็นข้อสรุป แต่ต้องจัดตั้งรัฐบาลให้ได้เร็วที่สุด หัวใจของพรรคคือประชาธิปไตย ทุกเสียงมีความสำคัญ เรามี ส.ส.อยู่ 141 คน มีผู้ใหญ่ในพรรคหลายคน เราต้องให้เกียรติ ภารกิจสำคัญคือจัดตั้งรัฐบาลจากฝ่ายประชาธิปไตย พรรค ก.ก.และพรรค พท.ต้องเดินไปด้วยกันให้ได้ ส่วนกระแสข่าวคนพรรคอื่นจะเสนอคนพรรค พท.นั่งประธานสภาฯ เลอะเทอะ
“ไปป์” นำทีมทำบุญวันเกิด 56 ปี “แม่ปู”
ช่วงเช้าที่วัดราชาธิวาสวรวิหาร นายศุภเสกข์ อมรฉัตร บุตรชายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ พร้อมญาติๆและบุคคลที่เคยร่วมงานกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อาทิ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รองหัวหน้าพรรค พท. นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ เขต 2 นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านพื้นที่กรุงเทพมหานคร เป็นตัวแทน น.ส.ยิ่งลักษณ์ร่วมทำบุญเนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 56 ปี โดยนายศุภเสกข์นำคณะร่วมกันปล่อยปลามงคล 9 ชนิด 59 ตัว ก่อนเข้าพระอุโบสถถวายสังฆทาน ผ้าไตร และจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์ 59 รูป ทั้งนี้ เจ้าอาวาสนำอวยพร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ผ่านนายศุภเสกข์เป็นการส่วนตัว ขณะที่พระราชวัชรสารบัณฑิต (เจ้าคุณประสาร) มจร.กล่าวอวยพร น.ส.ยิ่งลักษณ์ขอให้ประสบแต่ความสุข ความเจริญ ขอให้มีอิสรภาพ ขอให้บุญกุศลที่ได้ทำวันนี้เกื้อหนุนให้ได้รับแต่สิ่งที่เป็นมงคล ให้ได้รับสิ่งที่ประเสริฐ ให้ได้กลับประเทศไทยด้วยสวัสดิภาพ และกลับมาพัฒนาบ้านเมืองประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้า
โพสต์ 6 ภาพรำลึก 6 ปีจากเมืองไทย
จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวบอกเล่าเรื่องราววันเกิด 6 ปีที่ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย ภายใต้ธีม “6 เรื่องราว 6 ภาพแห่งความคิดถึงและแรงบันดาลใจ” เป็น 6 ภาพเหตุการณ์ในชีวิต อาทิ ภาพครอบครัว ภาพคู่กับลูกชาย ภาพคู่กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นการให้กำลังใจแฟนคลับ
แฟนคลับขึ้นบิลบอร์ดเบิร์ธเดย์
วันเดียวกัน แฟนคลับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ยิงภาพและข้อความบนป้ายบิลบอร์ดหน้าลานพาร์คพารากอน ข้อความอวยพรวันเกิดให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ทั้งภาษาอังกฤษและเกาหลี ตั้งแต่ช่วงเช้าเวลา 06.00 น. สร้างความฮือฮาให้ผู้สัญจรไปมาอย่างมาก จนเป็นกระแสไวรัลในโซเชียลมีเดีย จากนั้นเวลา 14.00 น. กลุ่มแฟนคลับยังได้กิจกรรมและงานเลี้ยงเล็กๆอวยพรวันเกิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ภายใต้ธีม “แฮปปี้ยิ่งลักษณ์เดย์ รักเราไม่มีแผ่ว” มีแฟนคลับใส่เสื้อยืดปูสีรุ้งเข้าร่วมงาน 50 คน ในงานตกแต่งด้วยลูกโป่งสีรุ้ง สแตนดี้ แจกพร็อพเป็นพัดรูป น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้วิดีโอคอลเข้ามาขอบคุณแฟนคลับ พร้อมกับส่งรูปมี QR Code ไว้ให้สแกนรับฟังเสียงตนเองว่า “รักแล้วต้องรักเลย อย่าแผ่วนะคะ หวังว่าสักวันหนึ่งเราคงจะได้เจอกันนะคะ รักและคิดถึงเสมอค่ะ” ขณะที่นายศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือน้องไปป์ บุตรชายน.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำเซอร์ไพรส์ มาร่วมงานเลี้ยง ร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ เป่าเค้กวันเกิด กับแฟนคลับด้วย
หวัง “ทักษิณ” อยู่กันพร้อมหน้าโดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนที่โรงแรมเอสซีปาร์ค ระหว่างงานเลี้ยงสังสรรค์หลังการสัมมนาพรรค พท.ได้จัดฉลองร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์เป่าเค้กทางออนไลน์ให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ทีวิดีโอคอลมาพูดคุยว่า ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน สักวันหนึ่งจะได้มีโอกาสได้เจอกัน มี นพ.ชลน่านเป็นตัวแทนกล่าวอวยพร นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังโพสต์เฟซบุ๊กรูปที่ถ่ายกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ระบุข้อความว่า“ขอบคุณพี่ชายที่อยู่กับน้องในวันเกิดปีนี้ พร้อมช่อดอกไม้ และของขวัญมาให้น้องสาว ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่พี่กรุณาน้องสาวคนนี้ตลอดมาค่ะ ขอให้พี่โชคดี และได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวโดยเร็วนะคะ”
ก.ก.ติวเข้ม 151 ส.ส.ก่อนเปิดสภาฯ
เมื่อเวลา 13.00 น. ที่สนามกอล์ฟพัฒนาสปอร์ต รีสอร์ท อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พรรคก้าวไกล (ก.ก.) จัดสัมมนาติวเข้มบทบาทหน้าที่ ส.ส.ในวันที่ 21-23 มิ.ย. เรื่องงานสภาฯ กระบวนการฝ่ายนิติบัญญัติ และเตรียมพร้อมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 เน้นย้ำเรื่องประมวลจริยธรรมของ ส.ส. ทั้งนี้ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค ก.ก. ทำหน้าที่เเทนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรรค ก.ก. ที่ติดเชื้อโควิด-19 กล่าวเปิดการสัมมนาว่า การจัดงานนี้เพื่อให้ ส.ส.พรรค ก.ก.ทั้ง 151 คน มีความพร้อมทำงานมากที่สุด ทันทีที่เปิดประชุมสภาฯ มี ส.ส.ใหม่กว่า 100 คน จำเป็นต้องได้ชี้แจงขั้นตอนการทำงานในสภาฯ ระเบียบข้อบังคับต่างๆ และที่สำคัญที่สุดคือพรรค ก.ก.เตรียมเสนอร่างกฎหมายทันทีที่สภาฯเปิดมากกว่า 40 ฉบับ เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่ ส.ส.จะได้รับทราบ ทำความเข้าใจเนื้อหาร่างกฎหมายแต่ละฉบับ เพื่อให้ทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดัน ก.ม.40 ฉบับลั่นไม่ทนต่อการทุจริต
จากนั้นเข้าสู่ช่วงการบรรยาย หลายหัวข้อ อาทิ การอบรมข้อปฏิบัติ การครองตนของ ส.ส.พรรค ก.ก. โดยนายชัยธวัชเน้นย้ำว่าพรรค ก.ก.มีนโยบาย zero tolerance หรือไม่ทนต่อการทุจริตคอร์รัปชัน การมีผลประโยชน์ทับซ้อนทุกชนิดไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ส.ส.ต้องไม่ทำตัวอยู่เหนือประชาชน ต้องตระหนักอยู่เสมอว่าได้เข้าสู่สภาฯด้วยแรงสนับสนุนจากประชาชน ได้รับเงินเดือนจากภาษีประชาชน ภายในงานเน้นย้ำทำความเข้าใจกระบวนการพิจารณางบประมาณแผ่นดิน และจัดเวิร์กช็อปศึกษาเนื้อหาร่างกฎหมายกว่า 40 ฉบับ ที่จะพรรค ก.ก. เสนอเข้าสภาฯ รวมถึงร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกเกณฑ์ทหาร ร่าง พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารสาธารณะ ร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด ร่างประมวลกฎหมายที่ดิน ร่าง พ.ร.บ.ตำรวจ ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันการใช้กฎหมายปิดปาก (anti- SLAPP) และร่าง พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า เป็นต้น นอกจากนี้ พรรค ก.ก.ได้เชิญนายธงทอง จันทรางศุ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อดีตปลัดสำนักนายกฯ และอดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม มาให้ความรู้ ส.ส.เรื่องกระบวนการนิติบัญญัติและเล่าประสบการณ์การทำงานในแวดวงการเมือง
“วันนอร์” ค้านฟรีโหวตปัญหาจะเกิด
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.) กล่าวถึงความชัดเจนการแบ่งโควตารัฐมนตรีว่า ไม่ได้คุยกัน ต้องรอให้หัวหน้าพรรค ก.ก.หายป่วยโควิดก่อนแล้วหารืออีกครั้ง พรรคไม่มีการต่อรองขอเพิ่มอีก 1 รมช.ตามข่าว จะได้ตำแหน่งใดขอให้เป็นประโยชน์เหมาะสมกับพรรค โควตาประธานสภาฯขอให้ 2 พรรคหลักตกลงกันเอง ปกติรองประธานสภาฯ คนที่ 1 คือ พรรคที่ได้อันดับ 2 และรองประธานคนที่ 2 เป็นของพรรคอันดับ 3 การเลือกประธานสภาฯหากมีคู่แข่งต้องลงมติลับ ถ้ามีชื่อคนเดียวไม่เป็นปัญหา เราจะปฏิบัติตามข้อตกลงจัดตั้งรัฐบาลจะให้พรรคใดได้ประธานสภาฯ จะลงมติตามมติพรรคและข้อตกลงพรรคร่วมรัฐบาล ข้อสังเกตที่ว่าหากมีปัญหาจะปล่อยให้ ส.ส.ฟรีโหวต ปกติไม่เป็นแบบนั้น จะทำให้เกิดปัญหาตามมา ปกติฝ่ายตรงข้ามเสนอแข่งอยู่แล้ว แต่กรณีฝ่ายตรงข้ามจะเสนอชื่อบุคคลในพรรคฝ่ายตรงข้ามมาแข่งไม่ค่อยเห็น
“หน่อย” ชี้การเมืองไม่นิ่งไขก๊อกไม่ได้
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการจะลาออกจาก ส.ส.และหัวหน้าพรรคว่า เนื่องจากตั้งพรรคครั้งแรกจำเป็นต้องมีคนนำ โดยเฉพาะคนที่อยู่มานานอย่างตน ในการประชุมยุทธศาสตร์พรรคเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ได้แจ้งที่ประชุมถึงความประสงค์ไม่ขอรับตำแหน่งใดๆ แต่มีเสียงคัดค้านว่าสถานการณ์การเมืองขณะนี้ไม่นิ่ง คณะผู้บริหารพรรคและ ส.ส.ขอให้พูดคุยกันก่อน ให้ดูห้วงเวลาเหมาะสม ควรช่วยกันประคับประคองให้มีรัฐบาลประชาธิปไตย ใช้ประสบการณ์ตนช่วย จึงต้องมารายงานตัวเป็น ส.ส. แล้วค่อยมาคุยอีกครั้ง ตอนนี้ต้องเป็น ส.ส.ไปก่อน ยังไม่รู้จะเป็นนานเท่าใด จะลาออกเมื่อไหร่ แต่ยืนยันไม่ยึดติดตำแหน่ง
เตือน 2 ค่าย คุยไม่จบตั้ง รบ.จบเห่
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวอีกว่า กระแสข่าวพรรคต้องการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยืนยันพรรคไม่มีปัญหาใดๆ พยายามเสียสละให้ตั้งรัฐบาลราบรื่น ไม่เรียกร้องกระทรวงใด อาจเป็นความคาดหวังของบางคนที่พูดไป สเต็ปแรกต้องเลือกประธานสภาฯ และนายกฯให้ได้ก่อน ประธานสภาฯ ถ้าไม่ลงตัวใน 8 พรรค การตั้งรัฐบาลจะยากเย็น สิ่งที่กลัวสุดคือไม่อยากเห็นการชุมนุม การสูญเสีย จะเป็นข้ออ้างนำสู่การทำรัฐประหาร ทั้ง 2 พรรคใหญ่ต้องรู้ว่าประธานสภาฯ สำคัญ ไม่ใช่แค่ประมุขนิติบัญญัติ แต่สถานการณ์การเมืองเช่นนี้ขอให้พรรคที่ 1 และ 2 ไปคุยกันให้จบตกลงกันให้ได้ ถ้าโหวตแข่งกันฝ่ายประชาธิปไตยจบแน่นอน ถ้าไม่จบ จบเห่แน่ ส่วนการผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรค ทสท.เคยยื่นเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ไม่แตะต้องหมวด 1 และหมวด 2 ไม่ทำประชามติ รัฐธรรมนูญพรรค ทสท. ไม่ได้แก้ไขแค่ ส.ว.250 คน แต่ยังมีเรื่องยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เป็นเงื่อนไขให้ทุกรัฐบาลต้องปฏิบัติตาม อาจทำให้เกิดวิกฤติการเมืองตามมา จึงต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญให้อยู่ในมือของประชาชน ไม่ใช่ปลายกระบอกปืนของเผด็จการ
“บิ๊กป้อม” บินอังกฤษดูม้าแข่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า จากกรณีมีรายงานข่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรค พปชร.นำ ส.ส.ของพรรคเดินทางไปประเทศอังกฤษ เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 20 มิ.ย.พร้อมคนใกล้ชิดไม่กี่คน โดยเป็นคณะเล็ก และมีกำหนดการเดินทางกลับในวันที่ 25 มิ.ย.ท่ามกลางการจับตาความเคลื่อนไหวทางการเมือง ล่าสุดมีรายงานข่าวแจ้งว่า พล.อ.ประวิตร เดินทางไปดูการแข่งม้า เป็นกำหนดการที่วางแผนไว้นานแล้ว
ภท.ชูจุดแข็งพรรคเป็นเอกภาพ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงความเคลื่อนไหวของพรรคหลัง กกต.ประกาศรับรอง ส.ส.ว่า วันที่ 25 มิ.ย.จะปฐมนิเทศ ส.ส.ก่อน พูดถึงการดูแลประชาชน โดยเฉพาะที่เคยสัญญาไว้ต้องหาทางไปทำตามที่หาเสียงไว้ จะประเมินการเลือกตั้ง ดูจุดอ่อนจุดแข็ง และพูดคุยถึงธรรมเนียมปฏิบัติ ส.ส.ของพรรค ส่วนไปรายงานตัวต่อสภาฯมีแผนเข้าสภาฯ วันที่ 26 มิ.ย. เมื่อถามถึงทิศทางโหวตประธานสภาของพรรคภูมิใจไทย นายอนุทินตอบว่า ต้องพูดคุยในวันที่ 25 มิ.ย.ว่าจะไปทางไหน จุดแข็งของเราคือความเป็นเอกภาพ ต้องรักษาไว้ต่อไป เมื่อถามว่าจะพูดคุยถึงการโหวตนายกฯหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ยังๆขอเดินไปทีละขั้นตอน เมื่อถามการเคลื่อนไหวของพรรค ภท.ต่อกระแสข่าวความไม่แน่นอนทางการเมือง นายอนุทินตอบว่า ต้องให้พรรคอันดับ 1 ตั้งก่อน เราได้แต่ให้กำลังใจ แต่การมีรัฐบาลเร็วเป็นเรื่องที่ดี การทำงานจะมีความต่อเนื่อง
“เสี่ยต่อ” ขออย่ากลัวการเปลี่ยนแปลง
เมื่อเวลา 12.30 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรค เรียกประชุมกรรมการบริหารพรรค ปชป.กำหนดวันและสถานที่จัดประชุมใหญ่วิสามัญและพิจารณาองค์ประชุมที่ประชุมใหญ่วันที่ 9 ก.ค.โดยนายเฉลิมชัย เปิดเผยว่า ไม่ทราบว่าผู้จะถูกเสนอชื่อเป็นหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคคนใหม่มีใครบ้าง แต่ยืนยันกระแสข่าวว่าไปทาบทามหรือมีชื่อล็อกใคร ไม่เป็นความจริง ไม่อยากให้มีข่าวแบบนี้ออกมา เหมือนทำลายพรรค ไม่มีประโยชน์อะไร ทุกคนเห็นตรงกันคือการเปลี่ยนแปลงในพรรค ปชป. จะเป็นคนหน้าเก่าหรือหน้าใหม่ต้องให้องค์ประชุมกำหนด ต้องฟัง ส.ส.องค์ประชุมส่วนใหญ่ ต้องการเห็นภาพพรรค ปชป.เป็นอย่างไร เดินไปทิศทางไหน ต้องให้เกียรติกันและกัน อย่าเพิ่งไปเดามั่ว ถ้าเป็นข่าวจากภายในพรรค ขอให้หยุดทำลายพรรค ขออย่ากลัวการเปลี่ยนแปลง พรรค ปชป.จะเดินไปข้างหน้า ไม่มีใครทรยศพรรค หลักการและอุดมการณ์ของพรรคยังอยู่ไม่มีเปลี่ยนแปลง จึงขออย่าทำอะไรที่ทำให้พรรคเสียหายหรือทำลายพรรค ถ้าอยากให้พรรคเป็นไปในทิศทางไหน การขับเคลื่อนพรรค จากนี้จะเป็นหน้าที่ของ ส.ส.ชุดใหม่ ต้องให้เกียรติกันทั้ง ส.ส.ใหม่และ ส.ส.เก่า
ฉะเพ้อเจ้อดีลหนุน 8 พรรคร่วมฯ
นายเฉลิมชัยกล่าวอีกว่า ที่มีข่าวจากพรรคเสรีรวมไทยว่า เสียงพรรค ปชป.จะไปเติมให้ 8 พรรคร่วมรัฐบาลใหม่ เพ้อเจ้อ ไม่ใช่ไม่มีทางเป็นไปได้ แต่อย่าเอาสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นมาพูด ยังไม่ได้พูดคุยอะไรทั้งนั้น เราให้เกียรติพรรคที่ได้รับการเลือกตั้งโดย ไม่ได้ขัดขวางหรือสนับสนุนส่งกำลังใจไป แต่อย่าลืมว่าการดำเนินการต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย เราอยู่ในนิติรัฐ ถ้าคุณคิดว่าคุณไม่รับกฎหมาย ก็อยู่ประเทศไทยไม่ได้ หากทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ไม่มีใครขัดขวาง คุณเรียกร้องประชาธิปไตย อย่าทำตัวเป็นอันธพาลการเมือง กระแสข่าวขั้วรัฐบาลเดิมจะเสนอชื่อคนพรรค พท.แข่งชิงประธานสภาฯ ไม่ทราบ ยังไม่มีใครมาคุย และไม่ได้รอ เพราะรู้จักหน้าที่ของตัวเองดี
ผู้นำใหม่ไม่เป็น ส.ส.ของพรรคก็ได้
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แถลงว่า ที่ประชุมมีมติจัดการประชุมวิสามัญประจำปี พ.ศ.2566 เวลา 08.30 น. วันที่ 9 ก.ค.66 ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ หลักสี่ กทม. ให้เลือกตั้งคณะ กก.บห.พรรคชุดใหม่และเลือกตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ของพรรคตามกฎหมาย ส่วนองค์ประชุมเลือกตั้ง กก.บห.พรรคและหัวหน้าพรรค รวมทั้งสิ้น 374 คน คือ กก.บห.ชุดรักษาการ สมาชิกพรรคที่เป็นอดีตหัวหน้าพรรคและอดีตเลขาธิการพรรค 1 คน ส.ส.ปัจจุบัน 25คน สมาชิกพรรคที่เป็นรัฐมนตรี 2 คน อดีตรัฐมนตรี 19 คน สมาชิกที่เป็นอดีต ส.ส.พรรค 85 คน สมาชิกที่เป็นนายก อบจ.ในนามพรรค 1 คน สมาชิกที่เป็นส.อบจ. 1 คน ตัวแทนพรรคประจำจังหวัดหรือประจำเขตเลือกตั้งอีก 172 คน สาขาพรรค 20 คน และยังมีองค์ประชุมอื่นๆอีก 20 คน ผู้เสนอตัวลงสมัครหัวหน้าพรรคยังไม่เปิดตัวเป็นทางการ เชื่อว่าแต่ละกลุ่มพูดคุยกันอยู่ ตามข้อบังคับพรรคไม่ได้ระบุว่าหัวหน้าพรรคจะต้องเป็น ส.ส.ของพรรค เชื่อว่าจะเลือกคนมีคุณสมบัติ ความรู้ ความสามารถ ซื่อสัตย์ สุจริต คำนึงการนำพาพรรคในวันข้างหน้า
“นายกชาย–มาร์ค” ชิงดำ หน.ปชป.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ท่ามกลางวิกฤติศรัทธาของพรรคที่ตกต่ำลงอย่างมาก อดีต ส.ส.และผู้อาวุโสของพรรคทั้งนายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ต่างเห็นว่าผู้เหมาะสมจะมากอบกู้ฟื้นฟูพรรคในห้วงเวลานี้มีเพียงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ที่ได้แจ้งผู้ใหญ่ในพรรคว่าหากนายอภิสิทธิ์จะกลับมานำพาพรรค ปชป. ต้องเป็นฉันทานุมัติของคนในพรรคเห็นพ้องกัน ขอให้เชื่อมั่นในทิศทางนำพาพรรค จะขอทำหน้าที่ฝ่ายค้านตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างเข้มข้น แต่สวนทางกับความเห็นของ ส.ส.ส่วนใหญ่ของพรรค โดยเฉพาะกลุ่ม 17 เสียงภายใต้การควบคุมของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรค นายเดชอิศม์ ขาวทอง หรือนายกชาย รักษาการรองหัวหน้าภาคใต้และ ส.ส.สงขลา และนายชัยชนะ เดชเดโช รักษาการรองเลขาธิการพรรคและ ส.ส.นครศรีธรรมราช ที่หารือรอบนอกแล้วเห็นพ้องต้องการร่วมรัฐบาล จึงต้องยึดพรรค ปชป.เบ็ดเสร็จเด็ดขาดก่อน จึงมีชื่อนายเดชอิศม์ได้รับแรงหนุนให้ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค และวางตัวนายชัยชนะเป็นเลขาธิการพรรค
“ศิริโชค” โชว์รูปสื่อคืนสังเวียน
วันเดียวกัน นายศิริโชค โสภา อดีต ส.ส.สงขลา พรรค ปชป. คนสนิทนายอภิสิทธิ์โพสต์รูปถ่ายร่วมกับบุคคลสำคัญของพรรค ปชป. อาทิ นายชวน หลีกภัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการและอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายเกียรติ สิทธิอมร อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พร้อมบรรยาย ว่า “วันนี้มากินงานเลี้ยงวันเกิด คุณติ้งต่าง พร้อมอดีตนายกฯของพรรค ปชป.ทั้ง 2 ท่านครับ ก่อนกลับไปทำงานต่อ #i will be back”
เร่ง กกต.ส่งตีความคุณสมบัตินายกฯ
วันเดียวกัน นายสมชาย แสวงการ ส.ว. โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อปริศนาธรรมการเมืองเรื่องหุ้นไอทีวีระบุว่า กกต.ควรเร่งสรุปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยเป็นที่สุดและตรวจสอบคำวินิจฉัยชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการที่ทำให้ไอทีวีฟื้นคืนชีพ เมื่อ กกต.รับรองสมาชิกภาพ ส.ส.แล้ว มีเหตุผู้ร้องเรียนและ กกต.ตั้งคณะกรรมการไต่สวน ควรเร่งพิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 98 (3) ห้ามถือหุ้นสื่อ อันเป็นการขาดสมาชิกภาพ ส.ส. ตามมาตรา 101(6) และมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 98 หรือไม่ ยึดหลักเดียวกับการยื่นคดีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ คือขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยและสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ระหว่างรอคำวินิจฉัยด้วย ส่วนแคนดิเดตผู้สมัครนายกฯต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 98หรือไม่ กกต.ควรร้องไปศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคราวเดียวกัน จะเป็นประโยชน์การยื่นฟ้องเสียในคราวเดียวกัน
บี้ตรวจคำวินิจฉัยอนุญาโตฯ
นายสมชายระบุว่า 2.กกต.ควรตรวจสอบคำวินิจฉัยชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการเรื่องไอทีวีฟ้องสำนักปลัดสำนักนายกฯที่มีคำวินิจฉัยชี้ขาด วันที่ 14 ม.ค.59 ที่ไอทีวีเรียกร้องให้ชดใช้ค่าเสียหาย และให้บริษัทกลับเข้าดำเนินการสถานีโทรทัศน์ ระบบยูเอชเอฟ โดยใช้คลื่นความถี่และทรัพย์สินอุปกรณ์เครือข่ายเดิมต่อไป จนครบกำหนดระยะเวลาสัญญาอนุญาตที่อนุญาโตตุลาการมีคำวินิจฉัยว่า การบอกเลิกสัญญาอนุญาตของสำนักงานปลัดฯไม่ชอบด้วยกฎหมาย คำวินิจฉัยชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการเรื่องนี้ และคำพิพากษาศาลปกครอง สำคัญต้องพิจารณาว่าไอทีวีชนะคดีจากสำนักปลัดฯแล้ว และการขอให้เข้าดำเนินการในสถานีโทรทัศน์ยูเอชเอฟเดิม ทำให้ไอทีวีที่มีวัตถุประสงค์สื่อชัดเจน และยังไม่ได้จดทะเบียน เลิกกิจการได้รับชัยชนะในคำวินิจฉัยชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการให้ไอทีวีกลับเข้าดำเนินการในสถานีโทรทัศน์ยูเอชเอฟเดิมได้ จึงมีประเด็นข้อพิจารณาว่าไอทีวีน่าจะยังเป็นผู้การประกอบกิจการหรือเตรียมประกอบกิจการสื่อมวลชนที่ยังไม่ได้ยกเลิกใช่หรือไม่
จี้ดีเอสไอสอบ “เรืองไกร” ฟอกเงิน
เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถนนแจ้งวัฒนะ นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ “ทนายอั๋น บุรีรัมย์” เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีดีเอสไอ ขอให้ตรวจสอบการกระทำของนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพปชร. เข้าข่ายกระทำฐานฟอกเงินหรือไม่ โดยภัทรพงศ์ เผยว่า ได้แนบเอกสารของ กกต. 2 ฉบับ ประกอบด้วย 1.คำร้องขอให้ กกต.ตรวจสอบข้อเท็จจริงฉบับลงวันที่ 12 มิ.ย.66 และ 2.ภาพถ่ายบรรดาทรัพย์สินของนายเรืองไกรเพื่อขอให้ดีเอสไอตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าคำร้องของนายเรืองไกร ที่ยื่นคำร้องและนำเสนอพยานหลักฐานต่อ กกต.ว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ขาดคุณสมบัติการรับสมัคร ส.ส.หรือไม่ อาจกระทำความผิดฐานแจ้งความเท็จต่อ กกต.หรือไม่ และอยากให้ดีเอสไอดึงเรื่องจาก กกต.มาเป็นคดีพิเศษ ผิดฐานฟอกเงินหรือไม่ กรณีการครอบครองรถเบนซ์หรู และเรื่องแคชเชียร์เช็ค 25 ล้านบาท