“ทิพานัน” รองโฆษกรัฐบาล แนะ ใช้สิทธิ "บัตรทอง" หรือบัตร 30 บาท ทำฟัน 13 รายการ ฟรี ทั้งอุดฟัน ถอนฟัน ฟันปลอม ผ่าฟันคุด ตามข้อบ่งชี้ของแพทย์ ย้ำ “พล.อ.ประยุทธ์” มุ่งลดเหลื่อมล้ำทุกมิติ ยกระดับสวัสดิการประชาชน

วันที่ 2 มิ.ย. 2566 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มุ่งลดเหลื่อมล้ำในทุกมิติ ส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการต่างๆ อย่างทั่วถึง พร้อมกับยกระดับสวัสดิการให้ได้มาตรฐานและตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชน รัฐบาลโดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. เป็นข่าวดีสำหรับผู้ใช้สิทธิบัตรทอง หรือ 30 บาท ที่สามารถใช้สิทธิประโยชน์ด้านทันตกรรมได้มากขึ้น จากสิทธิประโยชน์ทั้งหมด 13 รายการ ที่ได้รับการคุ้มครองดังนี้

1. การถอนฟัน
2. การอุดฟัน อุดคอฟัน
3. ขูดหินปูน การเกลาฟันหรือเกลารากฟัน (ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทันตแพทย์ในการรักษา)
4. ฟันปลอมฐานพลาสติก ทั้งแบบซี่ถอดได้และแบบทั้งปากถอดได้
– ฟันปลอมแบบถอดได้มีอายุการใช้งาน 5 ปี หากผู้รับบริการได้รับความเห็นจากทันตแพทย์ว่ามีความจำเป็นต้องซ่อมฟันปลอมก่อน 5 ปี ผู้รับบริการสามารถใช้สิทธิได้
5. รักษาโพรงประสาทฟันน้ำนม (รากฟันน้ำนม)
6.ใส่เพดานเทียมในเด็กปากแหว่งเพดานโหว่
7. ผ่าฟันคุด (ตามข้อบ่งชี้ของทันตแพทย์)
8. เคลือบหลุมร่องฟัน (เด็กโตและวัยรุ่น อายุ 6-24 ปี)
9. การทาฟลูออไรด์วาร์นิช (เด็กอายุ 9 เดือน-5 ปี)
10. การเคลือบฟลูออไรด์ (เด็กโตและวัยรุ่น อายุ 6-24 ปี) ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคฟันผุ กลุ่มเสี่ยงได้แก่ ผู้ที่มีภาวะน้ำลายแห้งจากการรักษามะเร็งด้วยการฉายแสงบริเวณใบหน้าและลำคอ หรือจากการกินยารักษาโรค รวมทั้งผู้ที่มีเหงือกร่น รากฟันโผล่ ที่ยากต่อการทำความสะอาด
11. โรคปริทันต์อักเสบ สิทธิประโยชน์ด้านทันตกรรมคุ้มครอง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทันตแพทย์ในการรักษา
12. การผ่าตัดใส่รากฟันเทียมสำหรับผู้ที่ไม่มีฟันทั้งปาก ให้บริการผู้ป่วยที่ไม่มีฟันทั้งปากและมีข้อบ่งชี้การใส่รากฟันเทียม ด้วยบริการใส่รากฟันเทียมและการบำรุงรักษา
และ 13. จัดฟัน ในผู้มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ หรือปากแหว่ง หรือเพดานโหว่ (ตามดุลยพินิจของทันตแพทย์)

...

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผู้เข้ารับบริการสามารถเข้ารับการรักษาได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยแสดงบัตรประชาชนเพียงใบเดียวเท่านั้น แต่จะต้องเข้ารับบริการที่สถานพยาบาลประจำตามสิทธิ และควรติดต่อนัดหมายล่วงหน้าจะได้รับความสะดวกในการเข้ารับบริการมากขึ้น ทั้งนี้หากหน่วยบริการตามสิทธิอุปกรณ์ไม่พร้อม จะส่งต่อไปยังสถานพยาบาลที่สามารถรักษาได้ตามขั้นตอน โดยสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.nhso.go.th หรือโทร. 02 1414000 หรือ สายด่วน สปสช. 1330 เปิดบริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

“รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เพียงต่อยอดนโยบายดีๆ เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนอย่างครบวงจร โดยยังวางรากฐาน เสริมองค์ความรู้ ผ่านการขับเคลื่อนนวัตกรรมทางการแพทย์เพื่อเศรษฐกิจ เพื่อให้ประชาชนมีความมั่นคงในทุกด้าน” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ