"สมชาย แสวงการ" ส.ว. เปิดไลน์หลุด "นาย" จ่ายเงินสู้ศึกเลือกตั้ง ส่อ ผิดครอบงำพรรคการเมือง โทษถึงยุบพรรคการเมือง ขอ กกต.รีบดำเนินการสอบสวน
วันที่ 3 พ.ค. นายสมชาย แสงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์ภาพข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก สมชาย แสวงการ เผยว่า หลักฐานไลน์หลุดชิ้นสำคัญนี้ แค่ออเดิร์ฟการเมืองเห็นชัดถึงการสั่งการ ครอบงำพรรคการเมือง และการจ่ายเงินซื้อเสียง ผ่านกลุ่มบุคคล เพื่อเอาชนะเลือกตั้งของนาย ซึ่งกำลังจะทำให้พรรคการเมืองหนึ่งถึงกับแลนด์ไถลเข้าสู่การอาจถูกยุบพรรคได้ในเร็วๆ นี้
นายสมชาย ยังเรียกร้องไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. โดยขอให้เร่งตรวจสอบเรื่องนี้ โดยเร็วที่สุด
"คณะกรรมการการเลือกตั้ง มีหน้าที่และอำนาจต้องเร่งดำเนินการสอบสวนและหากพบการกระทำผิดกฎหมายต้องดำเนินคดีตามพรบประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าพรรคการเมือง ที่ระบุไว้ชัดเจนครับ"
นายสมชาย ยังยกข้อกฎหมายชี้แจง ในประเด็นดังกล่าวว่า
มาตรา ๗๓ ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อ
จูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น
ให้งดเว้นการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัคร หรือการชักชวนให้ไปลงคะแนน
ไม่เลือกผู้ใดเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
(๑) จัดทำ ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใด อันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด……………
ความผิดตาม (๑) หรือ (๒) ให้ถือว่าเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่า ด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และให้คณะกรรมการมี อำนาจส่งเรื่องให้สํานักงานป้องกันและปราบปราม การฟอกเงินดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจได้
...
มาตรา ๗๕ ห้ามมิให้ผู้ใดหรือพรรคการเมืองใดเรียกหรือรับทรัพย์สิน หรือ ผลประโยชน์อื่นใด เพื่อลงสมัครหรือส่งผู้สมัคร หรือไม่ลงสมัครหรือไม่ส่งผู้สมัครอันก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้สมัครอื่นหรือ พรรคการเมืองอื่นในการเลือกตั้ง และทำให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม
มาตรา ๑๕๘ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๗๓ (๑) หรือ (๒) มาตรา ๗๕ มาตรา ๗๖ หรือมาตรา ๙๔ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนดยี่สิบปี
ในกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษผู้กระทำความผิดตามมาตรา ๗๓ (๑) หรือ (๒) ให้ศาลสั่งจ่ายเงินสินบนนำจับไม่เกินกึ่งหนึ่งจากจำนวนเงินค่าปรับแก่ผู้แจ้งความนำจับ
ในกรณีที่พรรคการเมืองกระทำความผิดตามมาตรา ๗๕ หัวหน้าพรรค การเมืองหรือกรรมการ บริหารพรรคการเมืองของพรรคการเมืองนั้น ซึ่งรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทําความผิดต้องระวางโทษ ตามท่ีกําหนดไว้ในวรรคหนึ่ง และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของหัวหน้าพรรคการเมืองหรือกรรมการ บริหารพรรคการเมืองของพรรคการเมืองนั้น และให้ถือเป็นเหตุที่จะยุบพรรคการเมืองนั้นตามกฎหมาย ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง
มาตรา ๙๒ เมื่อคณะกรรมการมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองใด กระทำการ อย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้น………………………………
(๔) มีเหตุอันจะต้องยุบพรรคการเมืองตามที่มีกฎหมายกำหนด เมื่อศาลรัฐธรรมนูญดำเนินการไต่สวนแล้ว มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า พรรคการเมืองกระทำการ ตามวรรคหนึ่ง ให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมือง และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้น