ศาลปกครองกลาง พิพากษา มท.1-อธิบดีกรมการปกครอง ใช้อำนาจขัดรัฐธรรมนูญ กรณีปฏิเสธรับจดทะเบียน "เนติวิทย์" เป็นกรรมการ "แอมเนสตี้ไทย" สั่งให้อธิบดีกรมการปกครอง กลับไปพิจารณาคำขอจดทะเบียนใหม่
วันที่ 17 ก.พ. 66 ศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษาเพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 13 ส.ค. 2562 ที่ยกอุทธรณ์ของสมาคมแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กรณีอธิบดีกรมการปกครอง ในฐานะนายทะเบียนสมาคมกรุงเทพมหานคร มีคำสั่งไม่รับจดทะเบียนแต่งตั้งนายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล เป็นกรรมการสมาคมฯ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย พร้อมทั้งสั่งอธิบดีกรมการปกครอง ดำเนินการพิจารณาคำขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการสมาคมของสมาคมแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ฉบับลงวันที่ 17 ส.ค. 2561 จำนวน 1 ราย ที่แต่งตั้ง นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล เป็นกรรมการสมาคมฯ คนใหม่ ให้เป็นไปตามกฎหมายต่อไป ตามคำฟ้องของสมาคมแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย และนายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล ที่ได้ยื่นฟ้อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และอธิบดีกรมการปกครอง ต่อศาลปกครองกลาง เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2562 ว่า ร่วมกันใช้อำนาจหน้าที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ในกรณีมีคำสั่งไม่รับจดทะเบียนแต่งตั้งนายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล เป็นกรรมการสมาคมฯ
ทั้งนี้ ศาลให้เหตุผลว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 29 วรรคสอง ได้บัญญัติว่าในคดีอาญา ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า ผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด และก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดได้กระทำความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้ ประกอบกับพฤติกรรมของนายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล ที่เป็นการแสดงออกถึงความคิดและความเชื่อของตน โดยไม่ปรากฏว่า เคยถูกศาลพิพากษาว่า เป็นความผิดตามกฎหมายมาก่อน จึงเห็นว่า พฤติกรรมของนายเนติวิทย์ ตามที่อธิบดีกรมการปกครองกล่าวอ้าง ไม่อาจถือว่าขัดแย้งต่อวัตถุประสงค์ตามข้อบังคับของสมาคมแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย
...
การที่อธิบดีกรมการปกครอง มีคำสั่งไม่รับจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการของสมาคม ในรายนายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล จึงเป็นการจำกัดสิทธิขั้นพื้นฐานของบุคคลที่รัฐธรรมนูญบัญญัติให้การรับรอง และเป็นการใช้ดุลพินิจออกคำสั่ง เกินขอบเขตแห่งความจำเป็นเพื่อการรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนและความมั่นคงของรัฐ ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น คำสั่งดังกล่าวของอธิบดีกรมการปกครอง จึงเป็นการใช้ดุลพินิจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้นการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อ้างเหตุผลในการออกคำสั่งยกอุทธรณ์เนื่องจากนายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล ถูกดำเนินคดีอาญาหลายคดีนั้น จึงเป็นการออกคำสั่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน.