รองนายกฯ “วิษณุ” ของขึ้น บอกไม่ตกต่ำขนาดเรียกรับสูท หลัง “เลิศศักดิ์” พาดพิงในอภิปราย 152 บอก อยากลุกมาชี้แจงทันทีแต่ติดฟอกไต และเป็นเหตุผลที่ต้องใส่ชุดผ้าไทย บอกกรุณามารับคืนไป

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 16 ก.พ. 2566 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่อาคารรัฐสภา ถึงกรณี นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย อภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี หรือ การอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ระบุ นายวิษณุ รับเสื้อสูทมูลค่าเกิน 3,000 บาท จากผู้บริหารคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ว่า ตนจะชี้แจงเรื่องดังกล่าวในสภาผู้แทนราษฎร และขอปฏิเสธทั้งหมดว่าไม่เป็นความจริง ตนไม่ได้ตกอับหรือตกต่ำถึงขนาดเอาอะไรไปแลกกับชุดพระราชทานชุดเดียว ซึ่งไม่ใช่สูท มีปัญญาตัดเอง ไม่เคยรับของขวัญอะไรจากใครราคาเกิน 3,000 บาท ทำไมจะไม่รู้ว่ามีข้อห้ามผ่านประกาศของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริงแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อีกทั้งยังได้เตือนเรื่องนี้แก่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ตลอดเวลา

ส่วนที่บอกว่าเรียกรับแลกกับการเป็นประธานเปิดงานต่างๆ ของ ป.ป.ท.นั้น นายวิษณุ ชี้แจงว่า 2-3 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยไป โดยเปิดงานผ่านวิดีโอคอลแทน และปีล่าสุด 25 ม.ค. 2566 ที่ผ่านมา ก็ไม่ได้ไปเป็นประธานเปิดงาน และ ป.ป.ท. ก็ไม่มีการให้ของขวัญอะไรทั้งสิ้น แต่ยอมรับว่าตนเองมีผ้าไทยหลายชุด เวลาไปงานโอทอปก็ไปซื้อผ้ามาเก็บไว้ เมื่อสุขภาพไม่ดีน้ำหนักลงไป 10 กิโลกรัม ก็ต้องตัดชุดใหม่ จึงให้หน้าห้องของตนไปตัดชุดใหม่ โดยวัดขนาดตัวทิ้งเอาไว้ ส่วนเขาจะไปวานใคร มอบใครต่อ ไม่ทราบ ขอย้ำว่าเสียเงินตัดชุดทุกครั้ง ใครที่จะเอาไปแอบอ้างกับร้านว่าตัดให้ตนนั้นไม่ทราบ คลิปที่เปิดในสภาฯ ก็ไม่ใช่เสียงตน และตนก็ไม่เคยไปหรือพูดกับร้านตัดสูทที่มีการกล่าวอ้างมีแต่คนอื่นไปทำให้ และสูทตนมียี่ห้อเดียวคือยี่ห้อ ARROW ที่ใช้อยู่

...

เมื่อถามต่อไปว่านอกจากชี้แจงในสภาฯ แล้วจะฟ้องร้องผู้อภิปรายหรือไม่ นายวิษณุ ตอบว่า ขอดูก่อน ไม่อยากไปค้าความให้ยืดยาว แต่ถ้าจำเป็นก็จะทำ เพราะประโยคที่รุนแรงคือคำว่า “เรียกรับ” และ “ชอบไปเหลือเกินเป็นประธาน” ซึ่งช่วงเช้าวันเดียวกันนี้หน้าห้องได้ติดต่อร้านสูทซึ่งไม่ไกลจากรัฐสภา และทางร้านระบุว่ามีคนเข้ามาติดต่อตัดสูทเหมือนกันให้ช่วยเขียนใบเสร็จ 5,000 บาทได้หรือไม่ ทั้งที่ราคาค่าตัด 2,500 บาท อ้างว่าจะไปเบิกส่วนต่าง แต่ทางร้านเขาไม่ยอมเขียนให้ และตนก็ไม่รู้ว่าคนคนนั้นคือใคร ทางร้านบอกว่าเขาติดต่อมา 2-3 ครั้ง

ส่วนคำถามว่าบุคคลที่ขอค่าส่วนต่างเชื่อมโยงกับการอภิปรายหรือไม่ นายวิษณุ ระบุว่า ไม่ทราบ และไม่รู้เป็นรายเดียวกันหรือไม่ เพิ่งถามไปเมื่อเช้า ขอตรวจสอบก่อน และอยากจะคุยกับเจ้าของร้านสูท ตอนนี้หลักฐานยังไม่มี มีเพียงสูทตัวเดียวที่เขาฝากไว้ที่ประธานสภาฯ และไม่ได้ให้ตน ขอให้กรุณารับคืนไป ตนไม่ใส่ให้เป็นกาลกิณี

ในช่วงท้าย นายวิษณุ ยังกล่าวด้วยว่า “เป็นความพยายามของฝ่ายค้านเพื่อดิสเครดิต โถ ถ้าดิสเครดิตผม บอกรับนาฬิการับบ้าน รับที่ดิน รับเงิน ยังจะพอฟังเข้าท่ากว่าเอาชีวิตไปแลกกับชุดไทยพระราชทานเพียงตัวเดียวหรือ 2 ตัว และเมื่อคืนที่ผมฟังการอภิปรายอยากจะลุกมาชี้แจง แต่ผมนอนฟอกไตอยู่ที่บ้าน ซึ่งต้องนอนฟอกคืนละ 10 ชั่วโมงทุกคืน มีสายโยงจากท้องอยู่ลุกมาก็ไม่ได้ และสุขภาพผมมีปัญหา จำเป็นต้องใส่ชุดไทย”

พร้อมกันนี้ นายวิษณุ ยังได้เปิดชายเสื้อเพื่อให้สื่อมวลชนเห็นแผลที่ฟอกไตด้วย ก่อนจะระบุต่อไปว่า “ผมไม่สามารถที่จะใส่สูทเพราะต้องทับใน เนื่องจากจะทับแผล จึงต้องใส่เสื้อปล่อยชาย ขนาดเข็มขัดยังรัดไม่ได้เพราะจะทับแผล และขอถามสื่อหน่อย เคยเห็นผมใส่ชุดไทยหลักหมื่นหลักแสนหรือไม่”