“อนุทิน” เตรียมลงนามแก้กฎระทรวงครอบครองยาบ้า 1 เม็ดเป็นผู้เสพ 2 เม็ดเป็นผู้ค้า ก่อนเสนอเข้า ครม. หวังแก้ปัญหาผู้ค้าเลี่ยงบาลี ชี้ คุกไม่เพียงพอขังไม่ใช่ประเด็น แต่ต้องจัดการให้เด็ดขาด

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 30 ม.ค. 2566 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการออกกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์กำหนดการครอบครองยาบ้าเกิน 1 เม็ดเป็นผู้ค้า ว่า ได้รับรายงานจากปลัดกระทรวงสาธารณสุขว่ากำลังจัดเตรียมประกาศอยู่ ซึ่งเป็นผลมาจากคณะกรรมการการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด และจะมีการนำเสนอให้ตนลงนาม ขณะนี้กำลังเตรียมเอกสารอยู่ ซึ่งมาตรการนี้เป็นร่างกฎกระทรวง ต้องนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบด้วย ก่อนประกาศในราชกิจจานุเบกษา

จากนั้นผู้สื่อข่าวถามว่าการกำหนดให้ยาบ้า 1 เม็ด เป็นผู้เสพ ยาบ้า 2 เม็ดขึ้นไปเป็นผู้ค้า จะทำให้สถานการณ์ยาเสพติดดีขึ้นหรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า เรื่องนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้คณะกรรมการดังกล่าวหารือกันเยอะมาก ส่วนใหญ่นึกถึงเยาวชน ความมั่นคงของครอบครัว และสังคม ซึ่งเรื่องของการปฏิบัติงานที่บอกว่าการที่เราไม่ปราบปรามยาเสพติดให้เด็ดขาดเพราะกลัวคุกไม่พอขัง คณะกรรมการส่วนใหญ่เห็นว่าไม่ใช่เหตุผล แต่เหตุผลคือเราต้องมีมาตรการที่เด็ดขาดและทำให้เห็นว่ากระบวนการทางกฎหมายมีประสิทธิภาพ ที่บอกว่าคุกไม่พอขัง วันนี้ก็ไม่พอขังอยู่แล้ว ซึ่งการปฏิบัติก็เป็นหน้าที่ของตำรวจ สำหรับกระทรวงสาธารณสุขก็ต้องไปหางบประมาณเพื่อมาทำในเรื่องของระบบการบำบัดผู้ติดยาเสพติด

ทั้งนี้เมื่อกำหนดให้ผู้ครอบครองยาบ้า 1 เม็ดเป็นผู้เสพ จะทำให้โทษรุนแรงขึ้นใช่หรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า เป็นมาตรการที่จะทำให้การเลี่ยงบาลีของผู้ที่ประสงค์จะค้ายาเสพติดทำให้ยากขึ้น คือเดิมกำหนดผู้เสพคือ 15 เม็ด ทำให้แค่บำบัด จึงทำให้ผู้ค้าเลี่ยงบาลี ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่ไหว เพราะทำให้เลี่ยงบาลีจำนวนมาก ซึ่งตอนนั้นก็ลดลงมาเหลือ 5 เม็ด แต่ผู้ค้าก็ใช้หลบเลี่ยงกันอีก จึงมาสรุปที่ 1 เม็ด ผู้ค้าอาจมองแล้วไม่คุ้มค่า ดังนั้น ความคุ้มค่าที่จะเลี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายมันจะไม่คุ้มค่าเท่ากับ 5 เม็ด หรือ 15 เม็ดในอดีต

...

“ขอย้ำว่าเรื่องนี้เป็นความเห็นร่วมกัน ไม่ใช่เป็นนโยบาย เพราะทางกระทรวงสาธารณสุขและผมในฐานะที่เป็นประธาน คณะกรรมการการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด มีความกังวลเรื่องนี้ จึงมีมติออกมาเหมือนข้อกำหนดอื่นๆ ให้อำนาจคณะกรรมการมีมติพิจารณาว่า จะมีมติออกมาอย่างไร ผมก็มีหน้าที่ที่จะลงนามตามมติคณะกรรมการ ซึ่งอำนาจก็แค่ชะลอ ได้ให้เขาทบทวน แต่ถ้าเขายืนยันตามมติผมก็ต้องลงนาม ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้”

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามต่อไปว่าหากออกกฎกระทรวงแล้วจะมีผลบังคับใช้เลยใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวยอมรับว่า มีการแก้ไขกฎกระทรวงก่อนนำมาแจ้งใน ครม.