- กระตุก พรรคเพื่อไทย แม้ชนะแลนด์สไลด์ก็อาจจะไม่พอ อาจต้องถึงชนะซุปเปอร์แลนด์สไลด์ ถึงได้จัดตั้งรัฐบาล
- ชี้ชัด พรรคเพื่อไทยอาจชนะในสนามเลือกตั้ง แต่การจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่เป็นอีกเรื่อง เนื่องจากมี 2 เงื่อนไขสำคัญ ที่ยังต้องฟันผ่า
- ทิ้งปริศนา ยังย้ำและเชื่อว่า 2 ลุง "ตู่-ป้อม" ไม่ได้แตกกันจริง แม้แยกไปเดินสู่ดาวคนละดวงแล้ว เพราะอย่างไรสุดท้ายก็กลับมารวมกันอยู่ดี
การเมืองช่วงนี้อุณหภูมิ เพิ่มดีกรีความร้อนแรงขึ้นมาเรื่อยๆ ต้องยอมรับว่า ยิ่งเมื่อลุงตู่ตัดสินใจแน่ชัด เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) แน่นอน ปฏิเสธไม่ได้ ส่งผลกระทบใหญ่หลวงกับ 2 พรรคการเมือง ทั้งค่าย "พระแม่ธรณีบีบมวยผม" อย่างประชาธิปัตย์ (ปชป.) และพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)
เกิดปรากฏการณ์ "เลือดไหลไม่หยุด" ทั้ง 2 พรรค ส.ส.ย้ายออกจากพรรคไปรวมกันอยู่ที่รทสช. ยิ่งทำให้ข้อสนับสนุนที่ถูกตั้งข้อสงสัย "บิ๊กตู่" แตกกับ "บิ๊กป้อม" แน่นอนแล้วยิ่งเด่นชัดขึ้น
...
แตกจริงไหม? เอาจริงไม่มีใครรู้ นอกจาก 2 ลุง เท่านั้น ที่รู้อยู่แก่ใจและให้คำตอบได้ แตกไม่แตกไม่รู้! แต่มีรอยร้าวเกิดขึ้นแน่ๆ
สังเกตได้จากกรณี "จดหมายจากใจบิ๊กป้อม" ที่เนื้อหาออกมาในลักษณะ "ตัดพ้อ" น้องรักอย่าง "ลุงตู่" ซึ่งหลายคนก็ตั้งข้อสังเกต ไม่น่าใช่ "บิ๊กป้อม" เขียนเอง แต่เป็นคนอื่นในพรรคเขียนให้
ขณะที่หากไม่นับพรรคภูมิใจไทยของ "เสี่ยหนู" อนุทิน ชาญวีรกูล ศิษย์รัก "เนวิน ชิดชอบ" เซราะกราวแห่งพรรคภูมิใจไทย ที่การเลือกตั้งครั้งนี้ ถูกวางไว้ว่า มีโอกาสอาจได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว
อีกพรรคการเมืองหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ คือ พรรคการเมืองฝั่งตรงข้ามอย่างพรรคเพื่อไทย ของ "นายห้างดูไบ" ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ลูกสาวสุดที่รัก อย่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เพิ่งประกาศตัวพร้อมเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย อย่างเป็นทางการ
ที่ ชู การตลาดแบบถี่ยิบในช่วงนี้ คือ ประชาชน ต้องเลือกแบบแลนด์สไลด์ เพื่อให้ชนะเลือกตั้ง ได้เป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ส่วนจะสามารถทำได้หรือไม่ ก็ต้องรอดูผลลัพธ์
ทีมข่าวการเมืองไทยรัฐออนไลน์จึงได้สอบถามไปยัง รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เพื่อวิเคราะห์ปรากฏการณ์การเมืองที่เกิดขึ้น และดูเงื่อนไข ว่า แต่ละฝ่ายจะไปถึงฝั่งฝันได้หรือไม่ หลังผ่านการเลือกตั้งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2566 นี้
ตอนนี้ 2 ป. เดินสู่ "ดาวคนละดวง" แตกกันแล้วใช่หรือไม่
รศ.ดร.ยุทธพร กล่าวว่า ผมยังไม่เชื่อว่าเขาแตกกันนะครับ เพราะยังไง ขาดกันไม่ได้ แต่มันเป็นแค่เรื่องทางการเมือง ที่ต้องแยกกันเดิน เวลาที่เหมาะสมก็จะกลับมารวมกัน ในสภาพเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่การแตกกัน ผมยังยืนยันว่าไม่ใช่แน่นอน
2 ป. ไม่แตกกัน แต่ปรากฏการณ์มันเกิดจากคนรอบข้าง ทำพปชร.เลือดไหลไม่หยุด
รศ.ดร.ยุทธพร กล่าวอีกว่า คือภาพในการเคลื่อนย้ายพรรคที่เกิดขึ้นเหล่านี้ เกิดจากตัวส.ส.เองด้วย มันไม่ได้เกิดขึ้นจากยุทธศาสตร์ หรือตัว 3 ป.ถึงเป็นคนดึงส.ส.เหล่านี้ แต่มันเกิดจากตัวส.ส.เอง ที่เห็นว่า ถ้าย้ายไปจะได้เป็นรัฐบาลสมัยหน้า ฉะนั้นตรงนี้คงไม่ได้เกิดจาก 2 ป. แล้วแย่งทีม ส.ส.แต่ผมเห็นว่า เกิดขึ้นในการเคลื่อนย้ายกันเอง เป็นเหตุผลหลักเลย แล้วตอนนี้สถานการณ์ พปชร. อยู่ในสถานการณ์เลือดไหลไม่หยุด เราจึงเห็นจดหมาย พล.อ.ประวิตร ออกมา ผมไม่เชื่อ พล.อ.ประวิตรเขียนเองหรอกครับ ในพรรคคงเป็นคนเขียน แต่ท่านก็รับทราบ รับรู้เนื้อหา
วิเคราะห์ "ธรรมนัส" คุกเข่าไหว้ "บิ๊กป้อม" แค่เรียกเชื่อมั่นในพรรคพปชร.
แม้เรื่องเวทีที่ จ.พะเยา อันนี้เป็นการเรียกความเชื่อมั่นในพรรค พปชร. หรือการประกาศเรื่องความปรองดอง (พร้อมจับมือกับทุกพรรคการเมือง) ก็คือการเปิดทางโดยเฉพาะโอกาสดีลกับพรรคการเมืองอื่นๆ มากขึ้น วันนี้เมื่อพรรค พปชร.ไม่มีชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ แล้ว ก็ทำให้พรรคการเมืองต่างๆ ก็มีโอกาสดีลกับพปชร.เป็นเงื่อนไขง่ายขึ้น คลายล็อกผ่อนคลายมากขึ้น ตรงนี้เป็นยุทธศาสตร์การเมืองมากกว่า ไม่ได้มีความขัดแย้งอะไรหรอกครับ
มองการเมือง 2 ป. แยกกันแบบนี้ มีโอกาสพ่าย "เพื่อไทย" สูงใช่หรือไม่?
อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวต่อว่า วันนี้ กติกา รธน.ปี 60 ทำให้เรื่องการเลือกตั้งกับการจัดตั้งรัฐบาลถูกแยกส่วน เพราะฉะนั้น ผลเลือกตั้งออกมาเป็นอย่างไร ก็ไม่ใช่เครื่องยืนยันการันตีเลย ว่า การจัดตั้งรัฐบาลจะออกมาแบบนั้น เราก็เห็นมาแล้วการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 พรรคเพื่อไทยได้คะแนนมาลำดับที่ 1 แต่ก็จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ เพราะฉะนั้นในการเลือกตั้งครั้งนี้ก็เหมือนกัน ไม่แน่ว่า พรรคอันดับ 1 จะตั้งรัฐบาลได้นะ เพราะกลไกสำคัญยังอยู่ รัฐธรรมนูญมาตรา 272 ให้ส.ว.ร่วมโหวตเลือกนายกฯ ยังอยู่
"เงื่อนไขสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาลมี 2 เรื่องเท่านั้น 1 การที่พรรคนั้นๆ จะต้องมีเสียงในสภา ไม่น้อยกว่า 5% หรือ 25 ที่นั่ง 2. สามารถฝ่าด่านส.ว.ได้ อันนี้คือเงื่อนไขสำคัญ ฉะนั้นการแตกพรรคอะไรออกมามันก็ไม่มีส่วนในการจัดตั้งรัฐบาล ขอให้เกิน 25 ที่นั่งใช้ได้ แล้วเสียงก็ไม่ต้องมาอันดับ 1 ด้วย แต่สามารถรวมเสียงในสภาให้ได้มากที่สุด เป็นพอ ฉะนั้นอย่างที่บอกยุทธศาสตร์สำคัญในครั้งนี้ การที่พรรคพปชร.ไม่มีชื่อพล.อ.ประยุทธ์ ทำให้หลายอย่างผ่อนคลายเงื่อนไขในพปชร.ด้วยซ้ำไป สำคัญต้องหยุดเลือดไหลให้ได้" อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าว...
ชี้ เลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย ได้เปรียบ แต่จัดตั้งรัฐบาล ก็เป็นอีกเรื่อง
รศ.ดร.ยุทธพร กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย เลือกตั้งได้เปรียบ แต่จัดตั้งรัฐบาลอีกเรื่องหนึ่งนะ ถ้าเพื่อไทยได้ เกิน 250 เสียง อาจจะทำให้รัฐบาลที่จัดตั้งขึ้นเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยในสภา นั่นก็จะทำให้มีปรากฏการณ์เรื่อง "งูเห่า ฝากเลี้ยง เรื่องแจกกล้วย" ขึ้นมาอีก ถ้าได้ไม่ถึง 250 ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ แต่ถ้าได้ 250 โอเค เพื่อไทยตั้งรัฐบาลไม่ได้ อีกฝั่งตั้งได้ แต่จะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ก็ต้องใช้กลไกเรื่อง "งูเห่า" บีบพรรคการเมือง ก็มีโอกาสเป็นแบบนั้น แต่ถ้าต้องการปิดสวิตช์ ส.ว.เลย ต้องได้เกิน 376 เสียง ซึ่งเป็นไปไม่ได้ "ได้ 376 จาก 500 ที่นั่ง เป็นไปไม่ได้เลยครับ"
แค่ "แลนด์สไลด์" ยังไม่น่าพอ ต้อง "ซุปเปอร์แลนด์สไลด์"
"ถ้าได้ 300 อาจมีผลในเชิงกดดันส.ว. แต่อย่างที่บอกว่ายังต้องเหนื่อยนะ ถ้าสมมติได้ 300 ก็ยังต้องหาอีก 70 กว่าเสียงนะครับ ทั้งจากสภา หรือทางส.ว.ก็ดี นั่นคือเหตุผลว่าทำไม พรรคเพื่อไทยถึงต้องชูให้เลือกตั้งแลนด์สไลด์อย่างเดียว ความจริงแลนด์สไลด์ยังไม่พอต้องซุปเปอร์แลนด์สไลด์ด้วย ผมคิดว่า 200 เขาน่าจะแตะได้ แต่ 250 ต้องลุ้น ส่วน 300 อาจจะยาก" รศ.ดร.ยุทธพร กล่าวทิ้งท้าย
สรุปความ 2 ป. แตกไลน์เป็น พลังประชารัฐ (พปชร.) กับ รวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เดินเกมการเมืองเพื่อเป้าหมายชนะเลือกตั้งว่ายากแล้ว เหตุความสัมพันธ์ 2 พรรค แม้ไม่ถึงกับ "แตกหัก" แต่ก็เรียกว่า "ร้าว"
หันมาดูฝั่งตรงข้ามอย่าง พรรคเพื่อไทย ที่มองแล้วต้องยอมรับมีโอกาสชนะเลือกตั้งมากกว่า เนื่องจากสถานการณ์การเมือง และเศรษฐกิจเอื้อให้ แต่ก็ไม่ใช่ว่า จะชนะกันได้ง่ายๆ เหตุก็อย่างที่ได้วิเคราะห์ เงื่อนไขอยู่ที่พรรคที่ได้อันดับ 1 ก็ไม่แน่เสมอไปที่จะได้จัดตั้งรัฐบาล หากรวบรวมเสียงข้างมากในสภาไม่ได้ และ ด่าน 250 ส.ว.เลือกนายกฯ อีก
นั่นจึงเป็นที่มา "ชนะแลนด์สไลด์" อาจยังไม่พอ ต้อง "ซุปเปอร์แลนด์สไลด์" เท่านั้น ก็เป็นได้
คงต้องรอดูตอนจบ อย่างที่คำโบราณว่าไว้ "สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร"
ผู้เขียน : เดชจิวยี่