ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย ชี้ อนาคตการเมืองแล้วแต่ "บิ๊กป้อม" สั่งทางไหนพร้อมทำตาม ไม่มอง 2 ป.แยกกันเดินตัดคะแนนกันเอง แต่ละคนอยากมีบ้านของตัวเอง ยก ”บิ๊กป้อม” เป็นผู้นำ หนุน นั่งนายกฯ คนที่ 30

วันที่ 16 ม.ค. 66 ที่ลานอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง อ.เมือง จ.พะเยา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนในการกลับมาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐว่า สถานภาพขณะนี้ยังเป็นสมาชิกพรรคเศรษฐกิจไทย รวมทั้ง ส.ส. ที่ยืนอยู่ข้างหลังตน แต่เรื่องการเมืองไม่ปฏิเสธว่า ตนให้ความเคารพรัก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มาอย่างสม่ำเสมอ เพราะตนถือว่า ท่านมีพระคุณกับตนกับพี่น้องตน ดังนั้นทุกอย่างชีวิตการเมือง เป็นเรื่องของบ้านของเมือง ตนก็ฝากนายป้อมแล้วว่า แล้วแต่ท่านจะตัดสินใจจะให้ตนเดินกลับพรรคเศรษฐกิจไทยต่อ หรืออย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า เบื้องต้น พล.อ.ประวิตร อยากให้กลับมาพลังประชารัฐ หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ถามว่า การเมืองเวลานี้ อย่างที่ผู้ใหญ่หลายคนบอกว่า ยังมีเวลาอยู่ในการตัดสินใจ และตนในฐานะที่เป็นแกนหลักพรรคเศรษฐกิจไทย เราก็ยังรักบ้านเดิมอยู่ แต่เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร สั่งอย่างไร ตนในฐานะที่อยู่กับท่านมาโดยตลอดในชีวิตการเมืองผมเลือกไม่ได้ก็แล้วแต่ท่าน

เมื่อถามว่า ดังนั้นก็มีเปอร์เซ็นต์ ถ้าหาก พล.อ.ประวิตร ให้มาทำการเมือง ในนามพรรคพลังประชารัฐก็พร้อมจะมา ใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ก็อย่างที่ตนเรียนว่า ก็แล้วแต่ท่านหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเห็นสมควรหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อยู่ที่พล.อ.ประวิตรจะตัดสินใจ

...

เมื่อถามว่า การเลือกตั้งที่จะมาถึงจะสมัครเขต 1 พะเยาใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การเมืองในบ้านตน จ.พะเยา เป็นการเมืองที่ฟังเสียงพี่น้องประชาชน ชาวบ้านอยากให้ตนลง เขต 1 เหมือนเดิม อยากให้นายจีระเดช ศรีวิลาศ ลง เขต 2 และนายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ลงบัญชีรายชื่อ เมื่อถามว่า จะลงสมัครเลือกตั้งในนามพรรคพลังประชารัฐ หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อยู่ที่พล.อ.ประวิตรจะตัดสินใจ

เมื่อถามย้ำว่า พล.อ.ประวิตรได้ส่งสัญญาณว่า จะให้กลับมาพรรคพลังประชารัฐเมื่อไหร่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า จริงๆ แล้ว ในส่วน ส.ส.ของพรรคเศรษฐกิจไทย พล.อ.ประวิตรให้อิสระในการตัดสินใจว่า จะอยู่พรรคพลังประชารัฐ หรือพรรคเศรษฐกิจไทย เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะชัดเจนได้เมื่อไหร่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “ก็อีกไม่กี่วันนี่ละครับ ซึ่งน่าจะชัดเจน” เมื่อถามว่า จะชัดเจนก่อนประชุมใหญ่ พรรคพลังประชารัฐในวันที่ 21 ม.ค.หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อาจจะก่อนหรือหลังสักเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ก่อนวันที่ 7 ก.พ. ที่ต้องชัดเจนอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า แกนนำพรรคพลังประชารัฐ หลายคนทิ้ง พล.อ.ประวิตร จะหาใครมาเติมเต็มมาช่วยในการสู้ศึกเลือกตั้ง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เวลานี้ยังเป็นสมาชิกพรรคเศรษฐกิจไทย เรายังพูดอะไรได้ไม่เยอะ แต่ถามว่า แนวร่วมที่เคยสร้างพรรคพลังประชารัฐ มาตั้งแต่ยังเป็นวุ้น หลายท่านก็ยังอยู่ หลายท่านออกไปแล้วก็กลับมา

เมื่อถามว่า มองสถานการณ์การเมืองอย่างไรที่พี่น้อง 2 ป. แยกกันเดิน เหมือนมาแย่งคะแนนกันเอง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ได้มองอย่างนั้น แต่เป็นรูปแบบของประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ละคนมีบ้านของตัวเอง อย่างพล.อ.ประวิตร ก็รักบ้านของท่าน เพราะท่านสร้างมากับมือ เช่นเดียวกับ ส.ส.หลายคน ดังนั้นการเมืองและการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง ตนว่าจะเป็นสีสันในเรื่องของประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นพรรคอะไรก็ตามก็จะง่ายกว่าเดิมที่จำนวนพรรคจะไม่มากเหมือนปีก่อน 2562

เมื่อถามย้ำว่า จะเป็นการตัดคะแนนกันเองหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ถ้าเป็นการเมืองอย่างพวกตนที่เป็นส.ส.ต่างจังหวัดไม่มีผล สังเกตได้ว่าที่มากันวันนี้ก็ไม่ได้เกณฑ์กันมาแต่มาด้วยใจ เพราะอยากจะมาเจอพล.อ.ประวิตร

เมื่อถามว่า ชัดเจนแล้วใช่หรือไม่ที่จะชู พล.อ.ประวิตร เป็นนายกฯ คนที่ 30 ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนสนับสนุนพล.อ.ประวิตร

เมื่อถามย้ำว่า ที่ระบุกับประชาชนว่า วันนี้พา ว่าที่นายกฯ คนที่ 30 มาพบชาวพะเยา อยากให้พูดเต็มปากกับสื่ออีกครั้ง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนมั่นใจว่า ด้วยบุคลิกและนิสัยใจคอของพล.อ.ประวิตร ที่ตนอยู่วงการเมืองครั้งแรกในชีวิตของ พล.อ.ประวิตร ท่านคือผู้นำ ที่จะนำพาพี่น้องประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ในเรื่องของเศรษฐกิจก็เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งกำลังเข้ามาทั้งเปิดหน้าและไม่เปิดหน้า

เมื่อถามว่า มองภาพรวมเปอร์เซ็นต์ความเป็นไปได้ที่ พล.อ.ประวิตรจะนั่งนายกฯ อย่างไร ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนว่าอยู่ที่พี่น้องประชาชน ถ้าถามว่า การเมืองในพื้นที่ภาคเหนือจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่นั้น ตนว่าเปลี่ยนแปลงแน่นอน และตนเชื่อมั่นว่า พรรคอื่นก็เช่นเดียวกัน

เมื่อถามว่า ในพื้นที่ที่ดูแลยังมั่นใจในคะแนนนิยมใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตอนเป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ ตนลงพื้นที่เกือบทุกจังหวัด เหลืออีก 4 จังหวัดในประเทศไทยที่ตนยังไม่ได้ไป ดังนั้นตนมั่นใจว่า การที่พล.อ.ประวิตร สั่งการให้ตนมาทั้งในหน้าที่ รมช.เกษตรและสหกรณ์ และงานที่มอบหมายในนามพรรคเกิดประโยชน์เป็นรูปธรรมให้กับพี่น้องประชาชนในทุกจังหวัด ตนมั่นใจว่า สิ่งเหล่านี้คือผลงานของ พล.อ.ประวิตร.