เครือข่ายประชาชนฯ ปักหลักกดดัน จี้สภาผ่านร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ไม่เห็นด้วยที่จะให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติด มองอาจทำให้เกิดปัญหาตามมาอีกมาก พร้อมตะโกน ขอให้ผ่าน

วันที่14 ธันวาคม 2565 เครือข่ายภาคประชาชนเพื่อการมีกฎหมายควบคุมกัญชาในประเทศไทย สมาคมนักวิจัยแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยตัวแทนวิสาหกิจชุมชน เกษตรกร ผู้ป่วยและญาติ ตัวแทนภาคธุรกิจแบบอุตสาหกรรม รวมตัวจัดกิจกรรมเรียกร้องให้ ส.ส.รับร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ… ในวาระที่ 2 ที่เข้าสู่การประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยได้รวมตัวกันตั้งแต่ช่วงเช้า บริเวณทางเข้ารัฐสภา ฝั่งเกียกกาย เพื่อสนับสนุนให้สภาผู้แทนราษฎร ผ่านร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง ที่จะเข้าสู่การพิจารณาเพื่อเป็นกฎหมายมากำกับ ดูแล ควบคุมกัญชา กัญชง ให้ถูกต้อง และเป็นประโยชน์กับประชาชน และในทางการแพทย์ โดยไม่เห็นด้วยที่จะให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติด เนื่องจากจะทำให้เกิดปัญหาตามมาอีกมาก


สำหรับบรรยากาศโดยทั่วไป เครือข่ายภาคประชาชนฯ ร่วมกันโบกธงสีเขียว มีข้อความว่า “พ.ร.บ.กัญชา” ให้กับรถที่ผ่านมาเข้ามาทางประตู 4 พร้อมกับตะโกนว่า “ขอให้ผ่าน พ.ร.บ.กัญชาด้วย” โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด และทันทีที่ทราบว่าสภาไม่ล่ม และมีการเลื่อนร่างกฎหมาย “กัญชา” ขึ้นมาพิจารณาเป็นลำดับแรก ประชาชนได้ส่งเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจ จากนั้นได้ต่อเสียงการถ่ายทอดสดมาบริเวณด้านนอก เพื่อรอรับฟังอย่างใจจดใจจ่อ

...

ดร.พิพัฒน์ นนทนาธรณ์ นายกสมาคมนักวิจัยแห่งประเทศไทย กล่าวยืนยันว่าต้องการสนับสนุนให้ผ่านร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ซึ่งจะทำให้สามารถควบคุมได้ทั้งแง่คุณภาพ การเข้าถึง เพื่อประโยชน์ต่อประชาชน ขณะเดียวกันในหลายประเทศเริ่มมีการปลดล็อกกันในด้านนันทนาการแล้ว แต่ในประเทศไทยขอให้เน้นด้านทางการแพทย์ก่อน และคุมให้เยาวชนใช้อย่างถูกวิธีก่อน.