• ข่าวลือ อาจจะตัดสินใจย้ายไป พปชร.ข้อเท็จจริง เป็นอย่างไร?
  • วิเคราะห์ชัด สูตรหาร 100 พรรคเล็กหนีตาย ฟันธง! ใครที่คิดเอาไปควบรวมกัน ยัน ในทางปฏิบัติ เป็นไปได้ยาก!
  • ลั่น ขอดูปรับโครงสร้างพรรค หากไปไม่ไหว ยอมรับ อาจยุติบทบาททางการเมือง 30 ปี ลาขาด ไปนอนอยู่บ้าน กินกาแฟ "สูงสุดคืนสู่สามัญ"

การเมืองในประเทศตอนนี้ นอกจากไฮไลต์สำคัญ รอการพิจารณาตัดสินใจของ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม รอวัน เวลา ที่เหมาะสมในการประกาศจะย้ายไปพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) แล้ว 

วีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรค พปชร.
วีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรค พปชร.

...

ยิ่งเข้าใกล้ช่วงเวลาที่นายกฯ จะตัดสินใจ "ยุบสภา" ได้ทุกเมื่อ ถึงแม้ นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรค พปชร.จะออกมา ฟันธง! นายกฯ ยุบสภา มี.ค. 2566 ล้านเปอร์เซ็นต์ เพื่อเปิดทาง ส.ส.ย้ายซบ พรรครวมไทยสร้างชาติ รวมทั้ง ได้ยินข่าวซุบซิบ ส.ส.กทม.ของพปชร.จะย้ายแทบเกลี้ยงก็ตาม 

แต่สถานการณ์การเมืองในตอนนี้ ไม่มีอะไรที่แน่นอน นักการเมืองทุกคน ทุกพรรคก็ต้องเตรียมความพร้อมไว้ รอสัญญาณนกหวีดจากนายกฯ ตลอดเวลาอยู่แล้ว 

นั่นเป็นสถานการณ์การเมือง ระดับแกนนำจัดตั้งรัฐบาลของพรรคใหญ่อย่างพลังประชารัฐ และอีกพรรค คือ รวมไทยสร้างชาติ ที่มีชื่อ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องยอมรับว่ามีคะแนนนิยมส่วนตัว ไม่น้อย

แต่สำหรับ พรรคการเมืองระดับรองลงมา อย่าง พรรคสร้างอนาคตไทย ที่มี 2 คู่หู นายอุตตม สาวนายน และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เป็นหัวหน้า และเลขาฯ พรรค และ ชูชื่อ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นแคนดิเดตนายกฯ พรรค ที่มีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ 

อย่างอาทิตย์ที่ผ่านมา อยู่ก็มีกระแสข่าว นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) ในฐานะประธานภาคใต้ เตรียมย้ายไปเสริมทีมภาคใต้ให้พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ถึงขนาดสื่อฯ เอาไปถาม "บิ๊กป้อม" ทำให้สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น 

เพราะต้องไม่ลืมว่า ก่อนหน้า นายนิพิฏฐ์ คนนี้ล่ะ ก็มีเรื่องกับพรรคเก่าแก่อดีตต้นสังกัดอย่าง "ประชาธิปัตย์" มาแล้วถึงขั้นเปิดศึกกับหัวหน้าพรรคอย่าง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ กรณีพรรคหักหาญน้ำใจ ไม่ส่งเด็กนายนิพิฏฐ์ ลงสมัคร ส.ส.ที่พัทลุง จนเจ้าตัวไม่พอใจ เหตุไม่ให้เกียรติไร้การบอกกล่าว

ทั้งที่ตอนแรกก็ตกลงให้นายนิพิฏฐ์ส่งผู้สมัครลงสู้เลือกตั้ง ถึงขั้นประกาศหันหลังให้กับ พรรค ปชป.ทั้งที่อยู่กับพรรคมายาวนานถึง 30 ปี ก่อนตัดสินใจมาร่วมงานการเมืองกับพรรคสร้างอนาคตไทยในเวลาต่อมา 

วันนี้ ทีมข่าวการเมืองไทยรัฐออนไลน์ ได้สอบถามข้อเท็จจริง ไปยังเจ้าตัว นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไร มีความขัดแย้งเกิดขึ้นจริงหรือไม่ แล้วจะย้ายไปพลังประชารัฐ จริงหรือเปล่า 

พร้อมไม่ลืม ที่จะให้ผู้มีประสบการณ์การเมืองสุดเก๋า อย่าง นายนิพิฏฐ์ วิเคราะห์การเมืองไทยในขณะนี้ ยิ่งเมื่อศาลรัฐธรรมนูญ เพิ่งวินิจฉัย กฎหมายลูกเลือกตั้งส.ส. (สูตรหาร 100) ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ 

ข่าวลือที่จะย้ายไป พปชร.ข้อเท็จจริง เป็นอย่างไร? 

นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ยังนะครับ ตอนที่ข่าวนี้ออก ผมก็ออกจากที่ประชุมพอดี ผมคิดว่า มันอาจจะมีประเด็นว่า ความคิดเห็นยังไม่ยุติ มันมีความเห็นต่าง เรื่องปรับโครงสร้างพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) เป็นเรื่องนั้นมากกว่า แต่ทั้งหมดยังไม่ได้มีข้อยุติอะไร

"ยืนยันว่า มันต้องดูการปรับโครงสร้างพรรค สอท.เพื่อให้รองรับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ สูตรเลือกตั้งหาร 100 กับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ก่อน ว่าจะปรับโครงสร้างพรรคอย่างไร มีการเห็นด้วยไหม ตอนนี้รอขั้นตอนการปรับโครงสร้างพรรคก่อน แล้วจึงค่อยมาสรุปกัน" รองหัวหน้าพรรค สอท. กล่าว...

สูตร หาร 100 พรรคเล็กหนีตาย ควบรวมพรรค? 

นายนิพิฏฐ์ กล่าวอีกว่า สูตรหาร 100 ผมคิดไว้ตั้งนานแล้ว ว่า มันไม่มีทางเป็นอย่างอื่นเลย ต้องหาร 100 นี่ล่ะ เราก็เตรียมรับสถานการณ์อยู่แล้ว เพราะมันเป็นอย่างนั้น ดูตามกฎหมายเป็นอย่างอื่นไม่ได้ พอเป็นสูตรหาร 100 ก็ทำให้พรรคเล็กอยู่ยาก พรรคเล็กก็พยายามปรับตัว เช่น ไปรวมกันให้ได้สัดส่วนบัญชีรายชื่อ แต่มันก็ไม่ง่าย เพราะต้องได้คะแนน 3 แสนกว่า ถึงได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่า พรรคเล็กรวมตัวกันจะมีอิมแพกต์ หรือความน่าสนใจถึงขนาดว่า ได้คะแนนเยอะขึ้น ตามจำนวนพรรคที่มารวมกัน มันไม่มีคำอธิบายอย่างนั้นได้นะ ผมว่ามันไม่ง่ายหรอก

ฟันธง! ที่คิดเอาพรรคเล็กไปรวมกัน เพื่อหนีตาย ชี้เป็นไปได้ยาก เพราะ...?

นายนิพิฏฐ์ กล่าวต่อว่า แล้วอีกเรื่อง เวลาพรรคเล็กรวมกัน สมมติ เดิมได้คะแนน แสนหนึ่งหรือแสนต้นๆ แล้วเขามารวมกันสัก 3 พรรค ก็ไม่ได้หมายความว่า ได้ 3 แสนคะแนนนะ แล้วมารวมกัน 3 พรรคถามว่า ใครจะเป็นเบอร์ 1 เบอร์ 2 เบอร์ 3 ในบัญชีรายชื่อแค่นี้ก็จบแล้ว เพราะมันอยากได้เบอร์ 1 กันทั้งนั้นล่ะ แล้วถ้าเขาไม่มั่นใจใครจะมา เพราะการทำพรรคการเมือง มันต้องใช้เงินทุนอะไรเยอะ ฉะนั้นใครที่คิดว่า หนีตายด้วยการเอาพรรคเล็กมารวมกันแล้วไปได้ ในทางทฤษฎีมันใช่ แต่ในทางปฏิบัติมันไม่ได้ ฉะนั้นยากครับ ที่พรรคการเมืองขนาดเล็ก จะรวมกันแล้วรอด มันยาก มันเป็นโอกาสของพรรคการเมืองขนาดใหญ่ ขนาดกลาง 

ลั่น ขอดูความชัดเจน ปรับโครงสร้างพรรค สอท.ก่อน ถึงตัดสินใจอนาคตการเมือง 

รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวว่า ต้องดูปรับโครงสร้างพรรคอย่างไร แล้วโครงสร้างพรรคที่ปรับ สามารถนำไปสู่การเลือกตั้งที่มีความมั่นคง มีน้ำหนักที่ดีกว่าเดิมไหม ถ้ามีการปรับโครงสร้างพรรคแล้วไม่สามารถทำให้พรรคเติบโตได้ มันไม่ควรปรับโครงสร้างอย่างนั้น"

หากปรับโครงสร้างพรรคแล้วไปไม่ได้ อาจพิจารณายุติบทบาทตัวเอง ปิดฉากชีวิตการเมือง 30 ปี 

"ถ้าเป็นอย่างนั้นปรับแล้ว มันทำพรรคอ่อนแอผมก็ต้องมาดูว่าเราจะทำอย่างไง เช่นเราจะนำลูกทีมเราไปต่อไหม หรือเราจะปล่อยลูกทีมเราไป แล้วเรายุติบทบาททางการเมือง ผมก็คิดอยู่ถ้ามันไปไม่ได้ ผมว่าต้องยุติบทบาททางการเมือง เพราะมันเป็นทางเลือกอย่างหนึ่งเหมือนกัน ยุติบทบาททางการเมืองเลย ก็นอนอยู่บ้าน กินกาแฟ คุยกับเพื่อน ชีวิตเราก็แค่นี้ สูงสุดคืนสู่สามัญ" นายนิพิฏฐ์ กล่าว...

วางกำหนด วัน-เวลา หรือไม่ ต้องรู้เมื่อไหร่? เพื่อจะได้ตัดสินใจการเมืองถูก 

นายนิพิฏฐ์ ยอมรับว่า ก็ต้องเร็วครับ ไม่ถึงปีหน้าหรอก ผมว่า ภายในอาทิตย์นี้ ก็ต้องมีความชัดเจนแล้ว

สถานการณ์การเมืองไทยในตอนนี้ แน่นอน ในภาพใหญ่ ถนนทุกสายสำหรับนักการเมืองมุ่งไปสู่การเลือกตั้งใหญ่ ที่นักการเมืองหลายคนก็ต้องคิดและวางแผนอย่างหนัก ว่าจะต้องทำอย่างไร ให้ตัวเอง และพรรคที่สังกัด ประสบกับชัยชนะ และได้ตั้งรัฐบาลแล้วได้อำนาจ เข้าสู่การบริหารประเทศ 

แต่ก็ต้องไม่ลืมสัจธรรมอมตะ ทุกอย่างก็มีวันสิ้นสุด "สูงสุดคืนสู่สามัญ" 

ผู้เขียน : เดชจิวยี่ 

กราฟิก :Chonticha Pinijrob