“ธนาธร-ปิยบุตร-พรรณิการ์” กลับเข้าสภาฯ อีกครั้ง เตรียมเสนอร่างกฎหมายปลดล็อกท้องถิ่น ชี้ สำคัญต่ออนาคตประเทศ หวังได้รับเสียงหนุนผ่านวาระ 1 หากถูกคว่ำ เชื่อ ก้าวไกลพร้อมสานต่อ

เมื่อเวลา 09.10 น. วันที่ 29 พ.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เดินทางมายังอาคารรัฐสภา เป็นตัวแทนของประชาชนกว่า 70,000 รายชื่อที่ร่วมรณรงค์เสนอร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พ.ศ. .... ที่มี นายธนาธร, นายปิยบุตร กับคณะ เป็นผู้เสนอ ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา อาจจะเป็นช่วงเย็นวันนี้ หรือวันพรุ่งนี้ (30 พ.ย. 2565)

นายธนาธร กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่การรณรงค์ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมามาถึงจุดนี้ได้ ซึ่งสมาชิกรัฐสภาไม่ว่าจะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จากพรรคการเมืองต่างๆ และสมาชิกสุฒิสภา (ส.ว.) จะเห็นถึงความสำคัญของการกระจายอำนาจของการยุติการรวมศูนย์ที่ส่วนกลาง เรามีความตั้งใจจริงที่จะผลักดันให้ร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านได้ ขอให้ติดตามการอภิปรายหลักการและเหตุผลว่าทำไมการปลดล็อกท้องถิ่นจึงสำคัญต่ออนาคตประเทศ เรื่องหลักๆ คือ

1. การจัดสรรภาษีให้เป็นธรรม ส่วนแบ่งภาษีปัจจุบันส่วนกลาง 70% ท้องถิ่น 30% ปรับให้เป็น 50% เท่ากัน เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีงบประมาณเพียงพอในพื้นที่ของตัวเอง ไม่ต้องวิ่งของบเหมือนเดิมจนเกิดระบบอุปถัมป์

2. เรื่องอำนาจ โดยมองว่าส่วนกลางไม่เปิดโอกาสให้ท้องถิ่นพัฒนาพื้นที่ของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ต้องปลดล้อกให้ท้องถิ่นมีอำนาจเต็มที่ในการดูแลจัดการบริการสาธารณะในพื้นที่ของตัวเอง

...

3. การจัดทำประชามติ เพื่อยุบราชการส่วนภูมิภาคลง ควบรวมข้าราชการและงบประมาณที่อยู่ในส่วนภูมิภาคเข้ากับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่เพราะเป็นการปรับรูปแบบการบริหาร การปกครองประเทศครั้งใหญ่ในสังคมไทย โดยเชิญชวนประชาชนมาแลกเปลี่ยนถกเถียงเพื่อนำไปสู่ข้อสรุปในรูปแบบการทำประชามติ

“หวังว่าร่างรัฐธรรมธรมนูญฉบับนี้จะได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภาทุกท่าน ถ้าผมส่งเสียงของผมได้ อยากส่งเสียงถึงสมาชิกรัฐสภาทุกท่านเลยว่า ในรายละเอียดเราอาจจะเห็นต่างกัน แต่อย่างน้อยเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ อยากขอความร่วมมือและเสียงของทุกท่านให้โหวตผ่านวาระ 1 ไป แล้วไปแก้ไขพูดคุยกันในรายละเอียด ถ้าท่านไม่เห็นด้วย แก้ไขในรายละเอียด แลกเปลี่ยนถกเถียงกันด้วยความหวังดีต่อชาติบ้านเมืองในวาระที่ 2 วาระที่ 3 ได้ ถ้าสุดท้ายร่างมันไม่พอใจท่านค่อยไปโหวตตกกันในวาระที่ 3 ก็ยังได้ ผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าร่างรัฐธรรมนูญนี้จะเป็นการปลดล็อกพลัง ปลดล็อกศักยภาพของสังคมไทย จะทำให้ประเทศไทยที่ถูกกักขังมานาน ชนบทไทยที่ไม่สามารถพัฒนาได้ เดินต่อไปข้างหน้าได้อย่างมีพลังกับการมีส่วนร่วมของประชาชน พลังความคิดสร้างสรรค์ของประเทศไทยจะถูกระเบิดออกมา และนี่จะเป็น New S-Curve ทางเศรษฐกิจก้อนใหม่ของประเทศไทย”

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากในที่สุดแล้วร่างกฎหมายดังกล่าวตกตั้งแต่วาระแรกจะดำเนินการต่ออย่างไร นายธนาธร ตอบว่า เรื่องนี้เป็นความฝันของพวกเราที่อยากเห็นการกระจายอำนาจ การจัดสรรงบประมาณอย่างเป็นธรรม มาตั้งแต่สมัยเป็นพรรคอนาคตใหม่ และเพื่อนอดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ก็จะเดินทางตามทิศทางตามความฝันของพวกเราต่อไป ไม่ว่าร่างกฎหมายจะผ่านหรือไม่ ขณะที่เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลก็มีการแถลงนโยบายทุกจังหวัดไทยก้าวหน้า มีการพูดถึงรูปแบบการทำงานจัดสรรภาษี การแก้ไขกฎหมาย ข้อจำกัดต่างๆ ที่ทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่มีอำนาจอย่างเต็มที่ในการดูแลท้องที่ตัวเอง ดังนั้น กฎหมายจะผ่านหรือไม่ ส่วนตัวเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า อดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ที่ปัจจุบันเป็น ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้นำแนวนโยบายและแนวอุดมการณ์นี้ไปทำงานต่อในการเลือกตั้งและสภาฯ สมัยหน้า