"บิ๊กตู่" เปิดงาน “APEC University Leaders’ Forum 2022” ย้ำความร่วมมือทุกภาคส่วน ภาคการศึกษา คือ กำลังสำคัญเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้อง สร้างเชื่อมั่น และยกระดับองค์ความรู้ เพื่อรับมือกับความท้าทายใหม่

วันที่ 16 พ.ย. 65 ณ อาคารมหาจุฬาลงกรณ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานกล่าวเปิดการประชุมทางวิชาการ APEC University Leaders’ Forum 2022 (AULF) ภายใต้หัวข้อ “Preventing the Next Pandemic - The Global Partnership Agenda: Government, Business and Research University” โดยภายหลังเสร็จสิ้น นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญของคำกล่าว ดังนี้

นายกรัฐมนตรี ยินดีต่อการจัดการประชุมทางวิชาการในวันนี้ ซึ่งเป็นความร่วมมือที่สอดคล้องกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจภายใต้ APEC รวมถึงเป็นเวทีในการแบ่งปันประสบการณ์และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ ตลอดจนเพื่อขับเคลื่อนให้เกิดการฟื้นฟูและการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างมั่นคงและยั่งยืน เช่นเดียวกับประเด็นสำคัญในการเป็นเจ้าภาพ APEC ของไทยในปีนี้ ที่มุ่งผลักดันการสร้างความร่วมมือภายใต้แนวคิด “Open. Connect. Balance.” นอกจากนี้ การประชุมฯ ยังขยายความสำคัญไปถึงการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการวิจัย เพื่อยกระดับองค์ความรู้ใหม่ โดยเฉพาะองค์ความรู้ด้านการแพทย์และสาธารณสุขที่เกี่ยวกับการทำวิจัยชีวการแพทย์ การบำบัดโรค และการพัฒนาเทคโนโลยีการแพทย์ ที่พร้อมรับมือกับโรคอุบัติใหม่ ตลอดจนการนำงานวิจัยมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเกิดผลเป็นรูปธรรมสำหรับประชาชนอย่างทั่วถึง

...

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วิกฤติสาธารณสุขที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าความถูกต้องของข้อมูล การเผยแพร่/รับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน ซึ่งภาคการศึกษาเป็นกำลังสำคัญในการชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้องทางวิชาการแก่สังคม นอกจากนี้ ความร่วมมือระหว่างกันเป็นหัวใจสำคัญในการนำพาประเทศก้าวผ่านวิกฤติ โดยไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับคำชมจากองค์การอนามัยโลก และนานาประเทศในการดำเนินนโยบายและมาตรการการควบคุมโควิด-19 รวมถึงการดูแลประชาชน ทำให้องค์การอนามัยโลกเลือกไทยเป็นประเทศต้นแบบในโครงการนำร่อง “การทบทวนการเตรียมความพร้อมกรณีฉุกเฉินทางสาธารณสุขและสุขภาพถ้วนหน้า” ซึ่งความสำเร็จนี้เป็นความภาคภูมิใจที่เกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน รวมถึงความมุ่งมั่นในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เทคโนโลยี ยารักษาโรค วัคซีน และเครื่องมือทางการแพทย์กับประเทศต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ชื่นชมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและภาคการศึกษาที่ร่วมมือกับ ศบค. ช่วยเหลือประเทศภายใต้รูปแบบ “นวัตกรรมเพื่อสังคม” โดยได้นำผลการศึกษาวิจัยมาพัฒนาให้สามารถใช้งานได้จริง และนำมาช่วยเหลือสังคมในช่วงวิกฤติ ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ไทยประสบความสำเร็จในการรับมือกับโรค คือ นโยบายในการวางรากฐานระบบหลักประกันสุขภาพ และความพร้อมของเครื่องมือทางการแพทย์ ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านสาธารณสุขกับนานาประเทศ และส่งเสริมการพัฒนาขีดความสามารถในการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์และสาธารณสุขทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ รวมถึงการยกระดับศักยภาพของบุคลากรให้มีความสามารถสูงขึ้นและมีเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยใช้งาน

นายกรัฐมนตรี หวังว่าการประชุมฯ ในวันนี้ จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการสร้างความร่วมมือทางวิชาการระหว่างกันในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งจะช่วยให้เกิดการพัฒนาในทุกมิติ โดยมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นรากฐานสำคัญ นำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองของทุกประเทศในภูมิภาคอย่างสมดุลและยั่งยืนสืบต่อไป

อนึ่ง การประชุมทางวิชาการ APEC University Leaders’ Forum 2022 จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างสมาคมมหาวิทยาลัยภาคพื้นแปซิฟิก (Association of Pacific Rim University: APRU) กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนและเชื่อมโยงความสัมพันธ์กับเขตเศรษฐกิจต่างๆ โดยเฉพาะภาคธุรกิจ และการศึกษาของไทยกับภูมิภาคทั่วโลก รวมถึงเป็นการเสริมสร้างการตระหนักรู้ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อหลักของการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกของไทย “Open. Connect. Balance. เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล”