“ชนชั้นใดเขียนกฎหมาย ก็แน่ไซร้เพื่อชนชั้นนั้น” คำกล่าวนี้แว่วมาท่ามกลางฝุ่นตลบของเกมชิงแต้มว่าด้วยเรื่องการออกกฎกติกาบ้านเมืองในหลายเรื่องหลายประเด็น
ทั้งร่างแก้ไข พ.ร.บ.สรรพสามิต หรือร่างกฎหมายสุราก้าวหน้า ที่คว่ำไปในวาระ 3 พ่ายแพ้ แก่หมากเล่ห์กลเกมของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ส่งสัญญาณเบรก จนพรรคก้าวไกลหัวทิ่ม
แม้รัฐบาลจะโดนตราหน้า เบรกกฎหมายหลัก ออกกฎหมายรอง เอื้อเจ้าสัวนายทุน แต่งานนี้ก็คุ้ม
ขณะที่ร่างกฎหมายอีกฉบับ กำลังไต่คิวร้อนขึ้นตามลำดับกับร่าง พ.ร.บ.กัญชา ที่พรรคภูมิใจไทยผลักดันสุดแรง อ้างว่าเพื่อเอามาเป็นกฎกติกาคุม “กัญชาเสรี” ที่กำลังอยู่ในภาวะสุญญากาศ
ในทางตรงข้าม ขุนศึกขุนพลประชาธิปัตย์พรรคร่วมฝ่ายค้านที่เคยแท็กทีมร่วมรัฐบาลกันมา ดาหน้าออกโรงแถลงค้านแหลก ก็มีเหตุผลเช่นกัน มองว่าร่างกฎหมายที่จะออกมาคุมหลวมๆ ปล่อยใช้ประโยชน์กัญชากันเฝือ
ศึกสัประยุทธ์ 2 ค่ายพรรคร่วมรัฐบาลไม่จบง่ายๆ เดิมพันยาวที่เกมชิงปักเสาเข็มปักษ์ใต้ถิ่น ปชป.
...
แต่สำหรับร่างกฎหมายกัญชา ต้องรอดูท่าทีผู้ถือดุลคุมเกม เมื่อวันนี้พลังประชารัฐแยกปีกถือหาง ลุงพี่ใหญ่-ลุงน้องเล็ก ต่างแอบฝันแอบสร้างดาวคนละดวง
ต้องจับตา ร่างกฎหมายกัญชาเข้าสภาฯสัปดาห์หน้า ส.ส.พลังประชารัฐอาจแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ทั้งโหวตหนุนตามแนวทางของผู้นำ ที่หวังพึ่งพาอาศัยค่ายภูมิใจไทยในเส้นทางอำนาจภายภาคหน้า
หรือโหวตต้านตาม “พี่ใหญ่” ที่เอนเอียงตามสูตรรักข้ามขั้ว
ศึกกฎหมายกำลังเข้มข้น ไม่เว้นแม้แต่การออกกฎกระทรวงมหาดไทย เอื้อทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุน ได้สิทธิซื้อและครอบครองที่ดิน 1 ไร่ ภายใต้ “ป.ป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา มท.1 พี่รองที่แสนรักของ “บิ๊กตู่”
เสียงต้านกระหึ่ม ชี้นิ้วเป็นการออกกติกาเปิดทางขายชาติ-ขายแผ่นดินศึกกฎหมายที่ต้องจับตา เมื่ออดีตคนพลังประชารัฐ สายลุงพี่ใหญ่ ห้อย “หลวงพ่อป้อม” ก็ออกโรงค้าน
จ้องเขม็งรอจังหวะซ้ำ “น้องเล็ก-พี่รอง” 3 ป. ทหารเฒ่ากันอยู่
ในสถานการณ์ที่ดุลอำนาจแกว่ง แก่นแกนอำนาจสั่นไหว เครือข่ายไพร่พลย่อมกระเพื่อมกันยกแผง
เท่านั้นไม่พอ ที่ต้องจับตาคือเกมงัดกฎหมายมาเล่นชิงแต้ม ยังลามไปถึงขั้นอัดอาวุธหนักมาเล่นกันแล้ว กับการเปิดปฏิบัติการล้างทุนสีเทาจากดินแดนแผ่นดินใหญ่
ฉากหน้าก็ถือว่าเรียกแต้มได้แล้ว กับการเชือดแก๊งมังกรจีน ล้างผับ-บาร์ศูนย์เหรียญ แฝงบ่อน-ยาเสพติด-แก๊งคอลเซ็นเตอร์-ก๊วนทวงหนี้โหด
แต่ที่พ่วงอยู่ฉากลึกด้วย อย่างที่มีคนตั้งข้อสังเกต ปมวายร้ายสีเทาจากแดนแผ่นดินใหญ่เหล่านี้ เพิ่งรู้เพิ่งเห็นหรือ เพิ่งมีสัญญาณ “ล้าง” โดยเฉพาะโฟกัสบางจุดบางฉาก มีอดีตรัฐมนตรีคนดังมีเอี่ยว
เป็นอดีตรัฐมนตรีที่ท่านผู้นำแค้นฝังหุ่นหรือไม่
เกมนี้ไม่ธรรมดา ได้สองเด้ง ได้ทั้งแต้ม–ได้ทั้งชำระแค้น
ที่มากกว่านั้น โยงไปถึงเงินจากเจ้าพ่อแก๊งมังกรจีนที่บริจาคเข้าพรรคพลังประชารัฐ ที่มี “นักร้อง” ที่เต้นตามจังหวะรัฐบาลมาตลอด ไปยื่นร้อง กกต.คาไว้
นักวิเคราะห์ประเมิน เกมนี้แปร่งๆ รับลูกแบบ “เล่นเป็นทีม” หรือไม่ ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สัญญาณกวาดล้างผับกลางเมืองที่ไม่ใช่เพิ่งจะรับรู้ข้อมูล จู่ๆก็มีคนพลังประชารัฐเปิดประเด็นโยงเงินบริจาคจากเจ้าพ่อมังกรจีน ต่อด้วยเกมไล่ล่าขบวนการทุนสีเทา แถมเปิดชื่ออดีตรัฐมนตรีอาจมีเอี่ยว
ให้เข้าใจกันว่าเป็นกบฏที่ผู้นำหมายหัว
ไม่เท่านั้น โยงกรณี “นักร้อง” สายผู้นำ ยื่นสอบเงินบริจาคจากทุนเทาเข้าพรรคพลังประชารัฐ
เป็นการปักชนักคาค่าย “ลุงพี่ใหญ่” ชัดเจน
แน่นอนเกมนี้คนในพลังประชารัฐย่อมหวั่นไหว เร่งเร้าการตัดสินใจตามสัญญาณ “อพยพ”
ย้ายค่ายตาม หากผู้นำตัดสินใจชิ่งไป “รวมไทยสร้างชาติ”
ในสถานการณ์ที่แว่วว่า “แผนอำนาจ” ของพี่ๆน้องๆยังไม่ลงตัว ยังไม่คุย ยังไม่เคลียร์ สูตร 4 ย. ยักษ์ “อยู่–ยึด–แยก–ยืม” ยังอยู่ ที่เพิ่มเติมคือ “ย.ยุบ” ที่ไม่ใช่ “ยุบสภา”
แต่คือที่นักร้องสายผู้นำยื่นร้อง “ยุบพรรค”
ขู่ลูกข่าย บีบพี่ใหญ่ ตามยุทธวิธีของสุดยอดกลเกม
แบบฉบับนักการทหารเก่าอย่าง “ป.น้องเล็ก”.
ทีมข่าวการเมือง