“ประยุทธ์” โบ้ยไม่ทราบยุบสภาก่อน 24 ธ.ค. งดโต้ครหาขายชาติ เปิดประตูต่างชาติถือครองที่ดิน นั่งหัวโต๊ะตามงานจัดประชุมเอเปก ยิ้มออก 22 ผู้นำตอบรับร่วมวง ปลื้ม “สี จิ้นผิง” แขกพิเศษเยือนทำเนียบฯ “วิษณุ” ยัน “บิ๊กตู่” เป็นนายกฯต่อได้แค่ 2 ปี รับอาจมีคนร้องให้ยื้อเวลาอยู่ต่อ อ้างเหตุไม่นับช่วงรักษาการ “สมคิด” ชี้สิ้นปีป่วน ส.ส.แห่ไขก๊อกย้ายค่าย สภาล่มจนต้องยุบสภา หลายฝ่ายรุมค้านมติ ครม.ขายที่ดินต่างด้าวแลกเงินลงทุน 40 ล้านบาท “ส.ส.เต้” ยื่นผู้ตรวจการฯส่งศาล รธน.ตีความขัด รธน.มาตรา 1 กลุ่มหลอมรวมฯจี้ทำประชามติก่อน “จตุพร” ฉะรัฐบาลขายชาติ ขายแผ่นดิน เฉ่งทหารเสือต้องปกป้องประเทศ ไม่ใช่นายทุน ทสท.หวดได้ไม่คุ้มเสีย แนะคุมเข้มงัดภาษีดึงเงิน “พิธา” ขอแรงเพื่อน ส.ส.โหวตผ่าน ก.ม.สุราก้าวหน้า วัดใจ พท. ต่อยอดวิสัยทัศน์ “ทักษิณ”
จากกรณี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คาดว่าจะมีการยุบสภาฯก่อนวันที่ 24 ธ.ค. เพื่อให้ทันกำหนด 90 วันก่อนสภาฯครบวาระ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ตอบเลี่ยงเพียงว่าไม่ทราบ
...
นายกฯยิ้ม 22 ผู้นำตอบรับมาเอเปก
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 31 ต.ค. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการ ประชุมคณะกรรมการระดับชาติ เตรียมการจัดการ ประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกและการประชุมที่เกี่ยวข้อง ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปก พ.ศ. 2565 ครั้งที่ 3/2565 โดยมีคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผบ.เหล่าทัพ ผบ.ตร.ผู้ว่าฯ กทม.ปลัดกระทรวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม จากนั้นเวลา 12.50 น. ภายหลังประชุม นายกฯเผยว่า เป็นการประชุมครั้งสุดท้ายทุกมิติ ขั้นตอนต่อไปเป็นเรื่องการเตรียมการปฏิบัต ซักซ้อม อาจกระทบกับประชาชนบ้าง อาจปิดการจราจรเป็นช่วงๆ บางเส้นทางช่วงที่มีการเคลื่อนที่ของคณะผู้มาประชุม เป็นที่น่ายินดีที่ผู้นำเศรษฐกิจพิเศษทั้งหมดตอบรับมาแล้ว มาเอง 18 ประเทศ ส่งผู้แทนมา 4 ประเทศ รวม 22 ประเทศ รอการยืนยันอีก 1 ประเทศ ยังมีแขกรับเชิญอีก 3 ประเทศที่เชิญไปได้ตอบรับมาหมดแล้ว
เผย “สี จิ้นผิง” มาเยือนถึงทำเนียบฯ
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า นอกจากประเทศเขตเศรษฐกิจแล้ว ยังได้เชิญนายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในฐานะประธานอาเซียน นายเอมมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ซาอุดีอาระเบีย องค์รัชทายาท และเป็นเรื่องค้างกันมาตั้งแต่เดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ได้ไปเยือน ทั้ง 2 ประเทศเตรียมการไว้แล้ว เมื่อถามว่าแขกที่ได้รับเชิญเป็นทางการที่จะมาเยือนที่ทำเนียบรัฐบาลมีประเทศใดบ้าง นายดอนกล่าวว่า ประมาณ 6-7 ประเทศ รวมถึงนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยจีนถือเป็นการเยือนพิเศษ มีการพูดคุยกันมานานแล้ว ขณะนี้มีประเทศที่จะขอหารือทวิภาคีร่วมกับไทยจำนวนมาก จนยังไม่สามารถจัดลำดับได้ บางประเทศขอเวลาหารือเพิ่มมากขึ้น
ไม่ตอบขายชาติ-ไม่ทราบยุบสภา
ต่อมาเวลา 12.50 น. พล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการระดับชาติเพื่อเตรียมการจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกและการประชุมที่เกี่ยวข้อง ในช่วงที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปก พ.ศ. 2565 ครั้งที่ 3/2565 แต่ไม่ได้ตอบประเด็นการเมือง เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงมหาดไทย ให้ต่างชาติสามารถซื้อบ้านและถือครองที่ดินไม่เกิน 1 ไร่ แลกการลงทุนในไทยขั้นต่ำ 40 ล้านบาท รวมทั้ง ถามถึงกรณี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุการยุบสภาฯจะเกิดขึ้นก่อนวันที่ 24 ธ.ค.โดย พล.อ.ประยุทธ์ เดินกลับขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าทันที
ต่อมาเวลา 15.25 น.ที่ตึกภักดีบดินทร์ หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว ครั้งที่ 2/2565 ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวการยุบสภาที่ออกมาช่วงการประชุมเอเปก นายกฯตอบสั้นๆเพียงว่า “ไม่ทราบครับ ไม่ทราบ”
“บิ๊กป้อม” โยนสื่อไปถามนายกฯเอง
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวกรณี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่าอาจยุบสภาก่อนวันที่ 24 ธ.ค. เป็นกำหนด 90 วันก่อนสภาฯครบวาระ เป็นไปได้แค่ไหนว่า ให้ไปถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม เมื่อถามว่าได้คุยกับนายกฯ บ้างหรือยัง พล.อ.ประวิตรปฏิเสธตอบคำถามดังกล่าว ก่อนที่จะขึ้นรถกลับทันที
“อนุทิน” พร้อม ลต.ตลอดเวลา
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกระแสข่าวการยุบสภาฯ วันที่ 24 ธ.ค.ว่า ไม่ทราบ ก่อนชี้ไปยังตึกไทยคู่ฟ้าระบุว่า เป็นอำนาจนายกฯตัดสินใจ ได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว ไม่ว่าอย่างไรต้องให้ผ่านการจัดการประชุมเอเปกไปก่อน สัปดาห์นี้คงจะยุ่งการเตรียมจัดประชุมเอเปก เราจะไปคาดการณ์หรือก้าวล่วงอะไรไม่ได้ เป็นช่วงโค้งสุดท้ายของวาระสภาฯชุดนี้อยู่แล้ว จึงต้องมีการเตรียมความพร้อมอยู่ตลอด ส่วนสูตรจับมือจัดตั้งรัฐบาล เย็นวันเลือกตั้งค่อยมาถาม ส่วน ส.ส.กลุ่มปากน้ำหลังมีภาพนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม แกนนำกลุ่มปากน้ำก้าวหน้าได้ทานอาหารร่วมกัน เป็นเรื่องเกี่ยวดองทางครอบครัว รู้อยู่แล้วว่าตนเป็นดองกันอย่างไรกับนายชนม์สวัสดิ์ เมื่อถามว่าจะเกี่ยวดองกันทาง การเมืองหรือไม่ นายอนุทินกล่าวติดตลกว่า “ลูกอยู่ แต่พ่อไม่อยู่ ลูกแต่งงานเมื่อไหร่ก็เข้าบ้าน ก็เป็นลูกผมไง”
“วิษณุ” คอนเฟิร์ม “ตู่” ไปต่อได้แค่ 2 ปี
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงผลการวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม จะเป็นนายกฯได้แค่อีก 2 ปีถึงปี 2568 โดยนายวิษณุย้อนถามสื่อว่า “แล้วทำไมจะไม่ยุติ” เมื่อถามว่ามีนักกฎหมายระบุว่า เมื่อถึงเวลานั้น อาจตีความได้เกิน 2 ปี นายวิษณุกล่าวว่า ไม่มีอะไรจะตีความแล้ว ในเมื่อศาลบอกว่าเริ่มต้นเมื่อมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ เหตุที่เริ่มวันนั้นอธิบายชัดเจน ศาลไม่ได้บอกว่าจะไปหมดเมื่อไหร่ แต่ศาลบอกว่าเริ่มเมื่อใด และเมื่อระบุจุดเริ่มต้นจะเข้ามาตรา 158 วรรค 4 ที่ระบุว่านายกฯจะดำรงตำแหน่งรวมกันแล้วเกินแปดปีมิได้ ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นการดำรงตำแหน่งติดต่อกันหรือไม่ แต่มิให้นับรวมระยะเวลาในระหว่างที่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปหลังพ้นจากตำแหน่ง ถือว่าเป็นข้อยุติโดยสิ้นเชิง ไม่ต้องร้องแล้ว แต่ก็อาจจะมีการร้องกันอีก เพราะว่าในมาตรา 158 เขาบอกว่า 8 ปี ไม่ได้นับเวลารักษาการ สมมติว่ามีการรักษาการ 5 เดือน 8 เดือน 10 เดือน แต่บางคนอาจบอกว่าต้องออกเลยหากครบ 8 ปี จากที่ศาลบอกให้เริ่มนับ ขณะที่อีกฝ่ายบอกไม่ออกยังไงก็ต้องอยู่ เมื่อถามว่านักกฎหมายบางคนยังอ้างมาตรา 159 ที่ระบุถึงกระบวนการได้มาของนายกฯตามรัฐธรรมนูญ 60 อาจทำให้ตีความให้อยู่ต่อไปอีกได้ นายวิษณุกล่าวว่า ใช่ แต่เป็นประเด็นเล็กๆไม่ใช่เรื่องใหญ่ พอแล้วไม่ต้องอยู่ได้แล้ว
พท.ชี้สิ้นปีป่วน ส.ส.แห่ย้ายจนยุบสภา
นายสมคิด เชื้อคง รองประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า การอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ถึงความบกพร่องของรัฐบาลที่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ทั้งปัญหายาเสพติด อาชญากรรม รวมทั้งการเยียวยาพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม พรรคร่วมฝ่ายค้านจะหารือกันว่าจะอภิปรายเรื่องใดบ้าง ส่วนที่บอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม เข้ามากู้ชาติมากู้ชาติหรือมากู้เงิน พล.อ.ประยุทธ์ คนเดียวกู้เงินมหาศาล ขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองคาดว่าช่วงสิ้นปี 2565 บรรยากาศทางการเมืองของรัฐบาลและสภาฯจะวุ่นวายมาก ช่วงนั้นจะมี ส.ส.หลายคนทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านจะลาออกย้ายพรรคให้อยู่ในช่วง 90 วันตามรัฐธรรมนูญ จะเป็นต้นเหตุองค์ประชุมสภาฯ อาจล่มได้ทุกสัปดาห์ จะเป็นสาเหตุสำคัญที่ พล.อ.ประยุทธ์จะยุบสภา ลากไปไม่ไหวแล้ว รวมทั้งพรรคใหม่ของ พล.อ.ประยุทธ์ที่ให้คนใกล้ชิดไปดำเนินการ พร้อมเลือกตั้งแล้ว เป็นไปได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์จะยุบสภาช่วงปลายเดือน ม.ค.66 และการเลือกตั้งใหม่จะอยู่ช่วงปลายเดือน เม.ย.66 ก่อนเทศกาลสงกรานต์ ถึงเวลานั้นประชาชนจะเป็นคนตัดสิน ทุกพรรคต้องยอมรับผลการเลือกตั้งของประชาชน
กกต.ตอบ “ก้าวไกล” ยึดกฎเหล็ก 180 วัน
เมื่อเวลา 14.40 น. สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่เอกสารข่าวประชาสัมพันธ์ เรื่องสำนักงาน กกต.ได้ทำหนังสือตอบข้อสอบถามกรณีพรรคก้าวไกล ขอสอบถามการปฏิบัติของพรรค การเมืองให้ถูกต้องตามข้อกฎหมายการเลือกตั้งและ พรรคการเมืองหรือข้อกำหนดระเบียบ หรือประกาศ กกต.หลายประเด็น เช่น ภายใต้ระยะเวลา 180 วันก่อนวันครบอายุสภาฯจนถึงวันประกาศ พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.พรรคการเมือง สมาชิกพรรค การเมืองที่ไม่ได้ดำรงตำแหน่ง ส.ส. สมาชิกพรรคที่ดำรงตำแหน่ง ส.ส. ทำการให้ เมื่อมีเหตุอันสมควรแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติตลอดจนภัยอื่นๆอันมีมาเป็นสาธารณะ ไม่ว่าเกิดจากธรรมชาติ หรือมีบุคคลหรือสัตว์ทำให้เกิดขึ้น ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายแก่ชีวิต ร่างกายของประชาชน หรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของประชาชนหรือของรัฐได้ใช่หรือไม่ พรรคการเมือง สมาชิกพรรคการเมือง ที่ไม่ได้ดำรงตำแหน่ง ส.ส. สมาชิกพรรคการเมืองที่ดำรงตำแหน่ง ส.ส. กรณีที่ได้ทำการให้ เมื่อมีเหตุอันสมควรไปแล้ว จะถือเป็นค่าใช้จ่ายที่นำมาคำนวณ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 64 ของผู้สมัครหรือของพรรคการเมืองใช่หรือไม่
ห้าม ส.ส.พรรค-สมาชิกช่วย ปชช.
สำนักงาน กกต.ชี้แจงด้วยว่า จากประเด็นข้อสอบถามของพรรคก้าวไกล พิจารณาแล้วมีความเห็นว่ากรณีดังกล่าวข้างต้น ไม่สามารถกระทำได้ เนื่องจากอยู่ในห้วงระยะเวลา 180 วัน ก่อนวันครบอายุสภาฯจนถึงวันประกาศ พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรา 64 และมาตรา 68 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ประกอบระเบียบ กกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2561 และแก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2565 และระเบียบ กกต.ว่าด้วยจำนวน หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขของการให้ตามประเพณี หรือเมื่อมีเหตุอันสมควร และการยื่นคัดค้านเกี่ยวกับการบันทึกค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งต่อไป
“เต้” ยื่นส่งตีความมติ ครม.ขัด รธน.
เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมคณะเข้ายื่นต่อประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายวทัญญู ทิพยมณฑา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อให้พิจารณาส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญยกเลิกมติ ครม.วันที่ 25 ต.ค.65 เรื่องการขายที่ดินให้ต่างชาติแลกการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลหรืออื่นๆ ไม่น้อยกว่า 40 ล้านบาท นายมงคลกิตติ์ระบุว่า ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 1 ที่กำหนดว่า ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งเดียวจะแบ่งแยกมิได้ มติ ครม.ดังกล่าวเป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ จึงมาร้องเพื่อยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
ค้านต่างชาติซื้อที่จี้ทำประชามติ
เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล คณะหลอมรวมประชาชน นำโดยนายนิติธร ล้ำเหลือ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ยื่นหนังสือถึงนายกฯ คัดค้านกฎกระทรวงเปิดโอกาสให้ต่างชาติซื้อที่ดินในประเทศได้ โดยนายนิติธรอ่านแถลงการณ์ว่า การให้ต่างชาติถือครองกรรมสิทธิ์ในที่ดินได้ แม้เคยมีมาแล้วในอดีต แต่ประชาชนมีรวมตัวกันคัดค้านอย่างกว้างขวาง และกาลเวลาพิสูจน์แล้วว่ามาตรการดังกล่าว ไม่ได้เป็นแรงจูงใจให้เกิดผลกระตุ้นทางเศรษฐกิจอย่างแท้จริง และรัฐธรรมนูญหมวดที่ 5 และหมวดที่ 6 แนวนโยบายแห่งรัฐ ไม่มีบทบัญญัติใดที่เขียนไว้ชัดให้ดำเนินการเช่นนั้น มติ ครม.ดังกล่าวอาจมีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจการเมืองสังคมอย่างกว้างขวาง จึงมีเหตุอันสมควรจัดให้มีการออกเสียงประชามติว่าประชาชนเห็นด้วยหรือไม่ และมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวถือเป็นอำนาจรัฐที่เป็นภัยคุกคามซ่อนรูปต่อความมั่นคง จึงขอให้ยกเลิกมติ ครม. ดังกล่าวพร้อมยกเลิกกฎหมายกฎกระทรวงระเบียบประกาศต่างๆที่มีลักษณะหรือก่อให้เกิดผลเช่นเดียวกันทันที
ทหารเสือต้องป้อง ปท.ไม่ใช่นายทุน
ด้านนายจตุพรกล่าวว่า นายกฯรอดเงื้อมมือกฎหมายมาทุกเรื่อง กระทั่งอายุสภาฯอยู่ช่วงสุดท้ายที่ไม่สามารถอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ จึงออกมาตรการให้ต่างชาติเข้ามาถือครองที่ดิน อ้างว่าการขายแผ่นดินให้ต่างชาติเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำไมไม่กระตุ้นมาตั้งแต่ปีแรก การออกมติ ครม.นี้ เพราะเพื่อเร่ขายแผ่นดินในตลาดเอเปกใช่หรือไม่ วันนี้ต่างชาติเข้ามาครองแผ่นดินไทยโดยใช้นอมินีกันเต็มไปหมด 3ป.ต้องไม่ลืมว่าเป็นอดีต ผบ.ทบ.มาก่อน และเป็นทหารเสือมีหน้าที่ปกป้องแผ่นดิน การออกมาตอบโต้ว่าถูกต้องตามกฎหมายไม่ควรพูด ทหารเสือต้องปกป้องประเทศชาติและแผ่นดิน แต่ถ้าเป็นทหารช้างต้องเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุน เราจึงอยากบอกให้ พล.อ.ประยุทธ์ว่าถ้าแน่จริง คิดว่าชนะทุกเรื่องอย่ายกเลิกมติ ครม. จะขอท้าทายไปยังประชาชนว่าจะปล่อยให้รัฐบาลชุดนี้ขายชาติขายแผ่นดินหรือไม่ วันที่ 2 พ.ย.จะนำเรื่องนี้ไปยื่นที่กองบัญชาการกองทัพไทยว่ารู้สึกต่อเรื่องนี้อย่างไร วันที่ 4 พ.ย.ไปยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบต่อไป อย่าเอานักกฎหมายมาชี้แจงเพราะไม่ใช่เรื่องถูกผิดทางกฎหมาย แต่เป็นเรื่องสามัญสำนึกรักแผ่นดิน เพราะใครก็เขียนกฎหมายได้
ทสท.ซัดได้ไม่คุ้มเสียขายที่ต่างชาติ
วันเดียวกัน ที่พรรคไทยสร้างไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย แถลงข่าวเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนมติ ครม. กรณีแก้ไขกฎกระทรวงว่าด้วยการถือครองที่ดินไม่เกิน 1 ไร่ของชาวต่างชาติ โดยคุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า มติดังกล่าวจะส่งผลเสียต่อประเทศชาติในระยะยาวมากกว่าได้ประโยชน์เพียงน้อยนิดระยะสั้น เพราะเงินที่มาลงทุนแค่ 40 ล้านบาท เป็นจำนวนที่น้อยมาก ไม่ได้สร้าง impact ในเชิงเศรษฐกิจมากมาย และต้องวางเงื่อนไขคุมการใช้ที่ดินอย่างเข้มงวด เพื่อการอยู่อาศัยเท่านั้น ห้ามเอาไปทำการค้าหรือปล่อยเช่าต่อเด็ดขาด รัฐควรนำมาตรการทางภาษีมาใช้ เหมือนอย่างที่หลายประเทศใช้อยู่ คิดค่า ธรรมเนียมการโอนและเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของชาวต่างชาติในอัตราที่มากกว่าคนไทย เพื่อดึงเงินเข้ารัฐโดยตรงอีกทางหนึ่ง
“พิธา” ลับดาบถล่มหมัดฮุกส่งท้าย
ที่อาคารอนาคตใหม่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีนิด้าโพลชี้คน กทม.สนับสนุนให้เป็นนายกฯ อันดับ 1 ว่า ขอขอบคุณประชาชนชาว กทม.จะพยายามเป็นแคนดิเคตนายกฯที่มุ่งมั่น ขยันมากที่สุด ซื้อใจประชาชนทั่วประเทศ เราต้องทำงานหนักต่อไป อ่านข่าวเห็นจีดีพีโตอยู่แค่ 3 เปอร์เซ็นต์ เป็นอันดับ 6 ของอาเซียน คนจนมากขึ้นจาก 14 ล้านคน เป็น 21 ล้านคน ทั้งที่บริหาร 8 ปีใช้งบฯกว่า 25 ล้านล้านบาท แจกให้ครอบครัวละ 1 ล้านได้เลย ส่วนการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 เป็นหมัดฮุกสุดท้ายก่อนยุบสภาฯและเลือกตั้ง คาดว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นญัตติกลางเดือน พ.ย.ต้องมีเรื่องการทุจริตการบริหารผิดพลาด โดยมีผู้ส่งข้อมูลให้ทั้งทางจดหมาย โซเชียลมีเดีย จะให้ไปตรวจสอบในพื้นที่
ขอเเรงคน พท.ต่อยอดวิชัน “ทักษิณ”
จากนั้นนายพิธาแถลงขอแรง ส.ส.สนับสนุนร่างแก้ไข พ.ร.บ.สรรพสามิตหรือกฎหมายสุราก้าวหน้า ที่จะพิจารณาวาระสุดท้ายในสภาฯ วันที่ 2 พ.ย. โดยนายพิธากล่าวว่า กระแสข่าวนายกฯอ้างข้อกังวลเหล้าเถื่อนและสุขลักษณะ ขอให้พรรคร่วมรัฐบาลร่วมออกเสียงคว่ำกฎหมาย สิ่งที่เถื่อนไม่ใช่เหล้า แต่คือกฎหมาย การใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่รังแกผู้ประกอบการการที่นายทุน ขุนศึก ศักดินารวมหัวกัน เพื่อทำให้ผูกขาดอุตสาหกรรมสุรา กดทับตลาดของคนธรรมดาทั่วไป ขอส่งสารถึง ส.ส.ต่างพรรค นี่คือโอกาสทำผลงาน เพิ่มการส่งออกสินค้าสุราไทย เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร การมีผู้ประกอบการสุราระดับโลกอยู่ทั่วทุกประเทศ สอดรับนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองและการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ทำให้เกิดเม็ดเงินภาษีมาช่วยเหลืองบฯด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะพรรค พท.จำได้ดีว่าเดือน ก.ย.45 รัฐบาลพรรคไทยรักไทยของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เคยจัดมหกรรมสุราไทยและโอทอป จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของกระแสธาร ที่ส่งต่อกระบวนการปลดล็อกสุราไทยให้เดินทางมาถึงจุดนี้ได้ น่าชื่นชม หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนจะเดินหน้าสานต่อวิสัยทัศน์นี้ของอดีตนายกฯทักษิณต่อไปให้เกิดผลสำเร็จ ในการโหวตวันที่ 2 พ.ย.
ขู่ผู้มีอำนาจทำสงครามกับคน 99%
นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ผู้มีอำนาจพยายามแทรกแซงให้ล้มกฎหมายฉบับนี้ จะนำไปสู่การขีดเส้นความขัดแย้งใหม่ในสังคม ประกาศสงครามระหว่างคน 99% กับคน 1% ได้ยินมามีความพยายามในกรมสรรพสามิตจะออกร่างกฎกระทรวงมา เพื่อให้ ส.ส.หลายคนใช้เป็นเหตุผลอ้างเพื่อไม่ยกมือผ่านให้ สุดท้ายการออกกฎกระทรวงเป็นแค่การตบตา เตะถ่วงยื้อ เต็มไปด้วยเรื่องที่ไม่มีเหตุผล เช่น บังคับให้ทำ EIA หลักล้านถึงสิบล้านบาท ขอให้ประชาชนร่วมกันกดดัน ส.ส. ให้โหวตเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อคน 1% ของประเทศนี้
ส.ว.พลิกให้คิดดอกเบี้ย-ค่าปรับ กยศ.
นายสมชาย หาญหิรัญ ส.ว. ในฐานะประธานกรรมาธิการเศรษฐกิจ การเงิน และการคลัง วุฒิสภา กล่าวถึงการพิจารณาศึกษาร่าง พ.ร.บ.กองทุนเงินกู้ยืม เพื่อการศึกษา ที่สภาผู้แทนราษฎรส่งให้วุฒิสภาพิจารณา โดยมีเนื้อหาไม่ให้คิดดอกเบี้ยและเบี้ยปรับแก่ผู้กู้ยืม เงินกองทุน ว่า ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวจะส่งให้ที่ประชุมวุฒิสภาพิจารณาวาระแรกในวันที่ 1 พ.ย. จากการศึกษา ของ กมธ.พบว่า ร่างกฎหมายที่สภาเห็นชอบมีข้อดี จำนวนมาก แต่การที่ไม่ให้คิดดอกเบี้ยและค่าปรับ แก่ผู้กู้ยืมเงินนั้น กมธ.เป็นห่วงจะเกิดอันตรายทาง ศีลธรรม ไม่มีวินัย สร้างภาระทางงบประมาณให้รัฐบาล ผลการศึกษาของ กมธ.จึงเสนอแนวทางให้คงดอกเบี้ยและค่าปรับไว้ในอัตราต่ำ
“สมคิด” นำทัพ สอท.ลุยอุบล 5 พ.ย.
นายนริศ เชยกลิ่น รองหัวหน้าและโฆษกพรรค สร้างอนาคตไทย เปิดเผยว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรค เตรียมนำคณะผู้บริหารพรรคเดินสายภาคอีสาน โดยวันที่ 5 พ.ย. เปิดเวทีแรกที่ จ.อุบลราชธานี ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี สำหรับไฮไลต์ เด่นๆ นอกจากการปราศรัยของคณะผู้บริหารพรรค ทั้งนายสมคิด นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค และนายสุพล ฟองงาม รองหัวหน้าพรรค ในฐานะประธานภาคอีสานแล้ว จะมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อีสานด้วย ทั้งนี้ พรรคจะจัดการแถลงข่าวเกี่ยวกับนโยบาย ทิศทางการทำงาน และความเคลื่อนไหวของ พรรค ตลอดจนความเห็นและประเด็นทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ณ ที่ทำการพรรค หรือนอกสถานที่ ตามความเหมาะสม ในทุกวันเสาร์ เริ่มตั้งแต่เดือน พ.ย.เป็นต้นไป
ป.ป.ช.ฟัน “ผกก.โจ้” รวยผิดปกติพันล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า ในการ ประชุม ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 27 ต.ค.65 คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ หรือผู้กำกับโจ้ กรณีมีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติจำนวน 1,200 ล้านบาท มีทรัพย์สินที่ถูกอายัดไว้หลายรายการ หลังจากนี้ ป.ป.ช.จะส่งรายงานสำนวนการไต่สวน เอกสาร พยาน หลักฐาน และความเห็นสำนวนให้อัยการสูงสุดเพื่อส่ง ฟ้องต่อศาล เพื่อขอให้ยึดทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของ แผ่นดิน นอกจากนี้ จะส่งรายงานสำนวนไปให้ผู้บังคับ บัญชาและต้นสังกัดพิจารณาลงโทษทางวินัย มีโทษสูงสุดคือ ไล่ออกราชการ ฐานทุจริตประพฤติมิชอบ
ชี้มูล “ชนม์สวัสดิ์” ทุจริตเงินหนุนวัด
ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า ในการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.วันที่ 31 ต.ค. ที่ประชุมมีมติชี้มูลความผิดนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม อดีตนายกองค์การบริหารจังหวัด (อบจ.) สมุทรปราการกับพวก ประมาณ 5-7 คน กรณีทุจริตการจัดสรรเงินอุดหนุนแก่วัดใน จ.สมุทรปราการ โดยมิชอบ ช่วงปี 2554-2556 จำนวนกว่า 20 โครงการ ในการบูรณะบำรุงวัดและเตาเผาศพ มูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท โดยชี้มูลความผิดนายชนม์สวัสดิ์ในคดีอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 กรณีเป็นเจ้าหน้าที่มีหน้าที่จัดทำ จัดซื้อและใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ มีโทษจำคุก 5-20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับ 1-4 แสนบาท และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 กรณีการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ รวมถึงยังชี้มูลความผิดทางวินัยแก่นายชนมสวัสดิ์อีกทางด้วย
รำลึก “ลุงนวมทอง”-รำคาญ “ลุงตู่”
วันเดียวกัน เวลา 13.00 น. ที่ใต้สะพานลอยหน้าไทยรัฐกรุ๊ป ถนนวิภาวดีรังสิต สถานที่ตั้งสดมภ์อนุสรณ์ (เสาที่เป็นเหมือนที่ระลึก) ของนายนวมทอง ไพรวัลย์ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นัดหมายจัดกิจกรรมรำลึกครบรอบ 16 ปี การเสียชีวิตของนายนวมทอง ที่สร้างวีรกรรมขับแท็กซี่พุ่งชนรถถังประท้วงการทำรัฐประหารของ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เมื่อปี 2549 ก่อนจะมาแขวนคอตัวเองจบชีวิตใต้สะพานลอยหน้าไทยรัฐ บรรยากาศคึกคัก เต็มไปด้วยแกนนำและมวลชนคนเสื้อแดง
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวสดุดีนายนวมทองตอนหนึ่งว่า หลังการ เสียชีวิตของลุงนวมทอง ปรากฏคนแสดงตัวเป็นลุงอีกหลายคน เช่น ลุงกำนัน ปัจจุบันมีลุงตู่ ลุงป้อมสำหรับประชาชนฝ่ายประชาธิปไตยลุงคนที่จะอยู่ในหัวใจตลอดไปต้องเป็นลุงที่เสียสละชีวิตเมื่อ 16 ปี ที่แล้วเท่านั้น ขณะที่ลุงบางคนอยู่มา 8 ปี มีแต่คนบอกว่าให้ออกไป ภารกิจที่สำคัญของเรายังมีการทวงถามความยุติธรรมให้ผู้บาดเจ็บล้มตายในการชุมนุมของคนเสื้อแดงเมื่อปี 53 ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะประชาชน หรือนักการเมือง