ปลายฝนต้นหนาว แต่น้ำยังท่วมนองเต็มพื้นที่ ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง กรุงเทพฯยังต้องเผชิญกับสถานการณ์อุทกภัยส่อเค้าจะลากยาวไปอีกนานนับเดือน น้ำในเขื่อนเต็มความจุ ในจังหวะต้องลุ้นฝนฟ้าตกลงมาเพิ่มอีกหรือไม่
นับแต่นี้ประเทศไทยต้องเผชิญกับสภาวะอากาศโลกแปรปรวนทุกปีแน่
และเฉพาะปีนี้ กับตัวเลขความเสียหายที่ประเมินกันออกมา ผลจากน้ำท่วมหนักทั้งในเขตเมืองทำให้ธุรกิจเสียหาย และนอกเมือง เรือกสวนไร่นาย่อยยับ
นับแล้วกว่า 2 หมื่นล้านบาทที่ต้องสูญเสียไปเปล่าๆ
มันก็น่าสนใจกับการเตรียมแผนรับมือวิกฤติล่วงหน้า ที่ผ่านมารัฐบาลทุ่มงบประมาณมหาศาลกับโครงการบริหารจัดการน้ำ จริงๆแล้วมันได้ผลมากน้อยแค่ไหน
ทำไมถึงฤดูน้ำหลากแต่ละที ต้องวิ่งไล่กู้สถานการณ์กันหูตาเหลือก
ประเทศชาติและประชาชนต้องเสียหายซ้ำซ้อน ทั้งงบประมาณแผ่นดิน ทั้งทรัพย์สินส่วนตัว มันคุ้มค่ากันหรือไม่กับแผนบริหารจัดการน้ำที่ดำเนินการมา
นั่นไม่สำคัญเท่ากับว่า เงินมันรั่วไหลไปกับน้ำเท่าไหร่
โดยเฉพาะกับมาตรฐานการใช้งบประมาณของรัฐบาลที่เพิ่งมีเรื่องแดงโร่ ฉาวโฉ่ ประจานกันกลางวงที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสดๆร้อนๆ
ไอ้โม่งอมเงินช่วยเหลือเกษตรกรยากจน
และคนที่เปิดปากแฉก็ไม่ใช่ใครที่ไหน “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ที่โชว์บทดุ ไล่จับโจรใน ครม.
...
กรณีที่ได้ยินมากับหูตัวเอง ตอนลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เกษตรกรชาวไร่ยาสูบได้ร้องเรียนว่า ไม่ได้รับเงินเยียวยา ในวงเงินงบประมาณ 50 ล้านบาท
ทั้งที่ได้มีการตรวจสอบไปยังสำนักงบประมาณแล้ว พบว่า มีการอนุมัติงบฯดังกล่าวไปแล้ว แต่เงินกลับไปไม่ถึงมือเกษตรกรที่เดือดร้อน
พร้อมกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้สั่งการให้ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ไล่เบี้ยตรวจสอบว่า เงินหายไปไหน
เป็นเหตุการณ์ไม่ธรรมดาแน่ นายกฯสั่งไล่ล่าคนอมเงินกลางวง ครม.
และก็ทันทีทันควัน นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นเรื่องถึง พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
ขอให้สอบสวนเจ้าหน้าที่ของรัฐมีการกระทำที่ส่อทุจริต
พุ่งเป้าไปที่การเบิกจ่ายเงินเยียวยาเกษตรกรไร่ยาสูบจังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 50 ล้านบาท ภายใต้การกำกับดูแลของนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เหตุใดเกษตรกรจึงยังไม่ได้รับเงิน และต้องร้องเรียนกับนายกรัฐมนตรีโดยตรง
งานเข้า “สันติ” ในฐานะเลขาธิการค่ายพลังประชารัฐเต็มๆ
ในอารมณ์หน้าบอกบุญไม่รับ ตามข่าว สื่อมวลชนจี้ถามปมอมเงินเยียวยาชาวไร่ยาสูบ “บิ๊กป้อม” ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไม่ยอมตอบแต่อย่างใด
ตามฟอร์มที่เดาทางได้ หัวหน้าพรรคย่อมไม่สบายใจที่เลขาฯพรรคโดนบอมบ์
และงานนี้ไม่ยอมจบง่ายๆแน่ เพราะผู้นำไล่เบี้ยเอง
แน่นอน โดยปรากฏการณ์ที่ พล.อ.ประยุทธ์เอาจริงเอาจังกับขบวนการอมเงินหลวงครั้งนี้ ถือเป็นสัญญาณดี อย่างน้อยก็ทำให้ประชาชนอุ่นใจได้ระดับหนึ่ง
ช่วงไอ้เสือถอย รัฐมนตรีจ้องทิ้งทวนจะได้ไม่เหิมเกริมมาก
จากอาการกระตือรือร้นของค่ายประชาธิปัตย์ที่เร่งรัดให้ผู้นำปรับ ครม.แทนโควตาของตัวเองที่โหว่ไป และนั่นก็น่าจะเป็นจุดให้พรรคร่วมรัฐบาลร่วมด้วยช่วยแห่เกมเก้าอี้ดนตรี
ตามไฟต์บังคับการเมืองแบบไทยๆก่อนหมดเทอมรัฐบาล ต้องมีรายการตุนเสบียง ทั้งเก็บอมเป็นส่วนตัว และเข้ากองทุนรวมเตรียมอัดกล้วยในศึกเลือกตั้ง
เอกซเรย์ไปมีรอยรั่วงบประมาณแผ่นดินแทบทุกจุด
พล.อ.ประยุทธ์ แสดงให้เห็นถึงมาตรฐาน ควบคุมเสือหิว เสือโหย ยังพอไว้ใจได้ไม่มากก็น้อย
นั่นว่ากันไปในเชิงของการบริหารราชการ
แต่ในมุมของเกมการเมืองมันก็มีเหลี่ยมคมแฝงให้เห็นอยู่ ในกระบวนการผู้นำไล่จับโจรกลาง ครม.ต่อเนื่องกับที่นายวัชระ เพชรทอง รีบยื่น ป.ป.ช.ให้สอบนายสันติ ในฐานะกำกับดูแลโดยตรง
ส่งผลสะเทือนอย่างหนักต่อสถานะเลขาธิการค่ายพลังประชารัฐ
กระแทกชิ่งแรงๆไปถึง พล.อ.ประวิตร ในสถานะหัวหน้าพรรค พปชร.
และก็อย่างที่เห็น สายสัมพันธ์ระหว่าง “บิ๊กป้อม” กับ “สันติ” ในระยะหลัง เป็นไปอย่างแนบแน่น โดยเฉพาะช่วงที่ “บิ๊กตู่” โดนศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่เดือนกว่า
“สันติ” คือเงาข้างตัว พล.อ.ประวิตร ในฐานะรักษาราชการแทนนายกฯ
ได้ใจบันดาลแรง แข่งเดินสายลงพื้นที่หาเสียงกันคึกคัก
ชัดเจนสุดก็คือฉากอลังการงานสร้างที่ “บิ๊กป้อม” นำหางเครื่องชุดใหญ่ไปเป็นประธานพิธีอุ้มพระดำน้ำที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ท่ามกลางการต้อนรับแบบจัดเต็มของนายสันติในฐานะเจ้าของพื้นที่
ขึ้นป้ายเชียร์ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกฯกันเอิกเกริก
ทุ่ม “แทงหวยเต็ง” บิ๊กบราเธอร์แบบไม่กั๊กกันเลยแต่ในทันทีศาลรัฐธรรมนูญตัดสินกรณีนายกฯ 8 ปี ไฟเขียวให้ “บิ๊กตู่” ไปต่อ มันก็เหมือนเกมพลิก
เพชรบูรณ์คือจังหวัดแรกๆที่ พล.อ.ประยุทธ์ เลือกเดินทางไปตรวจสถานการณ์น้ำท่วม แล้วก็ได้ข้อมูลเด็ดกลับมา ประชาชนชาวไร่ยาสูบฟ้องคนอมเงินเยียวยา
ไล่บี้กันจะจะแบบที่ “สันติ” หน้านิ่ง “บิ๊กป้อม” หน้าชา
ที่น่าสังเกตก็คือนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคพลังประชารัฐ กระโดดออกหน้ามารับอาสา
ไล่ตามหาเงินเยียวยาเกษตรกรไร่ยาสูบ 50 ล้านบาท ต้องไม่หาย
ถึงแม้ว่าจังหวัดเพชรบูรณ์จะไม่อยู่ในพื้นที่ตรวจราชการของนายสมศักดิ์ แต่อาศัยที่เกษตรกรไร่ยาสูบมีหลายจังหวัด รวมถึงสุโขทัย ถิ่นของ รมว.ยุติธรรม
“สมศักดิ์” ที่ปกติจะนิ่งรักษารูปมวย แต่คิวนี้แอ่นอกมาเล่นกับของร้อน
อ่านจากเหลี่ยมเขี้ยวระดับโคตรเซียนการเมือง มันต้องมีอะไรซ่อนอยู่
ที่แน่ๆมันเป็นอารมณ์หลังจากที่นายสมศักดิ์และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะหัวขบวนก๊วนสามมิตร ออกมาปฏิเสธข่าว ไม่มีความคิดจะย้ายหนีค่ายพลังประชารัฐแต่อย่างใด
พร้อมอยู่หาม “บิ๊กตู่” ไปต่อ เบิ้ลเก้าอี้นายกฯรอบสาม
ตามอาการกลุ่ม “สมศักดิ์–สุริยะ” หันมาโปร พล.อ.ประยุทธ์ เต็มกำลัง
เป็นฝั่งหนุน “บิ๊กตู่” มาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่พาฝ่าวงล้อม “กบฏผู้กอง” ในสภาผู้แทนราษฎร ต่างกันกับนายสันติที่พลิกไปพลิกมา จากตอนแรกเป็นฝ่ายหนุน พล.อ.ประยุทธ์ หักดิบ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แต่ภายหลังติ๊ดชึ่งมาเป็นลมใต้ปีกของ “พี่ใหญ่”
ในสถานการณ์ “ขึงพืด” ไม่ให้ พล.อ.ประยุทธ์ ยึดค่ายพลังประชารัฐ
“พี่ใหญ่” ขวาง “น้องเล็ก” เฉือนคมกันในหมู่ 2 ป.
และเป็นฝั่ง “บิ๊กป้อม” ที่กุมสภาพได้เหนือกว่า เพราะมีทีมของนายสันติหนุนหลัง พร้อมกับทีมของนายวิรัช รัตนเศรษฐ ขาใหญ่ก๊วนโคราช รวมไปถึงกลุ่ม ส.ส.ปากน้ำ สมุทรปราการ
แต่ตามเงื่อนไขสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ได้ไฟเขียวจากศาลรัฐธรรมนูญให้ไปต่อ ก็ทำให้ฝ่ายผู้นำพลิกกลับมาเป็นต่อ
ตรงกันข้ามกับ “บิ๊กป้อม” ที่เหงาลงถนัดตา
สะท้อนจาก ส.ส.ค่ายพลังประชารัฐไปโผล่งานวันเกิดของ “อาจารย์ใหญ่” เนวิน ชิดชอบ นับหัวแล้ว 7-8 คน แสดงตัวแสดงตนพร้อมย้ายหนีพรรค พปชร. ต่อเนื่องกับกระแสข่าวทีม ส.ส.กทม.รวมถึงก๊วนสามมิตร ก็จะทิ้งพรรคพลังประชารัฐไปหาสังกัดใหม่
อารมณ์แบบที่ “บิ๊กตู่” แกล้งเข้าไปกอดพุง กระเซ้า “พี่ใหญ่” ยืนยันจะปักหลักอยู่กับค่ายพลังประชารัฐ ไม่ย้ายหนีไปปักหมุดกับค่ายรวมไทยสร้างชาติตามที่มีกระแสข่าวลือ
โดยสถานการณ์ชัดเจน “น้องเล็ก” พลิกกลับมาถือแต้มต่อ
ด้วยการหนุนของ “สมศักดิ์-สุริยะ” กลุ่มสามมิตร เช่นเดียวกับ “เสี่ยเฮ้ง” นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กับ “เสี่ยโอ๋” นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส ที่เป็นนกรู้ พลิกข้างมาหนุน พล.อ.ประยุทธ์
โอกาสสูงที่จะยึดค่ายพลังประชารัฐจาก “พี่ใหญ่” เป็นฐานหนุนไปต่อ
ตามสภาพผิวน้ำที่ดูราบเรียบ แต่สถานการณ์ใต้น้ำที่พัดแรงยิ่งกว่าวังน้ำวน
พี่ๆน้องๆ 2ป.งัดข้อกันหนัก ถึงจังหวะต้องหักดิบกันแล้ว.
“ทีมการเมือง”