“บิ๊กตู่” นำคณะลุยตรวจน้ำท่วม เมืองระยอง ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้าน พร้อมตรวจเยี่ยมมอบถุงยังชีพให้ผู้ประสบภัยที่อพยพมาอยู่ศูนย์พักพิง “เฉลิมชัย” ติดตามการบริหารจัดการน้ำที่แปดริ้ว ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มอีก 8 เครื่อง เป็น 16 เครื่อง เร่งสูบน้ำออกจากคลองประเวศฯบรรเทาผลกระทบน้ำท่วมขังในเขตลาดกระบัง “บิ๊กป้อม” สั่ง 38 หน่วยบูรณาการสู้น้ำ อุตุฯแจ้งเตือนฝนถล่มหนักทั่วทุกภาคอีกระลอก 17-21 ก.ย.นี้ เฝ้าระวัง 13 อ่างเก็บน้ำวิกฤติหนัก

สถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ยังไม่คลี่คลายยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 16 ก.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข พร้อมคณะ เดินทางไปติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ต.ทับมา อ.เมืองระยอง ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารและกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนที่ศูนย์ช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมเทศบาลตำบลทับมา บริเวณลานจอดรถห้างสรรพสินค้าแม็คโคร ระยอง ก่อนจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่อีกจุดบริเวณศาลาอเนกประสงค์บ้านหนองมะหาด หมู่ 3 ต.ทับมา

...

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขอขอบคุณและเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย รวมทั้งครอบครัวและจิตอาสาในการปฏิบัติงานร่วมกัน ขอให้หน่วยทหารในพื้นที่ยังคงสนับสนุน จ.ระยอง เสริมกำลังและเครื่องมือช่างเข้าช่วยหากจำเป็น เน้นเตรียมแผนเผชิญเหตุสนับสนุนรับมือสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นร่วมกัน รู้สึกเป็นห่วงประชาชนที่รับผลกระทบ ขณะนี้นับว่าปฏิบัติการได้ตามแผน แต่ต้องคำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนและที่สำคัญคือผลกระทบต่อประชาชนและภาคการเกษตร จำเป็นต้องดูแลกันต่อไป รวมถึงโรคภัยต่างๆไม่ว่าจะเป็นโรคฉี่หนูและโรคภัยที่มากับน้ำ

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบถุงยังชีพของกองทัพบกและกองทัพเรือ ให้ประชาชนที่อพยพมาอยู่ศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยน้ำท่วมเทศบาลตำบลทับมา ตั้งอยู่หอประชุมโรงเรียนชุมชนวัดทับมา ยังมีประชาชนพักอยู่ 120 ราย ก่อนจะเดินทางกลับ สำหรับประชากรในเขตเทศบาลตำบลทับมา มี 25,160 คน 17,205 ครัวเรือน ถูกน้ำท่วมขังตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย.ถึงวันนี้ 12 วันแล้ว ระดับน้ำลดลงไปบ้างแล้ว มี 1,800 ครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ในจำนวนนี้ 1,600 ครัวเรือนที่รอเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือขนย้ายอพยพชาวบ้านออกจากบ้านเรือนมีหน่วยทหารเรือ ตำรวจจิตอาสา กู้ภัยสว่างพรกุศล ปภ.ระยอง และหน่วยต่างๆ ช่วยเหลือประชาชน

วันเดียวกัน นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ และคณะ ลงพื้นที่ติดตามการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกตอนล่าง บริเวณประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำท่าถั่ว โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระองค์เจ้าไชยานุชิต อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา มีนายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรม ชลประทาน รายงานสรุปสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำ

นายเฉลิมชัยกล่าวว่า สั่งการให้กรมชลประทาน บริหารจัดการน้ำในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยระบายน้ำออกทางคลองแนวขวางทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตก จากการลงพื้นที่ดูการบริหารจัดการน้ำในคลองประเวศบุรีรมย์วันนี้ กรม ชลประทานได้สูบระบายน้ำในคลองประเวศฯออกทางสถานีสูบน้ำประเวศบุรีรมย์ ลงสู่คลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต ก่อนจะสูบระบายออกทางแม่น้ำบางปะกง ผ่านทางสถานีสูบน้ำท่าถั่ว จะสามารถช่วยบรรเทาผลกระทบน้ำท่วมขังในเขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำท่าถั่วเพิ่มเติมอีก 8 เครื่อง รวมของเดิมเป็น 16 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่โดยเร็ว สามารถสูบน้ำออกจากคลองประเวศฯได้วันละประมาณ 6 ล้าน ลบ.ม. หากฝนไม่ตกลงมาเพิ่ม สถานการณ์น้ำที่เขตลาดกระบังก็จะคลี่คลาย 2-3 วันจะเข้าสู่ภาวะปกติ
ด้านนายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า การบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของลุ่มน้ำเจ้าพระยา กรมชลประทานมีการระบายน้ำออกทางคลองแนวขวางทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตก ผ่านสถานีสูบน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำนครนายก และแม่น้ำบางปะกง นอกจากนี้ยังได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม เสริมศักยภาพการระบายน้ำ ปัจจุบันสามารถระบายน้ำได้รวมกันประมาณวันละ 63 ล้าน ลบ.ม.

ส่วนกรณีที่กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนทั่วทุกภูมิภาคมีฝนตกหนักถึงหนักมากตั้งแต่ 17-21 ก.ย. นายเฉลิมชัย ยืนยันว่า กรมชลประทานมีความพร้อม ได้กำชับให้เตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ และเครื่องสูบน้ำ เข้าช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชม. รวมถึงให้มีการพร่องน้ำ ตัดยอดน้ำ ที่จะไหลเข้าสู่ชุมชนและพื้นที่การเกษตร ปัจจุบันในพื้นที่บางปะกงมีนาข้าวที่อยู่ระหว่างเก็บเกี่ยวผลผลิตกว่า 2,000 ไร่ ยืนยันว่ายังไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำ นอกจากนี้ กรมชลประทานยังใช้คลองแนวตั้งฝั่งตะวันออกของลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพื่อแบ่งรับน้ำจากทางตอนบนของกรุงเทพมหานคร ระบายน้ำผ่านคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต ก่อนจะใช้สถานีสูบน้ำที่ตั้งอยู่ริมคลองชายทะเลเร่งระบายน้ำลงสู่ทะเลอ่าวไทยต่อไป

ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ รักษาราชการแทนนายกฯ เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการกำหนดนโยบายขับเคลื่อนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ ครั้งที่ 3/2565 ที่ประชุมร่วมกันพิจารณาเห็นชอบผลการศึกษา โครงการวิจัยการศึกษานวัตกรรมเชิงระบบโครงสร้างและกลไกการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์น้ำมีแนวโน้มความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ทั้งน้ำท่วม น้ำแล้ง และอื่นๆ จำเป็นต้องบูรณาการทำงานร่วมกันอย่างแน่นแฟ้นของหน่วยงานมากกว่า 38 หน่วย แก้ไขปัญหาให้ครอบคลุมทุกมิติ ปิดช่องว่าง ลดความซ้ำซ้อน ลดความเสี่ยง เพื่อให้เกิดความมั่นคงอย่างยั่งยืน สามารถรองรับสถานการณ์น้ำเพื่อความอยู่ดีกินดีและความเป็นธรรมแก่ประชาชน

นายอนุชา บูรพชัยศรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่าช่วงวันที่ 17-21 ก.ย. ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นและตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ รวมถึง กทม.และปริมณฑล ขอให้ประชาชนระวังอันตรายอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม นอกจากนี้ยังให้เฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของแม่น้ำแควน้อย แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำชี แม่น้ำมูล แม่น้ำนครนายก แม่น้ำปราจีนบุรี แม่น้ำบางปะกง แม่น้ำระยอง แม่น้ำ จันทบุรี และแม่น้ำตราด อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาตรน้ำสูงกว่าเกณฑ์ปฏิบัติการเก็บกักน้ำสูงสุด 13 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำแม่งัดสมบูรณ์ชล จ.เชียงใหม่ อ่างเก็บน้ำกิ่วคอหมา กิ่วลม และแม่มอก จ.ลำปาง อ่างเก็บน้ำทับเสลา จ.อุทัยธานี อ่างเก็บน้ำกระเสียว จ.สุพรรณบุรี อ่างเก็บน้ำอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น อ่างเก็บน้ำลำตะคอง ลำพระเพลิง และมูลบน จ.นครราชสีมา อ่างเก็บน้ำคลองสียัด จ.ฉะเชิงเทรา อ่างเก็บน้ำบางพระ จ.ชลบุรี และอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล จ.ระยอง รวมไปถึงอ่างฯ ขนาดเล็กและขนาดกลางที่มีปริมาตรน้ำมากกว่าร้อยละ 80 และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้นกระทบพื้นที่ด้านท้ายน้ำทั่วประเทศ