“อนุทิน” โวยเกมการเมือง เตะตัดขา ภท. เพราะมีแต้มต่อ เหนือพรรคอื่นลั่นรู้อยู่แล้วว่าต้องเกิด ยันหลังเลือกตั้งกลับมาดันต่อ หัวชนฝาไม่เซ็นให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติด “ศุภชัย” เฉ่ง ปชป.-พท.รุมขัดแข้งขัดขา ฟาดต้องรับผิดชอบคนนับล้านผิดอาญาคุกจะพอขังหรือไม่ “สาทิตย์” โต้วุ่นไม่ใช่เกมการเมือง แนะเอาไปแก้ปิดช่องว่าง โบ้ยเป็นมติสภาฯให้ถอนร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ เผย 47 ส.ส. พปชร.ร่วมด้วยช่วยตีตก “39 นักวิชาการ” บี้ สธ.ยกเลิกประกาศปลดล็อกกัญชาพ้นยาเสพติด ฝ่ายค้านยื่น ป.ป.ช.เชือด “ศักดิ์สยาม” 3 ข้อหาไต่สวนจริยธรรมยึดครองที่ดินเขากระโดงโดยมิชอบ สร้างหลักฐานเท็จปกปิดทรัพย์สิน ใช้ห้างหุ้นส่วนตัวเองรับงานรัฐพันล้าน “สมคิด” ยกทีมลุยภูเก็ต ขายยุทธศาสตร์กู้คืนอันดามัน ยุคนใต้เก็บพรรคเก่าแก่ขึ้นหิ้ง เลือกสร้างอนาคตไปกับ สอท.

จากกรณีที่ประชุมสภาฯ เมื่อวันที่ 14 ก.ย.มีมติให้ถอนร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชงไปทบทวนใหม่ โดยมี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พลังประชารัฐ (พปชร.) พรรคเพื่อไทย (พท.) รวมทั้งพรรคฝ่ายค้านบางส่วนร่วมลงมติด้วย ขณะที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ชี้เป็นการเล่นเกมการเมืองชัดเจน

“อนุทิน” รู้อยู่แล้วต้องเกิดเกมการเมือง

เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติ ฉลองสิริราชสมบัติ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์กรณีสภาฯ มีมติถอนร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชงว่า ที่ประชุมไม่ได้คว่ำแต่ให้ กมธ.ทบทวน ไม่มีปัญหาอะไร สธ.รอบคอบทราบมาก่อนแล้วว่าเรื่องเช่นนี้จะต้องเกิด เพราะทำให้พรรคหนึ่งมีแต้มต่อที่เหนือกว่าอีกหลายพรรค เป็นสิ่งที่ รมว.สธ.มองเห็นมานานแล้วจึงเร่งปลดล็อกกัญชาใช้ประกาศกระทรวง สธ.กำกับดูแลให้รอบคอบแม้ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชงถูกตีตกไป แต่เพราะความรอบคอบของ สธ.ที่ออกประกาศควบคุมทำให้ทุกกิจกรรมเดินหน้าต่อไปได้เหมือนเดิม ไม่เกิดสุญญากาศ เพื่อให้ทุกฝ่ายคลายความกังวล สธ.จะมาดูมาตราต่างๆ ในร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง มีสิ่งใดควรประกาศ สธ.เพิ่มเติมหรือไม่ จะไม่เซ็นให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติดอีก

...

ลั่นเดินหน้าผลักดันต่อ

นายอนุทินกล่าวอีกว่า เรื่องนี้มองก็รู้ว่าเป็นเกมการเมืองอยู่แล้ว วาระแรกทุกพรรครับหลักการ เดิมมี 45 มาตรา ถ้าหละหลวมคงเหลือ 10 มาตรา แต่เรานำความเห็นความห่วงใยของประชาชนมาเพิ่มเป็น 95 มาตรา เพื่อความรอบคอบ คิดว่าไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนและผู้ประกอบการที่ลงทุนผลิตผลิตภัณฑ์กัญชา ยังยื่นขออนุญาตสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเหมือนเดิม ส่วนผู้นำกัญชามาใช้ในทางที่ผิด เช่น สูบในที่สาธารณะหรือนำมาพันลำก็ผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ยังจับอยู่และบทลงโทษรุนแรง เลือกตั้งครั้งหน้าถ้าพรรค ภท.กลับมาจะมาผลักดันต่อ แทนที่จะจบในการประชุมสมัยนี้ พรรคจะได้มีนโยบายใหม่ๆ แต่ตอนนี้จะดันเรื่องนี้ต่อ ประชาชนจะได้เห็นว่าเราพูดแล้วทำและใครดีแต่พูดและเรื่องนี้จะส่งผลดีต่อคะแนนเสียงของพรรค ภท.ด้วย ต้องขอบคุณที่หาเสียงให้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอนุทินได้กล่าวเปิดงานประชุมวิชาการต่อผู้บริหารและบุคลากร สธ.ตอนหนึ่งว่า ถ้าหลังการเลือกตั้งครั้งหน้าตนกลับมาได้ จะเอากระทรวงสาธารณสุขแน่นอน ถ้าอยากให้กลับมา เจอคำว่าภูมิใจไทยก็กา ถ้าไม่อยากให้กลับมา ไปกาพรรคอื่น แต่มั่นใจว่าได้กลับมา

“ศุภชัย” เฉ่ง ปชป.เตะสกัด

เมื่อเวลา 10.15 น. ที่รัฐสภา นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรค ภท.ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชงแถลงถึง กรณีมติที่ประชุมสภาให้ถอนร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง กลับไปทบทวนให้รอบคอบว่า สิ่งที่ กมธ.พิจารณามาครบถ้วน ป้องกันผลกระทบที่จะเกิดแก่สังคม ต้องถามว่าจะให้ทบทวนเรื่องใด ถ้านายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้อ่านเนื้อหาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง จะเข้าใจ แต่ไม่ได้อ่าน แล้วอ้างมีความหละหลวม กล่าวหาเลื่อนลอย ไม่เอาความจริงมาพูด แต่เมื่อที่ประชุมให้ถอนเรื่องก็ยอมรับมติ สมาชิกที่เห็นว่าร่างไม่สมบูรณ์ให้ส่งข้อห่วงใยมาให้ กมธ.เพื่อนำไปปรับปรุง ก่อนนำเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ สมัยหน้า มองเจตนาที่ต้องการให้ถอนร่าง เพราะไม่อยากให้กฎหมายเสร็จ

ต้องรับผิดชอบคนนับล้านผิดอาญา

นายศุภชัยกล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้ไม่ใช่ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท.แต่เป็นร่างของสภาฯ ผ่านวาระรับหลักการมาแล้ว หากไม่สามารถออกมาใช้ได้ สถานการณ์กัญชาจะเป็นข้อห่วงใยอย่างที่อ้าง เกิดอะไรขึ้นท่านต้องรับผิดชอบ ขอให้หยุดเล่นการเมืองแล้วทำงานเพื่อประชาชน คนปลูกกัญชาทุกคนไม่ได้เลือก ภท. บางคนเลือก ปชป. พท. สิ่งที่เป็นห่วงทั้ง 2 พรรคจะทำให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติดอีกครั้ง คนปลูกนับล้านคนจะมีความผิดอาญาทันที กว่า 7 พันคนที่ออกจากเรือนจำต้องกลับเข้าเรือนจำ ยังมีผู้อยู่ระหว่างดำเนินคดีอีกมากต้องกลับไปถูกดำเนินคดีอีก เตรียมคุกพอไว้ขังประชาชนหรือไม่

“สาทิตย์” โต้ไม่ใช่เกมการเมือง

ต่อมาเวลา 12.00 น. นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรค ปชป. กล่าวว่า พรรคไม่ได้คัดค้านร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง โดยเฉพาะการใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์หรือใช้เป็นพืชเศรษฐกิจ แต่มีเจตนาต้องการเห็นเนื้อหากำกับควบคุมการใช้กัญชาให้อยู่ในกรอบที่คำนึงถึงผลกระทบต่อเด็กและเยาวชนอนาคตของชาติเพราะร่างกฎหมายที่รับหลักการและผ่านการพิจารณาของ กมธ.วิสามัญฯมีการแก้ไขเพิ่มเนื้อหาเยอะมากจากเดิมมี 45 มาตรา แต่ กมธ.วิสามัญฯปรับแก้เพิ่มเติม 69 มาตราเป็น 95 มาตรา และตัดบางมาตราทิ้ง โดยเฉพาะมีบางส่วนอาจกำกับดูแลควบคุมไม่ดีพอ เช่น ให้ประชาชนทั่วไปขอจดแจ้งปลูกกัญชาครัวเรือนละ 15 ต้น ใช้เพื่อประโยชน์ในครัวเรือน แต่บัญญัติไว้ว่าเพื่อการบริโภคภายในครัวเรือน เพื่อประโยชน์ในการรักษาสุขภาพ แต่ไม่มีการกำหนดมาตรการควบคุมที่ส่งผลกระทบต่อเด็กและเยาวชน ทำให้เข้าถึงได้โดยง่าย และทางแพทย์มีการออกหนังสือวิเคราะห์กฎหมายจึงนำเรื่องนี้เข้าหารือกับที่ประชุมสภาฯ และเสนอให้ถอนร่างออกไปปรับปรุงช่วงปิดสมัยประชุม

แนะปิดช่องว่าง เชื่อไม่กระทบรัฐบาล

นายสาทิตย์กล่าวต่อว่า หากเมื่อวันที่ 14 ก.ย.ไม่ถอนร่างกฎหมายออกไปอาจทำให้ร่างกฎหมายนี้ค้างอยู่ในการพิจารณาของสภาฯ จะไม่สามารถนำไปแก้ไขปรับปรุงให้รอบคอบรอบด้านได้ แต่หากถอนออกไปแก้ไขปรับปรุงไม่ให้เสี่ยงถูกคว่ำวาระ 2-3 และช่วงสุญญากาศนี้จึงมีข้อเรียกร้องไปยัง รมว.สาธารณสุข ขอให้ทบทวนการปลดล็อกกัญชา ขอให้ทุกฝ่ายเลือกใช้เหตุผลมาวิเคราะห์ร่างกฎหมายฉบับนี้ว่าส่งผลกระทบต่อสวัสดิภาพของคนในสังคม รวมถึงผู้ปกครองและบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงการศึกษาหรือไม่อย่างไร ยืนยันไม่มีเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้อง เชื่อว่าหากถอนร่างออกไปและปรับปรุงแล้วนำกลับเข้ามาพิจารณาอีกครั้งในสมัยประชุมหน้าได้ดีกว่าล้มกฎหมายทั้งฉบับ และหลังจากนี้พรรค ปชป.พร้อมเสนอข้อเสนอแนะและข้อห่วงใยส่งไปให้ กมธ.วิสามัญฯพิจารณาแก้ไขกฎหมาย สังคมเราเผชิญกับปัญหายาบ้าอยู่แล้ว อย่าให้กัญชามาซ้ำเติมปัญหายาเสพติดอีก ยืนยันไม่ใช่เรื่องมาตัดแข้งตัดขากันเพื่อตัดคะแนนนิยมของพรรค ภท. แต่เป็นเนื้อหากฎหมาย ถ้าสภาฯรีบตรากฎหมายโดยไม่รับผิดชอบต่อสังคมไม่ได้ เชื่อว่าจะไม่กระทบสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาล ปชป.มี ส.ส. 40 เสียงเท่านั้นที่เห็นด้วยให้ถอนทั้งหมดเป็นมติของสภาฯใช่มติของพรรคใดพรรคหนึ่ง เราเชื่อว่าไม่มีปัญหาในการทำงานร่วมกันในพรรคร่วมรัฐบาล

47 ส.ส.พปชร.ร่วมด้วยให้ถอนร่าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มติที่ประชุมสภาฯด้วยคะแนน 198 ต่อ 136 เสียง งดออกเสียง 12 เพื่อให้นำร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง กลับไปทบทวนใหม่ ปรากฏว่าในส่วนคะแนนเห็นด้วย 198 เสียงให้ถอนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวกลับไปทบทวนใหม่ ส่วนใหญ่ประกอบด้วยพรรค พท. 93 เสียง ยกเว้น 7 ส.ส.งูเห่าที่จะย้ายไปพรรค ภท. พรรค ปชป. 30 เสียง พรรคเสรีรวมไทย 9 เสียง พรรคประชาชาติ 6 เสียง พรรคเพื่อชาติ 2 เสียง รวมถึงพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ก็ร่วมลงมติเห็นด้วยถึง 47 เสียง ส่วนเสียงที่ลงมติไม่เห็นด้วยกับการให้ถอนร่างกฎหมายกลับไปทบทวนเป็นของพรรคภูมิใจไทย 58 เสียง ยกเว้นนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯที่ลงมติงดออกเสียง พรรคก้าวไกล (ก.ก.) 41 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) 8 เสียง โดยมี ส.ส.บางส่วนของพรรค พปชร. พรรค ปชป. พรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) พรรคเล็กบางส่วนร่วมลงมติไม่เห็นด้วยกับการให้ถอนร่าง

“นักวิชาการ” บี้ยกเลิกประกาศ สธ.

วันเดียวกัน เครือข่ายนักวิชาการและภาคประชาชนต้านภัยยาเสพติด มีนักวิชาการด้านสุขภาพร่วมลงนาม 39 คน ออกจดหมายเปิดผนึกฉบับที่ 3 ถึง ส.ส.ที่ลงมติให้ถอนร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ รวมถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข และนายวิษณุ เครืองาม ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ใจความตอนหนึ่งระบุ เห็นด้วยกับการถอนร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ออกจากวาระการประชุม เพื่อทบทวนให้รอบคอบ เพราะการได้กฎหมายที่ไม่มีประสิทธิภาพจะก่อปัญหามากกว่าแก้ปัญหา ปัญหาผลกระทบของกัญชาเสรีไม่ได้อยู่ร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ (ที่ไร้ประสิทธิภาพ) ต้องตกไปแล้วทำให้เกิดสภาวะสุญญากาศ แต่ปัญหาสุญญากาศอยู่ที่การคงอยู่ของประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับปลดกัญชาจากการเป็นยาเสพติด ดังนั้นในขณะที่กำลังพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ให้รอบคอบซึ่งต้องใช้เวลา ต้องผ่านกระบวนการทั้ง 2 สภา หรืออาจยุบสภาก่อน ประเทศไทยจึงจำเป็นต้อง “ปิดกัญชาเสรีในสภาวะสุญญากาศก่อน” เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบร้ายแรงต่อประเทศและอนาคตของเยาวชน จึงขอเรียกร้องให้ยกเลิกประกาศกระทรวง สธ.ฉบับปลดกัญชาจากยาเสพติด เพื่อปิดสุญญากาศกัญชาทันที

ฝ่ายค้านยื่น ป.ป.ช.ฟัน “ศักดิ์สยาม”

เมื่อเวลา 09.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.ไต่สวนนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ตามผลสืบเนื่องจากการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา โดยนายประเสริฐกล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.กล่าวหานายศักดิ์สยาม 3 สำนวนได้แก่ 1.ไต่สวนจริยธรรมนายศักดิ์สยาม กรณีครอบครองที่ดินรถไฟเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ เพื่อประโยชน์ต่อธุรกิจตนเองและเครือญาติ 2.ไต่สวนนายศักดิ์สยาม กรณีปฏิบัติโดยมิชอบ ครอบครองที่ดินรัฐโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยนายศักดิ์สยามในฐานะ รมว.คมนาคม กำกับดูแลการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ไม่ดำเนินการใดๆให้ รฟท.ดำเนินคดีผู้บุกรุกที่ดิน รฟท. เป็นเจตนาทอดเวลาเพื่อประโยชน์ตนเอง

ขยี้ทำหลักฐานเท็จปกปิดทรัพย์สิน

นายประเสริฐกล่าวว่า 3.ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินนายศักดิ์สยาม กรณีเข้ารับตำแหน่งที่ไม่ชอบมาพากลหลายประเด็น มีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน สร้างหลักฐานเท็จ เพื่อปกปิดทรัพย์สิน ยืนยันไม่ได้ดิสเครดิตพรรคใด แต่หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถ้าเรื่องใดมีหลักฐานทุจริตต้องส่งให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ ไม่มีเรื่องการเมืองเกี่ยวข้อง มีอีกหลายคนที่ฝ่ายค้านจะยื่นให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบต่อไปทั้งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ กรณีทุจริตถุงมือยาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯกรณีการใช้งบฯกลางส่อทุจริต คาดว่าจะยื่นได้ภายในเดือน ก.ย.

ใช้ห้างหุ้นส่วนตัวเองรับงานพันล้าน

นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า กรณีบัญชีทรัพย์สินนายศักดิ์สยามเกี่ยวเนื่องกับการโอนหุ้นห้างหุ้นส่วน 1 แห่ง ก่อนที่นายศักดิ์สยามจะเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. และรัฐมนตรี อาจไม่มีการโอนจริงเป็นเพียงการใช้นอมินี เท่ากับบัญชีทรัพย์สินที่ยื่นต่อ ป.ป.ช.เป็นเท็จ ความจริงนายศักดิ์สยามยังเป็นเจ้าของห้างหุ้นส่วนอยู่ และยังพบว่า ห้างหุ้นส่วนดังกล่าวได้รับงานกระทรวงคมนาคมกว่า 1,000 ล้านบาท รวมถึงพบความเกี่ยวเนื่องกับบริษัท 1 แห่ง อาจเป็นลูกหนี้นายศักดิ์สยาม แต่ไม่มีการแจ้งบัญชีทรัพย์สินให้ ป.ป.ช.ทราบ

“ทิพานัน” หยัน พท.ใช้นักโทษหาเสียง

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวชี้นำให้เลือกพรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์ 2 สมัยแล้วค่าแรงจะดีขึ้นว่า นายทักษิณพยายามสั่งการ พท.มาตลอด ล่าสุดทำเหมือนเป็นหัวคะแนนหาเสียงให้ พรรค พท.มีส่วนรู้เห็นเป็นใจหรือไม่ ไม่มีครั้งใดที่พรรค พท.จะไม่สนองตอบ สุ่มเสี่ยงครอบงำ ชี้นำการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง คนไทยทุกคนไม่ต้องการตระกูลคอร์รัปชันมาบริหารประเทศ จุดยืนพรรค พท.ชัดเจนใช่หรือไม่ที่จะใช้นายทักษิณ นักโทษคดีมาหาเสียงแลนด์สไลด์ให้พรรคการเมือง โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจพรรค พท.เห็นด้วยกับคำประกาศต่างๆของนายทักษิณหรือไม่ สำคัญที่สุดพรรค พท.ควรต้องเคารพกฎหมาย เคารพประชาชน ไม่เอานักโทษโกงชาติมาเป็นแบบอย่างให้ลูกหลาน ไม่เอาคนประวัติคอร์รัปชันมาหาเสียง

“เด็กทักษิณ” สวนใส่ร้ายก้าวร้าว

นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีต ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทยกล่าวตอบโต้ น.ส.ทิพานันว่า กล่าวหานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ชี้นำครอบงำพรรคพท.ใช้วาจาก้าวร้าวเกินไป ดูถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของอดีตนายกฯ ไปทำร้ายจิตใจผู้คนไม่น้อยที่ยังรักและศรัทธา หรือแค่เห็นลูกสาวนายทักษิณ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร มาเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ได้รับการต้อนรับล้นหลามอบอุ่นแล้วหวั่นไหวจะเกิดแลนด์สไลด์ จึงหาทางทำลายพรรค พท. ควรเลิกพูดจาใส่ร้าย ก้าวร้าว การเอ่ยไปถึงตระกูลมันรวมถึงคนอื่นๆในตระกูลเขาที่ไม่ได้อยู่ในการเมืองด้วย น่าเอาเวลาไปศึกษาหาข้อมูล ไตร่ตรองด้วยใจเป็นธรรม รวมทั้งเรื่องมารยาท อย่าทำตัวไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่ ส่วนคะแนนนิยมถ้าอยากรู้ของจริงลองไปถามคนแถวบ้านป่ารอยต่อดูพรรค พท.แรงขนาดไหน

“เดชอิศม์” กันท่า มท.2 โควตาภาคใต้

นายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคประชา ธิปัตย์ กล่าวถึงผลโพลผู้สมัคร ส.ส.ตรัง เขต 4 ว่า ประชาชนส่วนใหญ่เลือกนายกาญจน์ ตั้งปอง เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ตรังเขต 4 มากกว่านายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล อดีต ส.ส.ตรัง แต่ไม่ขอเปิดเผยผลสำรวจที่มีคะแนนชนะพอสมควร และจะไม่ทำโพลสำรวจความเห็นอีกแล้ว ถือว่าทุกอย่างจบแล้ว ได้แจ้งผลไปให้ทุกฝ่ายรับทราบแล้ว นายสมบูรณ์คงต้องไปตกลงเรื่องลำดับการลง ส.ส.บัญชีรายชื่อที่ขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรคต่อไป จ.นครศรีธรรมราช และ พังงาต้องทำโพล และปลายเดือน ต.ค.จะได้ตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคใต้ทั้ง 58 เขต มั่นใจว่าพรรคจะชนะเลือกตั้งทั้ง 4 เขตใน จ.ตรัง ยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้งภายในพรรค แต่ผู้ที่แพ้อาจโวยวายบ้าง หากมีเรื่องบาดหมางเป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวกับพรรค ส่วนการปรับ ครม.แทนนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีต รมช.มหาดไทย หากมีการปรับก็ยังเป็นโควตาของภาคใต้ ที่กรรมการบริหารพรรคจะพิจารณา

“บิ๊กป้อม” จับตามหาอำนาจแผ่อิทธิพล

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมวิจิตรวาทการ ชั้น 3 สภาความมั่นคงแห่งชาติ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ รักษาราชการแทนนายกฯ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (นปท.) ครั้งที่ 1/2565 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ มี พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ที่ประชุมให้ความเห็นชอบ (ร่าง) แผนความมั่นคงแห่งชาติทางทะเล ปี 66-70 ที่มุ่งเน้นเสริมสร้างความมั่นคงแบบองค์รวมทุกมิติความมั่นคง โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ความมั่นคงและผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเลซับซ้อนหลายมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม กฎหมายและความร่วมมือต่างประเทศ ระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม พลังงานและการคมนาคมขนส่ง จำเป็นต้องติดตามสถานการณ์การขยายอิทธิพลของประเทศมหาอำนาจในภูมิภาค กำหนดท่าทีให้เหมาะสมกับการรักษาดุลยภาพ

สอท.ลุยใต้ยันยังไร้ดีลรวมพรรค

เมื่อเวลา 09.45 น. ที่ จ.ภูเก็ต นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) กล่าวถึงการลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต ว่า เพราะเป็นพื้นที่เศรษฐกิจโดยเฉพาะการท่องเที่ยว และภาคใต้พรรคดำเนินการในพื้นที่เข้มข้นมีทีมงานที่คุ้นเคย เชื่อมั่นชุดความคิดนโยบายพรรคที่จะเสนอ มีผู้ชำนาญด้านเศรษฐกิจมีประสบการณ์ภาคใต้ พรรคให้ความสำคัญทั้งการเกษตร การศึกษา ภาคประชาชน เชื่อมั่นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เราไม่แพ้ใคร ภาคใต้เรามุ่งหวังปักธงจะได้ ส.ส. ความนิยมพรรคดีขึ้นเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งมาจากการเปิดตัวของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นประธานพรรค ส่วนที่ศาลรัฐธรรมนูญเตรียมวินิจฉัยวาระดำรงตำแหน่ง 8 ปีนายกฯ ไม่มีผลอะไรกับ สอท.เราเดินหน้าต่อไม่ว่า ผลจะเป็นอย่างไร เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวนายสมคิดได้พูดคุยกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย อาจมีการรวมพรรคหรือไม่ นายอุตตมกล่าวว่า ยังไม่ได้เปิดดีลพูดคุยรวมพรรคกับใคร ไม่ว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทยหรือคุณหญิงสุดารัตน์ แต่มีพบปะกันบ้างเป็นธรรมดาของวงการเมือง ยังมีเวลาพูดคุย ยังมีบิ๊กเนมทั้งคนการเมืองและอื่นๆ มาร่วมงาน สู้พรรคอื่นได้แน่นอน

“นิพิฏฐ์” ปลุกร่วมเปลี่ยนอันดามัน

เมื่อเวลา 13.30 น. ที่โรงแรมรามาดา พลาซ่า เจ้าฟ้า จ.ภูเก็ต พรรค สอท.จัดสัมมนาอันดามันรอด ประเทศไทยรุ่ง นำโดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรค นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคและผู้บริหารพรรคมีตัวแทนภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการและประชาชนพื้นที่จังหวัดอันดามัน เข้าร่วม 450 คน โดยนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค ในฐานะประธานภาคใต้ ขึ้นเวทีกล่าวเปิดเสวนาตอนหนึ่งว่าตอนนี้ประชาชนอึดอัด ไม่รักนักการเมือง ปฏิเสธพรรคการเมือง เริ่มรังเกียจนักการเมืองว่าเชื่อไม่ได้ ไม่สามารถฝากอนาคตบ้านเมืองและลูกหลานได้ เราชวนให้มารักกัน สร้างอนาคตไทยให้ลูกหลานด้วยกัน มาเปลี่ยนประเทศไทย เปลี่ยนอันดามันไปกับ สอท. ถ้าจะนึกถึงพรรค พปชร.ใครคือหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ต้องนอนคืนนี้เช้าเที่ยงอาจนึกออก พรรค ปชป. 3 วันถึงนึกออก และพรรค ภท.อาจครึ่งเดือนกว่าจะนึกออก แต่ถ้าถามว่าใครคือหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของสร้างอนาคตไทยคือนายสมคิด และต้องนึกถึงนายอุตตมและนายสนธิรัตน์ มั่นใจคือทีมที่จะพาประเทศไปข้างหน้าได้

“สมคิด” โชว์กึ๋นสร้างอนาคตกู้ ศก.

ต่อมานายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรค สอท. กล่าวปาฐกถาพิเศษว่า ประเทศไทยมีทุกอย่างพร้อม แต่ไม่มีโอกาสใช้เต็มศักยภาพ เราไม่ควรแบ่งข้าง คิดต่างได้ แต่หาจุดลงตัว นั่นคือทางออก มันคือเหตุผลที่ตนกลับมา ดีใจวันนี้ที่ได้เห็นได้ฟังตัวแทนผู้ประกอบการคนรุ่นใหม่ อยากเชิญชวนคนรุ่นใหม่เป็นสมาชิกพรรค เพื่อยืนอยู่แถวหน้า ชนะแพ้ไม่สำคัญ แต่อย่างน้อยสามารถทำในสิ่งฝันคิดเป็นจริงได้ โดยมีภารกิจอยู่ 2 ข้อ 1.กอบกู้อันดามัน 2.สร้างอนาคตอันดามัน ครั้งนี้สึนามิที่มองไม่เห็นกำลังดันทุกอย่างพังไปทีละราย สถาบันการเงินหน่วยงานรัฐจะนั่งรอดูให้ล้มทีละรายได้อย่างไร สงครามยังมีแนวโน้มเกิดขึ้นอีก เศรษฐกิจจะมืดมัวกว่านี้ โดยเฉพาะในอนาคตโลกแข่งด้วยการท่องเที่ยว สอท.ต้องร้อยไข่มุกเม็ดงาม 3 เม็ด ภูเก็ต พังงา กระบี่ เป็นสร้อยไข่มุกรวมเป็นแพ็กเกจ และเชื่อมโยงกับอีก 3 เม็ด ระนอง ตรัง และสตูล เชื่อมโยงท่องเที่ยวกับภาคการเกษตรและชุมชน

เย้ยหมดยุคพรรคเก่าแก่เชิญขึ้นหิ้ง

นายสมคิดกล่าวว่า หากมีระบบคมนาคมที่รวดเร็วจะทำให้เสมือนว่าอยู่ที่เดียวกัน อยู่ที่ผู้นำจะประมวลดึงการลงทุนทั้งไทยและเทศมาได้หรือไม่ ขออย่างเดียวทำให้เกิดได้ก็พอ การเชื่อมโยงรถไฟและถนนต้องทำให้ได้ทั้งด้ามขวาน ภาคใต้มี ส.ส.มาตลอด ส.ส.ทำอะไร ตนนั่งอยู่ใน ครม.ไม่ได้ยินสักแอะ มีแต่ประกันรายได้ ประกันทั้งปีเลย ของหมูๆ อย่างนั้นใครก็ทำได้ ว่าจะไม่ว่าแล้วเชียว อีกทั้งยังมี 3 เสาที่จำเป็นในการพัฒนาพื้นที่อันดามัน ทั้งเกษตรสมัยใหม่ ท่องเที่ยวด้านสุขภาพและดิจิทัลฮับ หากดึงมาตั้งศูนย์ที่ไทยถือเป็นจุดเริ่มต้นของสตาร์ตอัพและแหล่งเงินสมัยใหม่ ส่วนอนาคตการเมืองภาคใต้เปลี่ยนแปลงแน่ถ้าช่วยกันเปลี่ยน เรารู้ว่าทางใต้มีศรัทธาและผูกพันกับบางพรรคหรือหลายๆพรรค รักใครชอบใครไม่มีใครว่า แต่จุดพลิกผันของประเทศ ต้องขอพักเขาไว้บนหิ้งก่อน แม้ผูกมัดทางใจ ทำตามสัญญา เวลาเดือดร้อนมาช่วยเหลือกันมีไหม ตกลงเป็น ส.ส.หรือเสาไฟฟ้า

ควงตะหลิวโชว์ผัดหมี่ฮกเกี้ยน

ต่อมานายสมคิดพร้อมแกนนำพรรค สอท.เดินเยี่ยมชมพบปะผู้ประกอบการร้านธุรกิจ และประชาชนย่านเมืองเก่า ถนนถลาง จ.ภูเก็ต สักการะ เจ้าแม่ทับทิม ที่ศาลเจ้าแสงธรรม จากนั้นนั่งจิบน้ำชา หารือกับภาคธุรกิจ ที่ร้านโกปี้เตี่ยมก่อนไปเยี่ยมชมหม่อเส้งมิวเซียม พิพิธภัณฑ์ของโบราณและอาคารอนุรักษ์ดีเด่น ส่งเสริมธุรกิจซอฟต์เพาเวอร์ จากนั้นไปยังบ้านเก้าสิบสอง ได้โชว์ผัดหมี่ฮกเกี้ยน เมนูอาหารขึ้นชื่อของ จ.ภูเก็ต ฟังการบรรเลงกู่เจิง หรือพิณจีน บทเพลงเถียนมี่มี่ของเติ้งลี่จวิน โดยแอนนี่หรือที่รู้จักกันที่ในชื่อ นางฟ้ากู่เจิง ย่านเมืองเก่าภูเก็ต

ก.ก.-พท.ชงประชามติยกร่าง รธน.

เมื่อเวลา 13.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานที่ประชุม ก่อนที่เข้าสู่วาระประชุม นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล และนายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา 2 ฉบับ มีเนื้อหาไปทางเดียวกัน ขอให้พิจารณาเรื่องเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้มีการทำประชามติสอบถามความคิดเห็นประชาชน เรื่องการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ประชุมอนุญาตให้มีการพิจารณาญัตติด่วนด้วยวาจาดังกล่าว โดยญัตติด่วนทั้ง 2 ฉบับมีเนื้อหาเสนอให้มีการจัดทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับไปพร้อมกันในวันเลือกตั้ง ส.ส. ที่กำลังจะเกิดขึ้นเพื่อประหยัดงบประมาณภาษีประชาชน

หวั่นญัตติไฟเขียวติดขัดองค์ประชุม

จากนั้น ส.ส.พากันอภิปรายสนับสนุนญัตติดังกล่าว ให้จัดทำประชามติถามประชาชนจะให้ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ หลังสมาชิกแสดงความเห็นครบถ้วน นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ ประธานการประชุม เตรียมให้ลงมติเห็นชอบส่งญัตติให้ ครม.หรือไม่ ปรากฏว่าต้องใช้เวลารอ ส.ส.แสดงตนเป็นองค์ประชุมนาน 40 นาที มี ส.ส.มาแสดงตน 242 เสียงเกินองค์ประชุม แต่เมื่อถึงขั้นตอนเสียบบัตรลงคะแนนกลับเหลือสมาชิกลงมติเพียง 230 เสียง มีคะแนนเสียงเห็นด้วย 215 ไม่เห็นด้วย 6 ไม่ลงคะแนน 6 เสียง นายศุภชัยแจ้งว่า เสียงข้างมากเห็นด้วยทั้ง 2 ญัตติ โดยมี ส.ส.หลายคนคัดค้าน อาทิ นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรค พท. นายชาดา ไทยเศรษฐ ส.ส.อุทัยธานี พรรค ภท. เพราะเห็นว่าจำนวน ส.ส.เสียบบัตรลงคะแนนไม่ครบองค์ประชุม เมื่อเรื่องไปถึง ครม.อาจทำให้ญัตติมีปัญหาได้ เมื่อองค์ประชุมไม่ครบควรปิดประชุมแล้วนำไปพิจารณาครั้งต่อไป ญัตติไม่ได้ตกไปค่อยมาว่ากันใหม่ในสมัยประชุมสภาฯเดือน พ.ย. แต่นายศุภชัยยืนยันการลงมติถือว่าที่ประชุมเห็นด้วยกับการลงมติ ส่วนจะครบองค์ประชุมหรือไม่ ให้ว่าไปตามระบบ ข้อกฎหมายและข้อบังคับ และสั่งปิดประชุมทันทีเวลา 16.00 น.

“วัชระ” โวย ส.ว.ตัดตอนปม “เจ๊นุช”

ที่รัฐสภา นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชป.แถลงว่า ได้ยื่นหนังสือถึง พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่ 2 ในฐานะประธานคณะกรรมการจริยธรรม ขอให้คณะกรรมการจริยธรรมเรียกเอกสารจากหน่วยงานรัฐ ตรวจสอบกรณีแต่งตั้ง ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม หรือเจ๊นุช เข้ารับราชการโดยมิชอบ จากวุฒิสภาตั้งแต่ปี 54 ถึงปี 65ว่า ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ ดำรงตำแหน่งใดบ้าง รวมถึงเอกสารการเดินทางไปศึกษาดูงานที่รัสเซีย-ฟินแลนด์และเบิกงบฯเงินเดือน ค่าเบี้ยเลี้ยงต่างๆ เอกสารผู้เซ็นรับรองให้เข้าอบรมหลักสูตรของสถาบันพระปกเกล้าฯ เอกสารจากกรมบัญชีกลาง กรมสรรพสามิต การบินไทย และวัดบางลี่เจริญธรรม จ.ราชบุรี เมื่อถามว่า คณะกรรมการสอบจริยธรรมจะสอบเฉพาะเหตุที่เกิดในช่วงวุฒิสภาเป็นการช่วยเหลือกันหรือไม่ นายวัชระ ตอบว่า ถือเป็นการตัดตอนช่วยเหลือกัน ต้องดูตั้งแต่ต้น เหตุเกิดตั้งแต่สมัย สนช. หรือก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำไป ดังนั้นขอให้สอบตั้งแต่ปี 54

“เสรีฯ” เผย 2 พยานหวาดอิทธิพล

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย (สร.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ปปช.) สภาฯ กล่าวถึงความคืบหน้าตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม ที่เคยเชิญ ส.ท.หญิงปัทมา ศิริรัตน์ และนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง มาให้ข้อมูล หลังทั้ง 2 คนเลื่อนไม่มาชี้แจงถึง 2 นัดว่า ทั้ง 2 คน อาจจะติดธุระจริงๆหรืออาจเกรงกลัวอิทธิพล แต่ไม่อยากก้าวล่วงเพราะยังไม่มีหลักฐานที่ปรากฏว่ามีการขู่พยานแล้วหรือไม่ กมธ.ปปช. สภาฯให้โอกาสมาชี้แจงในวันที่ 22 ก.ย.อีกครั้ง และจะไม่เชิญอีก จากนั้นจะทยอยเชิญ ผู้บังคับบัญชาของสำนักงานกำลังพล สำนักงบประมาณและการเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ผบ.ทหารสูงสุด รวมทั้ง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.ที่เคยได้ทำคดีนี้มาชี้แจง

สอส.ร้อง “บิ๊กป้อม” เร่งสางปัญหา

ที่แยกพาณิชยการ หน้าศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ถนนพิษณุโลก ตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล กลุ่มสภาเครือข่ายประชาชนอีสาน (สอส.) สภาประชาชน 4 ภาค และเกษตรกรประมาณ 900 คน นำโดยนายประพาส โงกสูงเนิน นัดชุมนุมเพื่อยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรักษาราชการแทนนายกฯ เรียกร้องให้รัฐบาลหามาตรการและแนวทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรและประชาชนทั่วประเทศ ทั้งปัญหาหนี้สิน ปัญหาที่ดินและป่าไม้ ส่งเสริมฟื้นฟูอาชีพ และปัญหาแหล่งน้ำทั้งระบบ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นางเลิ้งนำกำลังและอุปกรณ์เครื่องกีดขวางมาปิดถนนพิษณุโลกสกัดตั้งแต่แยกพาณิชยการถึงแยกสวนมิสกวัน

หึ่ง “ลูกประดู่” ต้านเครื่องดำน้ำจีน

พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ฝ่ายเทคนิค กรมอู่ทหารเรือ ได้ส่งผลสรุปการศึกษาข้อดีข้อเสียของเครื่องยนต์เรือดำน้ำรุ่น CHD 620 ของจีน ที่เสนอทดแทนเครื่องยนต์เรือดำน้ำรุ่น MTU 396 ของเยอรมนี ให้ พล.ร.อ.เถลิงศักดิ์ ศิริสวัสดิ์ เสนาธิการทหารเรือแล้ว เพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการโครงการจัดหาเรือดำน้ำพิจารณาหาข้อสรุป ส่วนกระแสข่าวที่มีทหารในกรมอู่ทหารเรือไม่สบายใจที่จะใช้เครื่องยนต์ของจีนนั้น ตนยังไม่ทราบและไม่สามารถตอบได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกระแสข่าวสะพัดออกมาว่า กำลังพลและนายทหารสังกัดกรมอู่ทหารเรือส่วนใหญ่รู้สึกลำบากใจและไม่เห็นด้วยให้ใช้เครื่องยนต์ CHD 620 ของจีน เพราะเป็นเครื่องต้นแบบที่ยังไม่เคยใช้งานในเรือดำน้ำจีนมาก่อน ไทย
อาจเป็นหนูทดลองประเทศแรกให้กับจีน ถ้าเกิดปัญหาขึ้นมา กรมอู่ทหารเรือต้องเป็นผู้รับผิดชอบหรือไม่ และทหารเรือส่วนใหญ่คุ้นชินกับเครื่องยนต์ของเยอรมนีมากกว่า มีรายงานด้วยว่า พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ทร. จะส่งเรื่องให้ พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ว่าที่ ผบ.ทร.คนใหม่ตัดสินใจต่อไป