ศาลรัฐธรรมนูญประชุมนัดพิเศษ 8 ก.ย. พิจารณาวาระร้อน 8 ปี “นายกฯตู่” จับตา หยิบคำร้องคุณสมบัติ “นิพนธ์” มาลุยต่อหรือยุติ หลัง “มท.2” ชิงไขก๊อกทิ้งเก้าอี้ เดินขึ้นศาลทุจริตสู้คดีนายก อบจ.สงขลา อ้างไม่ขอใช้ตำแหน่งหน้าที่และเบียดบังเวลาราชการมาสู้คดีตัวเอง หัวชนฝารักษาเงินแผ่นดิน ไม่ใช่ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ คน ปชป.ตีปี๊บโชว์สปิริตมาตรฐานพรรค เผย 5 แคนดิเดตขยับทึ้งเก้าอี้ว่าง “ชินวรณ์” รีบตีกันโควตาภาคใต้ใครอย่าแตะ “บิ๊กป้อม” ติ๊ดชึ่งรอ “บิ๊กตู่” มาปรับ ครม.เองถ้าได้อยู่ต่อ ยกคณะลุยกระบี่ติดตามแก้ปัญหาสวนปาล์ม-โครงการส่งน้ำ ยิ้มร่าแม่ครูมโนราห์ขับกลอนอวยพรให้สมปรารถนา “ชัยวุฒิ” โต้ หน.พปชร.ไม่ได้นั่งหลับ ปัดกีดกัน ส.ส.พื้นที่ร่วมวง “ธีรัจชัย” ราวีไม่เลิกนาฬิกายืมเพื่อน กมธ.ป.ป.ช.สาวพบหลักฐานใหม่จี้ ป.ป.ช.ฟื้นคดี
ประเด็นร้อนวาระการดำรงตำแหน่งครบ 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประเด็นจุดเปลี่ยนทางการเมือง ล่าสุดตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุมนัดพิเศษในวันที่ 8 ก.ย.เพื่อพิจารณาคำร้องของประธานสภาฯ ที่ขอให้วินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯของ พล.อ.ประยุทธ์ครบ 8 ปีแล้วหรือไม่
...
ศาล รธน.ถกพิเศษ 8 ก.ย. 8 ปี “บิ๊กตู่”
เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลรัฐธรรมนูญว่า ในวันที่ 8 ก.ย.ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้เรียกประชุมนัดพิเศษเพื่อพิจารณาคำร้องของประธานสภาฯ ที่ขอให้วินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่ง นายกฯของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ครบ 8 ปีแล้วหรือไม่ โดยการประชุมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 8 ก.ย. ถือเป็นวาระพิเศษ เนื่องจากไม่ได้มีวาระนัดประชุมในวันดังกล่าวมาก่อน แต่เดิมมีแค่การนัดประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวันที่ 14 ก.ย.ที่นัดลงมติวินิจฉัยสถานะความเป็นรัฐมนตรีของนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีต รมช.มหาดไทย
อภิปรายคำชี้แจงสิ้นสงสัยหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สาเหตุที่มีการประชุมวาระพิเศษ เนื่องจากนายวรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ แจ้งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่เหลือว่าได้รับคำชี้แจงของพยานฝ่าย พล.อ.ประยุทธ์ อาทิ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขากรธ. เป็นต้น เรียบร้อยแล้ว จึงนัดประชุมวันดังกล่าว เพื่อที่จะอภิปรายคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของ พล.อ.ประยุทธ์ รวมถึงพิจารณาพยานหลักฐานต่างๆว่าสิ้นข้อสงสัย เพียงพอจะนัดลงมติวินิจฉัยได้หรือไม่ หากพบว่ายังไม่สิ้นข้อสงสัยต้องแสวงหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมต่อไป แต่หากสิ้นข้อสงสัยจะต้องนัดลงมติวินิจฉัย เป็นไปตามระเบียบวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ โดยต้องทอดเวลาออกไปอีกอย่างน้อย 15 วัน เพื่อนัดลงมติวินิจฉัยคดีนี้
อาจพิจารณาคดี “นิพนธ์” ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 8 ก.ย.ที่ประชุมอาจมีการหยิบยกคำร้องกรณีประธานรัฐสภาส่งคำร้องขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 177 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย สิ้นสุดลงเป็นการเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (6) และมาตรา 98 หรือไม่ เนื่องจากผู้ถูกร้องเคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ ทำให้เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ขึ้นมาพิจารณาด้วยว่า จะต้องพิจารณาวินิจฉัยต่อ หรือสั่งให้ยุติคดี เนื่องจากนายนิพนธ์ได้ยื่นลาออกตำแหน่ง รมช.มหาดไทย มีผลเมื่อวันที่ 5 ก.ย.
“นิพนธ์” ไขก๊อก รมช.มท.สู้คดี อบจ.
เมื่อเวลา 09.40 น. นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย พร้อมทนายความและคณะเดินทางมาที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถนนเลียบทางรถไฟตลิ่งชัน หลัง ป.ป.ช.มีมติฟ้องคดีอาญาฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่กรณีไม่เบิกจ่ายเงินค่าซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ ให้แก่บริษัทผู้ชนะการประมูลเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา โดยนายนิพนธ์เปิดเผยก่อนเดินทางเข้าไปภายในศาลว่า ได้ชี้แจงมาแต่ต้นแล้วว่าพร้อมจะมาสู้ที่ศาล เมื่อช่วงเช้าได้นำเรียนนายกฯว่าจะลาออกจากตำแหน่ง นายกฯได้ให้กำลังใจที่ตัดสินใจแบบนี้ เบื้องต้นทราบว่าการลาออกจะมีผลวันที่ 5 ก.ย. ขณะที่เมื่อคืนวันที่ 4 ก.ย.ได้นำเรียนหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แล้วเช่นกัน
ไม่ขอใช้ตำแหน่ง รมต.-เวลาราชการ
“เหตุผลที่ต้องลาออกเพราะไม่อยากใช้เวลาราชการมาสู้คดี ขอต่อสู้ให้เต็มที่ ยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรผิด ก่อนหน้านี้มีสาเหตุที่ไม่ชำระค่ารถ เนื่องจากจังหวัดมีหนังสือแจ้งมาว่าเป็นการฮั้ว แล้วจะจ่ายเงินให้พวกฮั้วได้อย่างไร มาศาลครั้งแรกนี้เท่ากับว่าต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จึงต้องลาออก นอกจากไม่อยากเบียดบังเวลาราชการแล้วไม่อยากใช้ตำแหน่งหน้าที่มาสู้คดี ยืนยันอีกครั้งว่าที่ผ่านมาทำหน้าที่เพื่อรักษาผลประโยชน์ของแผ่นดิน ส่วนพรรคจะมีการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีอย่างไร หลังจากนี้เป็นเรื่องภายในพรรค” นายนิพนธ์กล่าว
ย้ำฮั้วรถบำรุงทางฯจ่ายเงินให้ไม่ได้
ต่อมาเวลา 09.50 น. นายนิพนธ์โพสต์เฟซบุ๊กว่า กราบเรียนพี่น้องประชาชนที่เคารพรักตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาผมได้อธิบายมาโดยตลอดทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายถึงสาเหตุที่ไม่สามารถอนุมัติจ่ายเงินให้แก่ผู้ชนะการประมูลในการจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทางของ อบจ.สงขลาได้ เนื่องจากตรวจพบว่าผู้เข้าร่วมการประมูล และบริษัทคู่เทียบ ได้ทำการปลอมเอกสารและฮั้วประมูลเป็นเหตุให้ อบจ.สงขลาได้รับความเสียหาย บัดนี้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 ได้ออกหมายจับผู้เข้าร่วมประมูลทุกราย รวมถึงผู้ชนะการประมูลและบริษัทในเครือ อีกทั้งผู้ต้องหาส่วนใหญ่ได้เดินทางหลบหนีออกนอกประเทศเกือบทั้งหมดแล้ว ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกจับได้ขณะหลบหนี อัยการได้ส่งฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 แล้ว
ยันรักษาเงินแผ่นดิน ไม่ใช่ละเว้นฯ
“วันนี้พร้อมจะสู้คดีในศาลเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าการที่ไม่อนุมัติจ่ายเงินให้บริษัทที่ชนะการประมูลนั้น เป็นการรักษาผลประโยชน์ของแผ่นดิน มิใช่เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามที่คณะกรรมการป.ป.ช.กล่าวหาผม หากแม้จะย้อนเวลากลับไปได้ ยังยืนยันที่จะไม่อนุมัติจ่ายเงินภาษีประชาชนให้กับพวกทำผิดกฎหมายเช่นเดิม บัดนี้คดีได้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลยุติธรรมแล้วไม่มีความประสงค์จะใช้ตำแหน่งรัฐมนตรีและเวลาราชการเพื่อต่อสู้คดีแต่อย่างใด ดังนั้นจึงได้ทำหนังสือกราบเรียนท่านนายกฯ ขอลาออกจากตำแหน่ง รมช.มหาดไทย ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย.65 เป็นต้นไป ขอกราบขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจและคำแนะนำรวมถึงสื่อมวลชนทุกสำนักที่นำเสนอข่าวอย่างเป็นธรรมและต่อเนื่องตลอดมา ขอขอบคุณข้าราชการ เจ้าหน้าที่และผู้ร่วมงานทุกท่านที่ได้ร่วมกันทำงาน ผลักดันนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนตลอดระยะเวลากว่า 3 ปีครับ” นายนิพนธ์ระบุ
ศาลประทับรับฟ้อง-ปล่อยตัวชั่วคราว
ช่วงสาย ที่ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง นายนิพนธ์เดินทางมาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง กรณี ป.ป.ช.ส่งฟ้องคดีไม่จ่ายเงินค่ารถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ตามนัด เมื่อมาถึงได้แจ้งสื่อมวลชนเรื่องการลาออกจากตำแหน่ง รมช.มหาดไทยมาต่อสู้คดี ต่อมาเวลาเที่ยง ศาลอาญาคดีทุจริตมีคำสั่งว่าพนักงานอัยการนำตัวนายนิพนธ์ บุญญามณี จำเลยมาฟ้องศาลประทับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำ อท.167/2565 ศาลสอบจำเลยแล้ว จำเลยแถลงยืนยันว่าลาออกจากตำแหน่ง รมช.มหาดไทยแล้วตามเอกสาร ในชั้นนี้ศาลจึงไม่พิจารณาสั่งให้จำเลยหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามคำร้อง ป.ป.ช. ขณะที่สอบจำเลยแล้วแถลงว่าประสงค์ต่อสู้คดี เตรียมทำคำให้การปฏิเสธพร้อมรายละเอียดในนัดหน้า โดยศาลกำหนดวันนัดพร้อมเพื่อกำหนดวันนัดพิจารณาในวันที่ 20 ต.ค. เวลา 09.30 น. จากนั้นจำเลยยื่นขอปล่อยชั่วคราว พร้อมหลักทรัพย์ 1 แสนบาท ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตามที่ขอ
“องอาจ” นำทีมมอบกำลังใจ
เมื่อเวลา 16.00 น. ที่พรรค ปชป.มีการประชุมส.ส. โดยนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคและประธาน ส.ส.พรรค ปชป.นำ ส.ส.พรรค อาทิ นายวิรัช ร่มเย็น นายทะเบียนพรรค นายมนตรี ปาน้อยนนท์ ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ นายประกอบ รัตนพันธ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช นายวุฒิพงษ์ นามบุตร ส.ส.อุบลราชธานี นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.ระยอง นายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ อดีต ส.ส.กทม.และเจ้าหน้าที่พรรค มอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจนายนิพนธ์ โดยนายองอาจกล่าวว่าขอเป็นตัวแทนชาว ปชป.ให้กำลังใจการทำงานการเมืองอย่างมีคุณภาพเพื่อชาว ปชป.ประชาชนชาวไทย เพื่อประเทศ ชาติตลอดไป ด้านนายนิพนธ์กล่าวขอบคุณทุกคน โล่งใจที่ลาออกมาสู้คดี
ยกย่องโชว์มาตรฐานพรรค
นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช รองเลขาธิการพรรค ปชป.กล่าวว่า นายนิพนธ์ได้รักษามาตรฐานการเมืองและพรรค ปชป.เพื่อพิสูจน์ตัวเองตามกระบวนการยุติธรรม เป็นนักการเมืองที่ดีรับผิดชอบ เช่นเดียวกับกรณีรัฐมนตรีของพรรคมีชื่อพัวพันทุจริตต่างๆได้แสดงสปิริตลาออก เปิดโอกาสให้ตรวจสอบข้อสงสัยได้เต็มที่และพร้อมรับผลการตัดสิน
“ชินวรณ์” ตีกันโควตาของภาคใต้
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช ให้สัมภาษณ์ว่าขอชื่นชมสปิริตนายนิพนธ์เป็นแบบอย่างของพรรค ปชป.ไม่ต้องรอให้ถึงที่สุด แสดงสปิริตลาออกให้กระบวนการเดินหน้าต่อ ขั้นตอนจะหาคนมาทดแทนกรรมการบริหารพรรคจะพิจารณาหาผู้เหมาะสมมาแทน พรรคมีหลักการชัดเจน ยังไม่ทราบว่าพรรคจะเสนอให้ปรับ ครม.ช่วงนี้หรือไม่ อยู่ที่นายกฯและผู้ใหญ่ของพรรคหาจังหวะที่เหมาะสม กรณีรัฐมนตรีว่างลงยังมีกรณีอื่นด้วย เข้าใจว่าน่าจะคุยกันระดับผู้ใหญ่ของพรรคและผู้มีอำนาจปรับ ครม.ทุกตำแหน่งมีความสำคัญที่จะมีส่วนในการบริหารแผ่นดิน คนที่ยังไม่เคยเป็นรัฐมนตรีหวังจะเป็นรัฐมนตรีเหมือนกัน จะได้เข้ามาทำงาน เงื่อนไขวันนี้เป็นเงื่อนไข พิเศษ คิดว่าผู้มีอำนาจและผู้บริหารพรรคจะได้คุยกัน ตอนนายนิพนธ์เป็นรัฐมนตรีเป็นสัดส่วนของภาคใต้ คงไม่จำเป็นต้องถึงขนาดเป็นโควตาของ จ.สงขลา แต่เป็นโควตาของภาคใต้ที่นายนิพนธ์เคยเป็น
กก.บห.ยังไม่คุยเขย่าเก้าอี้
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค ปชป.กล่าวว่า คณะกรรมการบริหารพรรคยังไม่ได้พูดคุยถึงการปรับ ครม.แทนนายนิพนธ์ พรรคมีข้อบังคับการคัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีชัดเจนอยู่แล้ว และมีบุคลากรของพรรคที่มีความรู้ความสามารถเหมาะสม ว่ากันไปตามขั้นตอนหลักการในข้อบังคับต่อไป ขอชื่นชมการตัดสินใจของนายนิพนธ์ ส่วนคดีต้องต่อสู้กันไปตามกระบวนการที่กฎหมายตรงไปตรงมา ต้องยอมรับว่าการทำหน้าที่ของนายนิพนธ์สร้างประโยชน์ให้ประชาชนมากมาย โดยเฉพาะการออกโฉนดเอกสารสิทธิที่ดินทำกินให้ประชาชน
5 แคนดิเดตขยับชิงเก้าอี้ รมต.
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรค ปชป.ว่า ทันทีที่นายนิพนธ์ลาออกทำให้เกิดแรงกระเพื่อมในพรรคทั้งระดับแกนนำและ ส.ส.ที่ต้องการขึ้นชั้นเป็น รมต. โดยโควตารัฐมนตรีเที่ยวนี้เป็นของภาคใต้ แกนนำพรรคส่วนใหญ่เห็นว่านายเดชอิศม์ ขาวทองหรือ นายกชาย รองหัวหน้าพรรคดูแลพื้นที่ภาคใต้เหมาะสมที่จะขึ้นเพื่อเสริมศักยภาพ การบริหารและสนับสนุน ส.ส.และผู้สมัคร ส.ส.ภาคใต้ ขณะที่มี ส.ส.5 สมัยหลายคนที่เข้าหลักเกณฑ์ที่จะขยับขึ้นตาม อาทิ นายประกอบ รัตนะพันธุ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง และนางกันตวรรณ ตันเถียร ส.ส.พังงา ทั้งนี้ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรี ธรรมราช ส.ส. 9 สมัย อดีต รมว.ศธ.พร้อมขอลดชั้นมานั่ง รมช.มหาดไทยที่ว่างลงด้วย
“ป้อม” รอ “ตู่” ปรับ ครม.เองถ้าอยู่ต่อ
ที่ศาลากลาง จ.กระบี่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ลาออกจากตำแหน่ง รมช.มหาดไทย จะมีการปรับ ครม.หรือไม่ โดย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “เดี๋ยวดูก่อน ผมเป็นนายกฯรักษาการ ไม่สามารถปรับ ครม.ได้ ต้องรอให้การตัดสินกรณีการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ออกมาก่อน หากนายกฯอยู่ต่อ นายกฯจะมาทำเอง” เมื่อถามย้ำว่า จะมีการปรับในส่วนของพรรค พปชร.หรือไม่ พล.อ. ประวิตรกล่าวว่า “ไม่ปรับๆ” ส่วนการลงพื้นที่เป็นไปตามที่เป็นข่าว จะลงพื้นที่ทุกวันจันทร์ต่อเนื่องตลอดทั้งเดือน ก.ย.
พปชร.ไม่ยุ่งยอ หน.คือความอบอุ่น
นายนิโรธ สุนทรเลขา ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงกรณี ส.ส.พรรค พปชร.เสนอให้รักษาราชการแทนนายกฯปรับ ครม.ว่า เท่าที่ได้ฟังนายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช พปชร.ชี้แจงว่าเป็นคำถามของผู้สื่อข่าว และนายสัณหพจน์ไม่ได้พูดถึงขนาดนั้น ส่วนนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทยลาออกเป็นเรื่องของ ปชป.ต้องเสนอปรับเปลี่ยน ครม. แต่จะเสนอใครเป็นเรื่องของ ปชป. พปชร.จะไม่ก้าวล่วงโควตารัฐมนตรีพรรคอื่น ที่ ส.ส.พปชร.ดูคึกคักเป็นพิเศษตั้งแต่ พล.อ.ประวิตร รักษาราชการแทนนายกฯ พล.อ.ประวิตรเป็นความอบอุ่นของ พปชร. สมาชิก พปชร.รู้สึกว่าได้รับความอบอุ่นจากท่านตั้งแต่ยังไม่ได้นายกฯรักษาการ พอมาทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกฯ เรารู้สึกตื่นเต้นจะดูว่าท่านทำหน้าที่ได้หรือไม่ แต่ผลปรากฎว่าทำหน้าที่นี้ได้ดี เป็นกันเองกับประชาชน
อวยครบเครื่องมือถึงบริหาร ปท.
เมื่อถามว่าประเมินศักยภาพ พล.อ.ประวิตร ทำหน้าที่นายกฯได้หรือไม่ หากเกิดอุบัติเหตุกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม นายนิโรธตอบว่า ส่วนนี้ไม่คาดเดาแต่ พล.อ.ประวิตร มีคุณสมบัติและมีความรู้ความสามารถเป็นผู้บริหารประเทศ มีประสบการณ์ทางการเมือง มีวิสัยทัศน์ทางการเมือง สรุปง่ายๆ พล.อ.ประวิตรคือนักการเมือง เมื่อถามย้ำว่าหากคุณสมบัติครบครันขนาดนี้ เป็นแคนดิเดตนายกฯเบอร์หนึ่งของ พปชร.ได้หรือไม่ นายนิโรธกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นของผู้ใหญ่ต้องคุยกัน ไม่ก้าวล่วง
“เต้น” แซะ “ลุงตู่” ดูแบบอย่าง “นิพนธ์”
ที่พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย แถลงว่า ขอเรียกร้องให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ดูตัวอย่างจากนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ที่ลาออกจากตำแหน่งเพื่อไปต่อสู้คดีในชั้นศาล อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์พิจารณาแล้วตัดสินใจ ประเทศอยู่ได้แม้ไม่มี พล.อ.ประยุทธ์ แต่ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีอำนาจ มั่นใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ดำรงตำแหน่งนายกฯ ครบ 8 ปีโดยไม่มีข้ออ้าง ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ รักษาราชการแทนนายกฯ ขยันลงพื้นที่ เดินเหินแข็งแรง ยินดีหาก พล.อ.ประวิตรมุ่งแก้ไขปัญหาให้ประชาชน อยากให้สร้างความแตกต่างจาก 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ เช่นการจัดการปัญหายาเสพติดสำคัญไม่ต่างจากเรื่องอื่นๆ นอกจากหนี้ทะลุเพดาน ยาเสพติดยังทะลุหลังคาเรือนด้วย อยากให้สร้างความแตกต่างเรื่องยาเสพติด ประกาศเป็นวาระแห่งชาติ ปัญหาไม่ใช่อยู่ที่เด็กชูสามนิ้ว แต่ชู 5 นิ้ว 5 เม็ด 100 ถูกและหาง่าย อยากให้แก้ปัญหาจริงจัง อย่าให้ประชาชนเห็นแค่ว่า พล.อ.ประวิตรแค่แข็งแรงขึ้นหลัง พล.อ.ประยุทธ์ไม่อยู่เท่านั้น
“พี่ป้อม” ลงกระบี่ ส.ส.ใต้ พปชร.แห่รับ
สำหรับความเคลื่อนไหวการลงพื้นที่ของ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกฯ เมื่อเวลา 08.00 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง พล.อ.ประวิตร เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.กระบี่ด้วยเครื่องบินกองทัพอากาศ บ.ล.18 (Superjet) 60206 ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ ต.เหนือคลอง อ.เหนือคลอง มีนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหมและคณะทำงานร่วมคณะเพื่อติดตามสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ภาคใต้ จ.กระบี่ พร้อมมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ ส.ป.ก.4-01 ติดตามสถานการณ์ปาล์มน้ำมันและพบปะเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน พบปะพูดคุยกับประชาชน ถึงที่ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ เวลา 10.00 น. มี ส.ส.ใต้ พรรค พปชร.ประกอบด้วย ส.ส.นครศรีธรรมราช นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.เขต 1 นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.เขต 2 นายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ส.ส.เขต 3 นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส. เขต 7 นายนัทธี ถิ่นสาคู ส.ส.เขต 2 ภูเก็ต นายนิพันธ์ ศศิธร ส.ส.เขต 1 ตรัง และสมาชิกพรรค พปชร.ต้อนรับ
ยิ้มร่ามโนราห์อวยพรสมปรารถนา
จากนั้น พล.อ.ประวิตรได้ชมการรำมโนราห์ที่มาแสดงต้อนรับ โดยนางแขม เครือวัลย์ เจ้าของวงมโนราห์หนูแขมประดิษฐ์ศิลป์ อายุ 82 ปี ขับกลอนมโนราห์ อวยพรให้ พล.อ.ประวิตร คิดปรารถนาสิ่งใดขอให้สมใจปอง สมปรารถนาตามที่คิด สุขภาพร่างกายแข็งแรงและประสบความสำเร็จในการทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง จากนั้น พล.อ.ประวิตรเดินทักทายประชาชนที่มาต้อนรับ ประชาชนได้มอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ พล.อ.ประวิตรมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสทักทายผู้มาต้อนรับอย่างอารมณ์ดี ตลอดภารกิจลงพื้นที่ จ.กระบี่ พล.อ.ประวิตรใช้รถโตโยต้า VELLFIRE เลขทะเบียน 2 ขฉ 5605 กรุงเทพมหานคร ชาวบ้านต่างรุมส่องนำไปเป็นเลขเด็ดแทงหวยงวดวันที่ 16 ก.ย.
ยาหอม 8 ปีตั้งใจดันราคาปาล์ม
ต่อมาเวลา 11.00 น. ที่ศาลากลาง จ.กระบี่ พล.อ.ประวิตร ประชุมติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคใต้ โดยเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) นำเสนอสถานการณ์น้ำในพื้นที่ กรมชลประทานนำเสนอแผนการดำเนินการโครงการระบบส่งน้ำพร้อมอาคารประกอบอ่างเก็บน้ำคลองแห้ง ต.กระบี่น้อย อ.เมือง ภายหลังการประชุม พล.อ.ประวิตร เยี่ยมชมนิทรรศการสินค้าพื้นบ้าน อุดหนุนผลิตภัณฑ์สินค้าพื้นบ้าน เซ็นชื่อบนเรือหัวโทงจำลอง บ้านเกาะกลาง จ.กระบี่เป็นที่ระลึก จากนั้นได้พบปะกับเกษตรกรชาวสวนปาล์ม มีตัวแทนชาวสวนปาล์มชูป้ายให้กำลังใจ อาทิ ข้อความว่า “ลุงป้อมสู้ สู้” และ “อสร.กระบี่รักลุงป้อม” พล.อ.ประวิตรกล่าวตอนหนึ่งว่า ตั้งใจมารับฟังปัญหาด้วยตัวเอง ในฐานะเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมัน (กนป.) ทำต่อเนื่องมา 8 ปี พยายามลดต้นทุนทำราคาให้ดีขึ้น ปีนี้ผลงานชัดเจนชาวสวนปาล์มจะมีรายได้ดีขึ้น ร่ำรวยกันทุกคนก็แบ่งตนบ้างแล้วกัน เราจะสร้างให้ปาล์มน้ำมันเป็นพืชเศรษฐกิจยั่งยืนระดับโลก
หยอด “บิ๊กตู่” เห็นใจอยากให้มีที่ทำกิน
จากนั้นเวลา 14.30 น. พล.อ.ประวิตรและคณะไปที่โครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร พื้นที่ดำเนินการ ส.ป.ก.บ้านสองแพรก ต.กระบี่น้อย อ.เมือง ตรวจเยี่ยมโครงการและมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ ส.ป.ก.4-01 ให้ตัวแทนชาวบ้าน 10 ราย โดย พล.อ.ประวิตรกล่าวตอนหนึ่งว่า ได้เห็นความอยู่ดีกินดีตนก็ดีใจ รัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญแบ่งปันพื้นที่ทำกินให้ประชาชนทุกคน เป็นนโยบายหลัก รัฐบาลชุดนี้ห่วงใยเห็นถึงความทุกข์ประชาชน โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เห็นใจประชาชนทุกคนให้มีที่ทำกินเพื่อให้อยู่ดีกินดี ขอให้ ส.ป.ก.จ.กระบี่เร่งพัฒนาโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรและที่ดินทำกินให้สำเร็จโดยเร็ว 3 ปีที่ผ่านมา ดูแลน้ำดีที่สุด ไม่มีพื้นที่ใดประกาศเป็นพื้นที่ภัยแล้ง ขอให้ทุกคนสุขภาพแข็งแรง ถ้าไม่มีแรง ใช้ใจเรานี่แหละบันดาลแรง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งมีชาวบ้านให้กำลังใจบอกให้สู้ๆ พล.อ.ประวิตร จึงตอบกลับอย่างอารมณ์ดีว่า “สู้ไม่ไหวแล้ว สู้ด้วยใจ อายุ 78 ปีแล้ว” ประชาชนได้ขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึก พล.อ.ประวิตรตอบรับว่า “ได้ครับ” แล้วให้ประชาชนถ่ายเซลฟี่อย่างเป็นกันเอง และย้ำว่าที่ดิน ส.ป.ก.มีไว้ให้ประชาชนทุกคน ขณะที่ชาวบ้านบางส่วนถือป้ายให้กำลังใจ “เลิฟลุงป้อม” และ “เรารัก พล.อ.ประวิตร”
ฝากชาวบ้านเลือกรัฐบาลที่ดี
ต่อมาเวลา 15.25 น. ที่ ต.กระบี่น้อย อ.เมือง พล.อ.ประวิตร ตรวจเยี่ยมโครงการระบบส่งน้ำพร้อมอาคารประกอบอ่างเก็บน้ำคลองแห้ง จ.กระบี่ ชมการแสดงเต้นบาสโลบออกกำลังกาย จากนั้นกล่าวกับประชาชนว่า ขอบคุณที่มาต้อนรับอบอุ่น ยินดีได้มาพบปะชาวกระบี่ได้มาเห็นอ่างเก็บน้ำคลองแห้ง ที่เราได้ทำกันมาเพื่อประชาชนได้อยู่ดีกินดีและมีรายได้เพิ่มมากขึ้น เป็นความต้องการของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ มาตลอด และฝากให้ใช้อย่างประหยัดไม่ใช่เททิ้งเทขว้าง จะให้กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมเก็บน้ำไว้บนดินและใต้ดินในห้วงฤดูฝนนี้เพื่อเก็บน้ำไว้ใช้ฤดูแล้ง ทำมาแล้ว 3 ปีไม่มีพื้นที่ไหนในประเทศไทยเกิดแล้งขึ้น ถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควร 3 ปีแล้วไม่มีแล้งเลย เราจะทำแบบนี้ต่อไป “รัฐบาลจะยั่งยืน มั่นคง ต่อไปได้ต้องอาศัยประชาชน หากประชาชนเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รัฐบาลจะมั่นคงยั่งยืน จึงขอให้เลือกรัฐบาลที่ดีๆ ถ้าเลือกรัฐบาลดี เราก็มีที่อยู่ที่อาศัยที่ทำกิน” จากนั้น พล.อ.ประวิตรเดินทักทายประชาชน ร่วมถ่ายภาพเซลฟี่ก่อนเดินทางกลับ กทม.
ปัดกีดกัน ส.ส.ป้อง หน.ไม่ได้นั่งหลับ
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) รองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวถึงกรณีสื่อโซเชียลเผยแพร่ภาพ พล.อ.ประวิตร เหมือนหลับขณะประชุมมอบนโยบายที่ จ.กระบี่ว่า ตอนนั่งอยู่ในห้องประชุมเป็นประธานนั่งรับรายงาน มีการโต้ตอบนั่งคุยตลอดเวลาไม่ได้หลับ อาจเป็นภาพบางช่วงกะพริบตา อย่าจับผิดกันมากเลย ไม่ดีหรอก ส่วนที่ 2 ส.ส.ภาคใต้ พรรค ปชป.ระบุเจ้าหน้าที่กันไม่ให้เข้าร่วมประชุมสรุปแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ระหว่างลงพื้นที่ จ.กระบี่ของ พล.อ. ประวิตรไม่ทราบเหตุการณ์ แต่โดยหลักการเวลาประชุมต่างๆจะเชิญหัวหน้าส่วนราชการ ตัวแทนประชาชน รวมทั้ง ส.ส. ส.จ.หรือคนอื่นๆ ขึ้นอยู่กับจังหวัดเชิญไม่เกี่ยวกับคณะ เชื่อว่ามีการเชิญ ส.ส.ในพื้นที่ไม่ปิดกั้น ไม่ใช่นโยบายของ พล.อ.ประวิตร อยู่แล้ว ไม่ว่าประชุมที่ไหนเชิญทั้งคนเกี่ยวข้องต้องให้เข้าร่วมทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาลและ ส.ส. อาจเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน
เลขาฯ ป.ป.ช.ชี้ไขก๊อกไม่ส่งผลคดี
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวว่า นายนิพนธ์ บุญญามณี ลาออกจากตำแหน่ง รมช.มหาดไทย ไม่ส่งผลในการสู้คดี คดีดำเนินไปตามปกติ เป็นเรื่องกระบวนการของศาล ไม่มีผลใดๆ ในส่วน ป.ป.ช.ไม่มีอะไรกระทบ ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่ศาลรับฟัง เป็นเรื่องของนายนิพนธ์เองไม่ได้เกี่ยวกับ ป.ป.ช. ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ถูกกล่าวหามีทนายความเป็นถึงอดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญหนักใจหรือไม่ นายนิวัติไชยตอบว่า ไม่หนักใจ อยู่ที่ข้อเท็จจริงที่ศาลวินิจฉัยมากกว่า คงไม่เกี่ยวข้องว่าใครเป็นผู้ว่าคดีให้
ครอบครัว พท.ขึ้นเชียงใหม่สะบัดชัย
ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า วันที่ 9-11 ก.ย. จะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ที่ครอบครัวเพื่อไทยจะเดินทางไป จ.เชียงใหม่ บ้านเกิดของนายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ภายใต้ชื่อ “สะบัดชัย เพื่อไทยมาเหนือ” แกนนำครอบครัวเพื่อไทยและพรรคเพื่อไทยจะไปพบเกษตรกรและเยี่ยมชมการใช้เทคโนโลยีพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงลงพื้นที่บริเวณกาดหลวง และพูดคุยปราศรัยที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่ จะมีผู้บริหารท้องถิ่นที่ทำงานร่วมกับพรรคทั้งใน จ.เชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงมาผนึกกำลังให้ประชาชนได้เห็นว่าเรามีเอกภาพให้ได้แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน เชื่อมั่นว่าพรรค พท.จะเป็นทางออกจากวิกฤติของประเทศ โดยนโยบายและศักยภาพการบริหารมั่นใจว่าการเลือกตั้งคือความหวังของประชาชน และพรรคจะกลับมาหลังเลือกตั้ง เพื่อเดินหน้านโยบายที่เคยประกาศไว้ นโยบายหลักจะเปิดหลังยุบสภา ยืนยันว่าหลังมีการประกาศนโยบายจะจุดประกายและสร้างความหวังให้คนไทย เพื่อให้แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน
“นิโรธ” เชื่อตัดอำนาจวุฒิสภายาก
อีกเรื่องที่ทำเนียบรัฐบาล นายนิโรธ สุนทรเลขา ประธานวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ. .... แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 272 เกี่ยวกับการตัดอำนาจ ส.ว.โหวตเลือกนายกฯ ที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย กับประชาชนเสนอว่า การประชุมวันที่ 6 ก.ย. คิดว่าจะไม่มีปัญหาอะไร เมื่อถามว่าประเมินแล้วน่าจะผ่านยากหรือไม่ นายนิโรธกล่าวว่า ต้องดูเนื้อหาสาระอีกครั้ง แต่เมื่อดูแล้วเป็นเรื่องที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ การจะไปแก้ในหลักการคิดว่าคงทำได้ยาก ต้องใช้เสียงของ ส.ว.ด้วย แต่ไม่มีสัญญาณสกัดไม่ให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านไปได้แต่ประเมินแล้วคงจะไม่ได้คะแนนจาก ส.ว. เพราะไปแก้อำนาจเขา แต่มี ส.ว.บางคนจะพิจารณา
พท.รับลุ้นลำบากปิดสวิตช์ ส.ว.
ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า การประชุมร่วมรัฐสภาวันที่ 6-7 ก.ย. จะพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เสนอโดยหลายฝ่าย มี 5 ฉบับ ได้แก่ 1.ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมมาตรา 272 ของนายสมชัย ศรีสุทธิยากร 2.ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมมาตรา 120 เรื่ององค์ประชุมในการประชุมสภาฯ โดยนายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย อีก 3 ฉบับ เสนอโดยพรรค พท. ได้แก่ 1.ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม มาตรา 43 เรื่องสิทธิประชาชน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว กับคณะเป็นผู้เสนอ 2.ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มมาตรา 25 วรรคห้า เรื่องสิทธิเสรีภาพประชาชน นพ.ชลน่านเป็นผู้เสนอ 3.ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม มาตรา 159 วรรคหนึ่ง และมาตรา 170 เกี่ยวกับที่มานายกฯจากการเลือกโดย ส.ส.และตัดอำนาจ ส.ว.ร่วมเลือกนายกฯ นพ.ชลน่านกับคณะเสนอ ทั้ง 5 ฉบับจะอภิปรายพร้อมกันแต่ลงมติแยกทีละฉบับ ประชุมถึงเวลา 24.00 น. พูดตามหลักคงยากที่ ส.ว.จะตัดอำนาจตัวเอง แต่หวังว่า ส.ว.อาจคิดได้ว่าจวนจะหมดวาระแล้ว มี ส.ว.ไม่น้อยที่เห็นควรตัดอำนาจข้อนี้ ทำให้มีความหวังมากขึ้น
กระตุกต้องกล้าโหวต อย่าชิ่งหนี
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะผู้ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 60 ให้ยกเลิกมาตรา 272 ส.ว.ร่วมลงมติเลือกนายกฯ กล่าวว่า เชื่อว่า ส.ส.จะสนับสนุน แต่ ส.ว.ยังประเมินยาก ต้องพิจารณาสัญญาณที่ผู้ใหญ่ส่งมา ที่ ส.ว.บางรายยืนยันไม่ยอมให้แก้ไข ส.ว.ที่ไม่สนับสนุนต้องระบุทำนองนั้น แต่การตัดสินใจต้องสู้กันในสภาฯผ่านการอภิปรายชี้แจงเหตุผลอีกครั้ง ส.ว.ต้องกล้าโหวตรับหรือไม่รับ ไม่ใช่งดออกเสียงหรือไม่มาประชุม การพิจารณาโละอำนาจ ส.ว.เลือกนายกฯมีมาหลายครั้ง ได้คะแนนแตกต่างกัน จำได้ว่า ส.ว.ที่โหวตเห็นด้วยสูงสุด 56 คน แต่หลายครั้งที่ผ่านมาเสนอแก้ไขหลายประเด็นในร่างเดียวทำให้ไม่ผ่าน แต่รอบนี้เสนอแก้ไขประเด็นเดียว ยังประเมินไม่ถูกจะได้คะแนนมากขึ้นหรือไม่ ปัญหา ส.ว.ตอนนี้คือไม่มาประชุม ที่ผ่านมามี ส.ว.ประชุมเฉลี่ย 150 คน จาก 250 คน เมื่อไม่มาประชุมเสียงจะหายไป ขอให้รัฐสภาเป็นเวทีถกเถียงจริงจัง ฟังเหตุผลแต่ละฝ่าย ไม่ใช่ยกมือตามคำสั่งวิปแต่ละฝ่าย ไม่เกิดประโยชน์ ผลเป็นอย่างไรยอมรับได้ ไม่ใช่ไม่อยู่ฟังในห้องประชุมอยู่ไม่กี่คน หรือยกมือตามกัน สะท้อนสภาฯไม่ได้เป็นความหวังแก้ปัญหา
แบ่งเวลาอภิปรายร่างแก้ รธน. 5 ฉบับ
เมื่อเวลา 15.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมวิป 3 ฝ่ายพิจารณากรอบเวลาประชุมร่วมรัฐสภาวันที่ 6-7 ก.ย.พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 5 ฉบับ นายสมชาย แสวงการ ส.ว. ในฐานะเลขานุการ กมธ.วิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) กล่าวว่า วันที่ 6 ก.ย.จะเริ่มพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า และเรื่องด่วนความตกลงพหุภาคีระหว่างเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจในการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการเงินแบบอัตโนมัติ จะพิจารณาแล้วเสร็จก่อนเวลา 12.00 น. จึงเข้าสู่วาระพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 5 ฉบับ มติวิป 3 ฝ่ายให้เวลาผู้เสนอร่างทั้ง 5 ฉบับ 2 ชั่วโมง ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้านและ ส.ว.ฝ่ายละ 6 ชั่วโมง และประธานในที่ประชุม 1 ชม. จากนั้นวันที่ 7 ก.ย. เริ่มเวลา 09.00 น. ไม่เกิน 19.00 น.จะโหวตได้ การนับคะแนนใช้วิธีขานชื่อรายบุคคล ใช้คะแนนเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภาโดยต้องมี ส.ว. 1 ใน 3 ให้ความเห็นชอบด้วย คาดว่าจะเสร็จสิ้นก่อนเวลา 22.00 น. อยากให้ ส.ส. และ ส.ว. รักษาบรรยากาศให้ราบรื่น ส่วนความกังวลองค์ประชุม ส.ว.แต่ละคนรับผิดชอบอยู่แล้ว การโหวตไม่มีผู้ใหญ่ กำนัน อบต.อะไรทั้งนั้น มีหลายประเด็น มีเรื่องไม่เกี่ยวกับ ส.ว.ด้วย แต่ละคนจึงมีเอกสิทธิ์การโหวต ไม่มีใครสั่งใครได้
โต้ ส.ว.ไม่มีปัญหาองค์ประชุม
นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว. กล่าวว่า พร้อมเข้าร่วมเป็นองค์ประชุมรัฐสภา ผู้เสนอร่างเป็นห่วงองค์ประชุมในส่วนของ ส.ว. ไม่เคยได้ยินว่าจะมีอะไรทำนองนั้น ส.ว.ไม่มีพรรค จึงไม่มีการหารือกันชัดเจน ยืนยันไม่มีการชี้นำว่า ส.ว.จะลงมติอย่างไร ไม่มีการรอสัญญาณอะไร ใช้วิจารณญาณแต่ละบุคคลรับฟังความเห็นของผู้เสนอร่างก่อนว่าเป็นอย่างไร
กมธ.ป.ป.ช.พบนาฬิกาเพื่อนล่องหน
ที่รัฐสภา นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) โฆษกคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบหรือ กมธ.ป.ป.ช. สภาฯ แถลงถึงความคืบหน้ากรณีตรวจสอบนาฬิกายืมเพื่อนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ว่า กมธ.ป.ป.ช. สงสัยว่า ป.ป.ช.ตรวจสอบให้สิ้นกระแสความก่อนจะยุติเรื่องแล้วหรือไม่ อาทิ ไม่ตรวจสอบเชิงลึกเรื่องการจัดการมรดกของนายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ ที่อ้างว่าเป็นเพื่อน ยืมนาฬิกามา หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตนนำมาตรวจสอบใน กมธ.อีกครั้งพบว่านายปัฐวาท เสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 ก.พ.60 ต่อมาทายาทร้องขอจัดการมรดกเมื่อวันที่ 10 เม.ย.60 ศาลสั่งให้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกฯ เป็นผู้จัดการมรดก เมื่อ กมธ.ป.ป.ช.ได้เอกสารทั้งหมดมาตรวจสอบ พบว่า บัญชีทรัพย์สินที่ทายาทของนายปัฐวาทยื่นประกอบขอให้ศาลแต่งตั้งผู้จัดการมรดก ไม่ปรากฏว่ามีนาฬิกาหรูสักเรือนเดียว
อ้างมีหลักฐานใหม่จี้ ป.ป.ช.ฟื้นคดี
นายธีรัจชัยกล่าวว่า ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช.มาตรา 54 บัญญัติว่า ห้ามมิให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.รับหรือยกเรื่องที่มีข้อกล่าวหาหรือประเด็นเกี่ยวกับเรื่องที่ ป.ป.ช.วินิจฉัยเสร็จเด็ดขาดแล้วขึ้นพิจารณา เว้นแต่มีพยานหลักฐานใหม่ อันเป็นสาระสำคัญแก่คดีที่อาจทำให้ผลคำวินิจฉัยของ ป.ป.ช.เปลี่ยน แปลงไป หลักฐานที่ กมธ.ป.ป.ช.พบเข้าองค์ประกอบเป็นหลักฐานใหม่ จึงเรียกร้องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.หยิบปมนี้มาพิจารณาใหม่อีกครั้ง อย่าให้มีครหาเลย วันที่ 7 ก.ย.กมธ.ป.ป.ช.จะเชิญ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ผู้จัดการมรดกมาให้ข้อมูล
“ศรีฯ”ยื่น กกต.สอบ“สุวัจน์-กรณ์”
เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ กกต.นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรม นูญไทย ให้สัมภาษณ์ระหว่างเข้ายื่นคำร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไต่สวนสอบสวนนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) และนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ที่ร่วมกันแถลงข่าวจับมือทางการเมืองเมื่อวันที่ 2 ก.ย.ว่า การแถลงว่านายกรณ์เข้ามาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจและอาจเป็นหัวหน้าพรรค ชพน.ในอนาคต การที่ประธานพรรค ชพน.ยินยอมให้นายกรณ์ที่ยังมิได้ลาออกจากสมาชิกและหัวหน้าพรรคกล้าก่อนนั้น ชี้ให้เห็นว่าพรรค ชพน.อาจเข้าข่ายยินยอมหรือกระทำการใดอันทำให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำหรือชี้นำ กิจกรรมของพรรคการเมืองตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมืองหรือไม่ หาก กกต.วินิจฉัยว่าผิดจริง เป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต.ต้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งยุบพรรค
ใช้สลิปโอนเงินมัดคอ ส.ส.รับกล้วย
ต่อมานายศรีสุวรรณได้เข้าให้ถ้อยคำประกอบคำร้องกรณียื่นร้องเรียนให้ไต่สวนสอบสวนเอาผิด ส.ส.พรรคเล็กรับเงินนอกเหนือจากเงินเดือนไปเมื่อวันที่ 1 ส.ค.65 โดยนายศรีสุวรรณกล่าวว่า นำหลักฐานสลิปโอนเงินและรับเงิน ทั้งจากเอทีเอ็มและโอนผ่านมือถือ ปรากฏชื่อชัดเจนทั้งคนโอนและคนรับเงิน กกต.มีอำนาจเเจ้งไปยังสถาบันการเงินให้ยืนยันการทำธุรกรรมทางการเงินว่าเป็นไปตามพยานหลักฐานที่ร้องหรือไม่ เกี่ยวข้อง ส.ส.พรรคเล็ก 6 คน โอนเงินรับเป็นรายเดือนตั้งแต่ปี 62-ก.ค.65 ถ้าสุดท้าย กกต.วินิจฉัยส่งศาล ไม่ว่าจะไปอยู่พรรคไหนแล้วแต่ หนาวกันทั้งขบวนการแน่นอน