“อนุชา” จับมือ “สมศักดิ์” เปิดโครงการเลี้ยงโค นำร่องพื้นที่สุโขทัย 1,000 ครัวเรือน เชื่อมั่นขจัดหนี้สิน ขจัดความยากจนได้ ส่วนเรื่องการตลาดขออย่ากังวล รัฐบาลพร้อมกับกองทุนหมู่บ้านจะช่วยจัดหา
วันที่ 14 สิงหาคม 2565 ที่ จ.สุโขทัย นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ลงพื้นที่ จ.สุโขทัย เปิด โครงการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงโค เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ภายใต้การดำเนินงานของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง พื้นที่ต้นแบบ จังหวัดสุโขทัย ระยะที่ 1
นายอนุชา กล่าวว่า คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (บอร์ด กทบ.) ได้อนุมัติโครงการเลี้ยงโคฯ ให้กับกองทุนหมู่บ้านฯ จังหวัดสุโขทัย เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2565 และตนเองได้มาพบพี่น้องกองทุนหมู่บ้านฯ จ.สุโขทัย เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2565 ซึ่งวันนั้นได้ย้ำว่า “อีก ไม่เกิน 3 ปี พี่น้องกองทุนหมู่บ้านฯ จะได้จับเงินแสน ไม่ใช่ความฝัน แต่เป็นเรื่องจริง ขอแค่พี่น้องต้องทำจริง เพราะเราอยากเห็นพี่น้องกองทุนหมู่บ้านฯ ปลดหนี้สินได้ อยากเห็นพี่น้อง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นไม่ต้องยากจนอีกต่อไปแล้ว” วันนี้โครงการเลี้ยงโคฯ มีความคืบหน้าเป็นรูปธรรมแล้ว โดยจะเป็นโครงการนำร่อง ที่สร้างงาน สร้างรายได้ สร้างอาชีพให้สมาชิก เพราะเมื่อมีรายได้ ก็ลดภาระค่าใช้จ่าย ความยากจนก็หมดไป เศรษฐกิจของประเทศก็ดีขึ้น ขอเพียงสมาชิก มีวินัย รักอาชีพการเลี้ยงโค และคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านฯ จะต้องติดตามถามไถ่ทุกข์สุขคอยให้ความช่วยเหลือสร้างองค์ความรู้ให้กับสมาชิก พร้อมกล่าวย้ำว่า ต้องการช่วยเหลือเกษตรกร ทำให้มีรายได้และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมถึงสนับสนุนให้เกษตรกรมีส่วนร่วมในการรวมกลุ่ม สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน เพื่อสร้างความมั่นคงในครัวเรือน สำหรับข้อกังวลเรื่องตลาด นายอนุชาให้ความมั่นใจว่า รัฐบาลพร้อมกับกองทุนหมู่บ้านจะช่วยจัดหา สนับสนุนช่องทางการตลาด ขอให้ผู้เลี้ยงโคอย่าเป็นกังวล ที่สำคัญต้องรักษาคุณภาพเนื้อให้ได้ตามที่ตลาดต้องการ กองทุนฯ จะไม่ทิ้งให้ประชาชนแบกรับภาระอย่างแน่นอน
...
ทางด้านนายสมศักดิ์ กล่าวว่า โครงการฯ ระยะที่ 1 นี้ ในปีที่ 1-2 สมาชิกที่ได้รับการพิจารณา ไม่ต้องเสียค่าบริหารจัดการใด ๆ คือ ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยอะไร ในปีที่ 1-ปีที่ 2 และในปีที่ 3-5 สมาชิกจะต้องเสียค่าบริหารจัดการ ร้อยละ 2 บาท ซึ่งถือว่าเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมาก สำหรับมูลค่าหรือทรัพย์สินที่เกิดจากโครงการฯ ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด ถ้าทำดีๆ โอกาสในการปลดหนี้สินของสมาชิกอยู่แค่เอื้อมมือ ขอแค่มีความอดทน วันนี้เป็นการนำร่องในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย จำนวน 1,000 ครัวเรือน ระยะเวลาดำเนินโครงการ 5 ปี ถ้าพี่น้องกองทุนหมู่บ้านฯ ทำได้ดี ระยะที่ 2 ระยะที่ 3 ก็จะลงมาสู่กองทุนหมู่บ้าน แน่นอน ไม่ใช่เฉพาะที่สุโขทัยเท่านั้น แต่จะขยายไปยังทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพราะรัฐบาลเชื่อว่าโครงการนี้ จะเป็นอีกหนึ่งโครงการทางเลือก ในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับครอบครัว และแก้ไขปัญหาหนี้สินต่างๆ ได้ คุณภาพชีวิตของประชาชนก็จะดีขึ้น
นายอนุชา กล่าวว่า เชื่อมั่นว่า สมาชิกที่เข้าร่วมโครงการนี้ จะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เป็นอีกหนึ่งช่องทางทำกินที่สามารถขจัดหนี้สิน ขจัดความยากจนได้ ฝากให้กองทุนหมู่บ้าน หน่วยงานในจังหวัด พี่น้องเครือข่ายกองทุนหมู่บ้าน (ทุกระดับ) และคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน โดยเฉพาะคณะทำงานโครงการโคฯ ที่จัดการดูแลโครงการนี้ ขอให้ช่วยกันดูแลสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตามที่รัฐบาลได้มุ่งหวังเอาไว้