โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ เร่งผลักดันความมั่นคงด้านพลังงาน ส่งเสริมหน่วยงานเกี่ยวข้องขับเคลื่อนการสำรวจแหล่งพลังงานในอ่าวไทย เพื่อสร้างรายได้ เพิ่มจ้างงาน โดยยึดมั่นผลประโยชน์ต่อประชาชนเป็นสำคัญ

วันที่ 10 มิ.ย. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งส่งเสริมและเร่งรัดการสำรวจและพัฒนาแหล่งเชื้อเพลิงธรรมชาติในประเทศ ผ่านความร่วมมือกับบริษัทผู้ประกอบการด้านปิโตรเลียม เพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานของไทย และขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพิ่มการจ้างงาน สร้างรายได้ให้ประเทศ พร้อมยึดมั่นในผลประโยชน์ต่อประชาชน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับประเด็นความมั่นคงด้านพลังงาน ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ราคาพลังงาน และปัจจัยต่างๆ จากภายนอกประเทศ เป็นผลกระทบ และความท้าทายสำคัญ ซึ่งประเทศไทยแม้จะไม่ใช่แหล่งผลิตพลังงานขนาดใหญ่ แต่ก็มีแหล่งพลังงานที่รอการสำรวจ หลังจากที่ไม่ได้เปิดให้ทำการสำรวจมานานถึง 15 ปี โดยเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา กระทรวงพลังงาน ได้ลงนามในประกาศเชิญชวนให้ยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม รอบที่ 24 บริเวณอ่าวไทย จำนวน 3 แปลง เพื่อเปิดการขยายช่องทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ รวมไปถึงการต่อยอดด้านการลงทุน โดยภาครัฐเอง จะมีส่วนร่วมในการอนุมัติแผนงานต่างๆ รวมไปถึงงบลงทุน ตลอดจนการดำเนินการในขั้นตอนต่างๆ ร่วมกับผู้ได้สัญญา

นายธนกร กล่าวเพิ่มเติมว่า การเปิดให้ยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมครั้งนี้ จะส่งผลดีต่อภาคเศรษฐกิจและภาคการลงทุนในอุตสาหกรรมปิโตรเลียมเบื้องต้นกว่า 1,500 ล้านบาท และคาดว่า จะสามารถพัฒนาต่อให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมปิโตรเลียมเพิ่มขึ้นเป็นหมื่นล้าน หากสำรวจพบปิโตรเลียม ซึ่งคาดว่า จะสามารถสร้างผลประโยชน์ให้ประเทศได้ในหลายรูปแบบ อาทิ ค่าภาคหลวง ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม และส่วนแบ่งกำไร ตลอดจนสร้างประโยชน์ให้พี่น้องคนไทยผ่านการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น นับว่าเป็นสัญญาณที่ดีของอุตสาหกรรมสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศ สร้างความเชื่อมั่นของภาคการลงทุน รวมถึงการสร้างรายได้ให้กับประเทศ พัฒนาอาชีพให้คนไทย และการขับเคลื่อนการเจริญเติบโตให้แก่ภาคธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ทั้งธุรกิจเกี่ยวกับการสร้างแท่นผลิตปิโตรเลียม ธุรกิจร้านอาหาร โรงแรม รวมถึงภาคขนส่ง

...

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า สิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมทั้ง 3 แปลง อยู่บริเวณทะเลอ่าวไทย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้เคียงกับแนวท่อก๊าซที่มีอยู่เดิม และอยู่ใกล้กับพื้นที่ผลิตหลักที่ปัจจุบันมีการผลิตก๊าซธรรมชาติ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมต่อไปได้ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังเน้นย้ำให้การยื่นขอสิทธิเพื่อสำรวจแหล่งพลังงานในครั้งนี้จะเป็นไปตามขั้นตอน และกระทำอย่างเปิดเผย และโปร่งใส โดยยึดมั่นในผลประโยชน์ต่อประชาชน และประเทศชาติเป็นหลัก เพื่อเป็นการนำทรัพยากรของประเทศ มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด