"บิ๊กตู่" ชี้ เงินเฟ้อไทยไม่ได้สูงสุดในโลก อย่าบิดเบือน เผย จัดอยู่ในกลุ่มต่ำสุด ยัน เศรษฐกิจอยู่ช่วงฟื้นฟูอย่างช้าๆ ไม่ถือว่าชะลอ หวังไตรมาส 2-3 ตัวเลขนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น และจะดูดีขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อเวลา 15.35 น. วันที่ 23 พ.ค. 65 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้อยากพูดถึงเรื่องเศรษฐกิจสักนิด ในช่วง 3-4 เดือนของปีที่เศรษฐกิจเราโต 2.2 เปอร์เซ็นต์ ปัจจัยสำคัญดูจากการใช้จ่ายของประชาชนเพิ่มขึ้น 3.9 เปอร์เซ็นต์ ส่วนหนึ่งมาจากโครงการของรัฐบาลที่ส่งงบประมาณเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นในการดูแลมาตรการคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน และอื่นๆ การส่งออกเติบโตได้ 12 เปอร์เซ็นต์ นักท่องเที่ยวปัจจุบันที่เข้าประเทศหลังจากยกเลิกเทสต์แอนด์โกไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 18 พ.ค. จำนวน 1.02 ล้านคน ขณะเดียวกันทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยประเมินไว้แล้วว่าปีนึงน่าจะได้ถึง 7 ล้านคน ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือมีสถานการณ์โควิดอะไรมาเพิ่มเติม การลงทุนภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 2.9 เปอร์เซ็นต์ การลงทุนภาครัฐอยู่ในช่วงไตรมาส 2 ของการเบิกจ่ายงบประมาณ เพราะเป็นช่วงเริ่มการก่อสร้าง หลังจากลงนามในสัญญาโครงการไตรมาส 1 ส่วนเรื่องเงินเฟ้อหลายคนเป็นห่วง รัฐบาลเองก็เป็นห่วงใน 2 ปัจจัย คือ ราคาน้ำมัน ซึ่งเป็นต้นทุนค่าขนส่ง รัฐบาลก็ช่วยตรงนั้นไปแล้ว ราคาหมวดอาหารใช้มาตรการลดภาษีสรรพสามิต ภาษีศุลกากรต่างๆ เพื่อช่วยเหลือต้นทุนการขายปลีก โดยให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณาดำเนินการตามพันธหน้าที่
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มันก็เดือดร้อนทั้งหมด ทุกประเทศเดือดร้อนเหมือนกันหมด ของเราเดือดร้อนรัฐบาลก็ดูแลอย่างเต็มที่ ส่วนกำลังซื้อภาคประชาชนค่าเงินบาทอ่อนตัว ฉะนั้นเป็นประโยชน์ต่อการส่งออกของเรา โดยเฉพาะสินค้าด้านการเกษตรปีนี้ราคาดี ไม่ว่าจะเป็นยาง ปาล์ม ข้าวโพด ข้าวยังทรงๆ อยู่ เพราะมีซัพพลายล้นตลาด จากข้าวที่ราคาต่ำกว่าที่อื่น ส่วนกำลังซื้อภาคชนบทก็กำลังดี ดูจากยอดขายและอื่นๆ อีกหลายอย่างด้วยกัน ถ้าจะมองเศรษฐกิจของเราตอนนี้ถือว่า อยู่ในช่วงฟื้นฟูอย่างช้าๆ ไม่ถือว่าชะลอ ถ้าเทียบตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 มาเราต้องรักษาสมดุลตรงนี้ไว้ได้ เพื่อทำให้เศรษฐกิจเติบโตต่อเนื่อง ผู้ทำงานจะมีรายได้เพิ่มขึ้น จากเคยโดนลดเงินเดือนค่าจ้างในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เราพยายามจะรักษาระดับเงินเฟ้อให้ต่ำกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเงินเฟ้อของเรามีคนไปพูดบิดเบือนว่า เรามากกว่าเขา เงินเฟ้อเราไม่ได้สูงที่สุดในโลก แต่เราอยู่ในกลุ่มที่ต่ำสุด และเราจะต้องกำกับดูแลราคาสินค้าในท้องตลาดให้ได้มากที่สุด เรื่องดอกเบี้ยนโยบายต่างๆ ทางธนาคารกำลังพิจารณาเพื่อพิจารณาตามความเหมาะสม 4 เดือนแรกเรายังคงมีเงินลงทุนโดยตรงเดือนละประมาณ 4 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตามในไตรมาส 2 และ 3 เราจำเป็นต้องเร่งผ่อนคลายมาตรการโควิดเพื่อดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาให้มาก รวมถึงนักท่องเที่ยวในประเทศเราด้วย ซึ่งยังพอมีเวลาตั้งแต่เวลานี้จนถึงช่วงไฮซีซั่นปลายปี โดยหลายเรื่องเราได้ดำเนินการไป
...
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ถ้าดูตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยกว่าล้านคน ส่งผลให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวไตรมาสแรกในปี 65 น่าจะเพิ่ม 2,000 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเดิมไม่มี ตัวเลขเป็นศูนย์ ฉะนั้นตัวนี้ก็ดูสูงดี แต่ก็น่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ รายได้เพิ่มขึ้นถึง 1.4 พันเปอร์เซ็นต์ มองตัวเลขดูดีมากๆ ถ้าเปรียบกับที่มันดรอป ก็ขอให้เข้าใจร่วมกัน วันนี้สถานการณ์โควิดยังมีแนวโน้มคงที่จึงต้องนำมาพิจารณา.