จะเอาฮาไปถึงไหนที่แน่ๆดูจากสีหน้าแววตาท่าทีของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ยังขำไม่ออก บอกปัดไปข้างหน้าก่อนเลย ไม่หือไม่อือกับมุกที่ “แรมโบ้” นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกฯ ประกาศไขก๊อกจากค่ายพลังประชารัฐกอดคอกับ ร.ต.ปรพล อดิเรกสาร ทีมงานฝ่าย เสธ.ตึกไทยฯ ไปปักหลัก ร่วมก่ออิฐโบกปูนตั้งพรรคใหม่หนุนท่านผู้นำ ในจังหวะเดียวกับเพจไอโอเชียร์ “บิ๊กตู่” เชิดฉิ่งโหมโรงค่าย “รวมไทยสร้างชาติ”

ปักหมุดให้กองเชียร์รู้ตำบลที่ตั้งป้อมค่ายใหม่ของทีมเชิด พล.อ.ประยุทธ์

นั่นเท่ากับเปิดไต๋ แบต้นทุนหน้าตัก มีแต่เหรียญสลึง เหรียญห้าสิบสตางค์ พรรครวมไทยสร้างชาติ ฐานรองอำนาจของผู้นำ เริ่มออกตัวแบบ “มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท”

โอกาสจะดันถึงหลักสิบยังเหนื่อย ไม่ต้องพูดถึงหลักร้อย

เทียบฟอร์มกันชัดๆแค่กับทีมกบฏของคู่อาฆาตอย่าง “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ขน ส.ส.20 กว่าหัว แหกค่ายพลังประชารัฐ ออกมาตั้งรังใหม่ พรรคเศรษฐกิจไทย

ต้นทุนประเดิมด้วยแบงก์ห้าร้อย แบงก์พัน หน้าตักหนาไม่อั้น

ประชันกันก็รู้ผลตั้งแต่หงายไพ่ใบแรกเลย ทีมแห่ “บิ๊กตู่” มีแต่เสียง ไม่มีแต้ม ถ้าแยกไปตั้งป้อมค่ายใหม่ เริ่มจากสลึงไม่ถึงบาท แทบไม่ต้องหวังเลยว่าจะเป็นพรรคใหญ่ เหมือนตั้งค่ายพลังประชารัฐรอบแรก

ที่สำคัญชื่อของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็เรียกแขกไม่ได้เหมือนเก่า

เดาทาง ถ้ายังคิดจะลุ้นลากเกมอำนาจ ทำแฮตทริกนายกฯ รอบสาม “บิ๊กตู่” ก็ต้องปักหมุดอยู่ค่ายพลังประชารัฐต่อไป เล่นเชิงวัดดวงวัดใจกับ “พี่ใหญ่” อย่าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

...

ตามไฟต์บังคับร่วม รวมกันเราอยู่ แยกกันอยู่ตายเดี่ยว

และแน่นอน ด้วยฟอร์มเขี้ยว “พี่ใหญ่” ก็ต้องขี่คอ “น้องเล็ก” ตามสภาพไปไหนไม่รอด

แต่โดยสถานะ “เตี้ยอุ้มค่อม” อย่างที่เห็น ล่าสุด “บิ๊กป้อม” ก็ยังกล้าประกาศกลางวงประชุมพรรค พปชร. เลือกตั้งรอบหน้าจะกวาด ส.ส.150 เสียง

ไม่ต้องถามว่าไปเอาความมั่นใจมาจากไหน

เบื้องต้นเลยมันอ่านไต๋ง่ายๆ “พี่ใหญ่” ต้องเบ่งกล้ามโชว์พลังไฮเพาเวอร์

รวบอำนาจการจัดการ ด้านหนึ่งก็ล็อกค่ายพลังประชารัฐเป็นฐานบัญชาการใหญ่ ปะผุ ซ่อมแซมนั่งร้านเดิม วางขายสินค้าเก่าเล่ายี่ห้อ “บิ๊กตู่” ต่อไป เพราะไม่มีตัวสินค้าใหม่ที่ดีกว่า

แต่อาศัยโปรโมชัน แจกแหลก แถมแหลกจากตู้เสบียงหลายสิบขบวน ที่ตุนกล้วย เก็บกระสุนดินดำไว้ยิงได้ไม่อั้น

ขณะเดียวกันก็มีขบวนการ “อุ้ม” คนเข้าพรรค อย่างที่ พล.อ.ประวิตรทำการเปิดตัวนายชาติชาย พยุหนาวีชัย อดีตผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ร่วมทีมเศรษฐกิจค่ายพลังประชารัฐพร้อมๆกับยุทธการ “เตะตัดขา” สกัดดาวรุ่ง

แบบที่อยู่ๆนายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส. กทม.พรรคพลังประชารัฐ ก็เล่นบทผีหัวขาด ลุกขึ้นมาขู่ หลอกหลอนนายอุตตม สาวนายน อดีตขุนคลัง ว่าที่หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย กับนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ว่าที่เลขาพรรค “สอคท.” อย่าออกตัวแรงเกินไป

ให้ระวังปมเซ็นรับรองให้นายสิระที่ต้องโทษโดนขังคุก ลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส.

ส่ออาการ “ไอ้โม่ง” ทีมอำนาจ 3 ป. ยัง “หึง” ทีมของ “ดร. สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” กลัวความแรงของพรรคใหม่ป้ายแดงยี่ห้อ “สร้างอนาคตไทย” ตัดแต้มพลังประชารัฐ ใน กทม.และเขตหัวเมืองใหญ่

ผวาอดีตคนกันเอง มากกว่าขั้วตรงข้าม “บิ๊กป้อม” ขยับจัดการทัพ รับศึกนอก พร้อมเคลียร์ศึกใน

แต่โจทย์ยากสุดเลยก็คือเกม “ปาหี่ระดับโลก” ลากทีมกบฏ ดึงพรรคเศรษฐกิจไทยของ “ผู้กองนัส” กลับมาร่วมรัฐบาล ชูมือหนุน “บิ๊กตู่” แลกกับโควตารัฐมนตรี

ตามเหลี่ยมเล่นแต้มสูง ทีม “กบฏผู้กอง” เปิดเกมเรียกเก้าอี้ มท.1 รองก้น “พี่ใหญ่” แทน “พี่รอง” อย่าง “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย

ช่างรู้ใจ “บิ๊กบราเธอร์” จริงๆ ร.อ.ธรรมนัส โชว์ความแสบ โอนแต้มให้ พล.อ.ประวิตร กดดันข้ามค่าย

“เหยียบตีน” กันเล่น ให้ “พี่รอง-น้องเล็ก” เห็นกันจะจะ.

ทีมข่าวการเมือง