“อนุทิน” เผย ทูตสหรัฐฯ ชมไทย สื่อสารโควิด-19 โปร่งใส ช่วยคุมโรคมีประสิทธิภาพ ชี้ ศบค.ยังไม่หารือเรื่องการปลดล็อก 100% อย่างที่เป็นข่าว รับ สธ. เริ่มกังวลหลังยอดติดเชื้อแตะหลักหมื่น
วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระบุว่า ตอนนี้เริ่มมีความกังวล หลังจากที่ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ขยับไปแตะหลักหมื่น แต่ขอย้ำว่า สถานการณ์อยู่ในจุดที่กระทรวงสาธารณสุขคาดเดาไว้แล้ว เนื่องจากเชื้อโอมิครอนนั้นติดง่าย แต่ความรุนแรงน้อยกว่าเชื้อตัวอื่นเช่นกัน ยิ่งเมื่อคนไทยได้รับวัคซีน ตัวเลขการป่วยหนัก และเสียชีวิต ก็ยิ่งลดลงไปอีก ยกตัวอย่าง เมื่อเดือนธันวาคม 2564 ประเทศไทย มียอดผู้ติดเชื้อรายวันที่ 3.5 พัน – 4 พันคน แต่อัตราการเสียชีวิต ก็เท่ากับปัจจุบัน ที่มียอดการติดเชื้อวันละ 1 หมื่นคนเศษ โดยกลุ่มผู้เสียชีวิตนั้น ภาพรวมคือ ผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนไปจนถึงกลุ่ม 608 (1. กลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป 2. กลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว 7 โรค คือ โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง, โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคไตวายเรื้อรัง, โรคหลอดเลือดสมอง, โรคอ้วน, โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน 3. กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป) ทางกระทรวงสาธารณสุข เข้าใจสถานการณ์ และได้พยายามควบคุมการระบาดอย่างเต็มความสามารถ
เมื่อถามว่า หลังจากยอดผู้ป่วยหนัก ลดลงจะมีการคลายล็อกเพิ่มเติมหรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า เท่าที่ทราบ ที่ประชุม ศบค.ยังไม่หารือเรื่องการปลดล็อก 100% อย่างที่เป็นข่าว เพราะวันนี้มียอดการติดเชื้ออยู่ เราต้องไม่ประมาท อย่างไรก็ตามประเทศไทย ถือว่าควบคุมโรคได้ดี และมีประสิทธิภาพ ส่วนสำคัญ เพราะเราฉีดวัคซีนได้ถึงเป้า และประชาชนให้ความร่วมมือ ต้องขอขอบคุณประชาชนเป็นอย่างยิ่งที่มาฉีดวัคซีน ซึ่งรัฐจัดหามาให้ ไปจนถึงยกการ์ด ใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องชื่นชมคือ การทำหน้าที่ของแพทย์ พยาบาล และบุคลากรสาธารณสุข นอกจากนั้น ประเทศยังมีการเตรียมพร้อมเรื่องการรักษา ที่เท่าทันโรค ระบบการกักตัวที่บ้าน ช่วยให้สามารถจัดการกับสถานการณ์ได้ดี
...
“ผมเพิ่งได้หารือกับท่านทูตสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด ท่านกล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่นานาชาติเห็นชัด ในการดำเนินการของไทย คือ เราให้ข้อมูลอย่างโปร่งใส ตรงไป ตรงมา ดังนั้น อย่ากังวลว่าเราจะปกปิดข้อมูล เพราะเราก็คาดหวังจะให้ประชาชนช่วยกับรัฐ ป้องกัน จัดการโรคระบาดเช่นกัน เราจึงเปิดเผยข้อมูลอย่างครบถ้วน เพื่อทำให้สังคม เกิดการตระหนักรู้ เข้าใจ รู้ทันเหตุการณ์ สำหรับเรื่องวัคซีน เราจัดหามาทันใช้ ตามแผนที่วางไว้ ที่ต้องหามามาก เพราะมีทั้งเข็ม 1 เข็ม 2 เข็มบูสเตอร์ การให้บริการเราคำนึงถึงประสิทธิภาพ และความปลอดภัย จะไม่มีเรื่องของวัคซีนด้อยประสิทธิภาพ เพราะค้างสต๊อกแน่นอน”