ผู้ช่วยโฆษก ศบค. ชี้ ปลายเดือน ม.ค. ถึง ก.พ. วัคซีนไฟเซอร์เด็ก 5-11 ปี ทยอยเข้าไทย ย้ำนำสูตรผู้ใหญ่มาฉีดแทนโดยลดปริมาณไม่ได้ ส่วนวัคซีนเชื้อตายอยู่ในขั้นดำเนินการ

วันที่ 12 ม.ค. 2565 แพทย์หญิงสุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวในช่วงหนึ่งของการแถลงข่าวถึงความคืบหน้าการฉีดวัคซีนให้กับเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป

ทั้งนี้ ข้อมูลจากกระทรวงศึกษาธิการ จากจำนวนนักเรียนทั้งหมด 5,148,710 คน ประสงค์ฉีดวัคซีน 4,317,33 คน หรือคิดเป็น 3.85% แบ่งเป็นการฉีดเข็มที่ 1 แล้ว 4,102, 827 คน หรือ 95.03% และเข็มที่ 2 ฉีดแล้ว 3,040,726 คน หรือ 70.43% ทั้งนี้ การพบผู้ติดเชื้อในโรงเรียนไม่จำเป็นต้องปิดทั้งโรงเรียน เพราะจะทำให้กระทบต่อการศึกษาของนักเรียนและนักศึกษา แต่ให้ดำเนินตามแผนเผชิญเหตุ

...

ส่วนการฉีดวัคซีนอายุ 5-11 ปี แพทย์หญิงสุมนี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้อนุมัติให้ใช้วัคซีนไฟเซอร์ในเด็ก 5-11 ปีแล้ว หรือ วัคซีนโคเมอร์เนตี (Comirnaty Vaccine) ซึ่งวัคซีนที่ใช้ในเด็กอายุช่วงดังกล่าวจะเป็นฝาสีส้ม จะต่างจากวัคซีนไฟเซอร์ที่ใช้ในผู้ใหญ่คือฝาสีม่วง ในเด็กนั้นจะใช้วัคซีนที่ 10 ไมโครกรัมต่อโดส ในผู้ใหญ่ใช้ 30 ไมโครกรัมต่อโดส

ดังนั้น หากนำวัคซีนของผู้ใหญ่มาแบ่งเป็น 3 โดส โดสละ 10 ไมโครกรัม เพื่อที่จะฉีดให้เด็กนั้น ใช้ทดแทนกันไม่ได้ ในเด็กต้องใช้แบบฝาสีส้มเท่านั้น ส่วนเด็กโตขึ้นไปและผู้ใหญ่ต้องใช้ในสูตรที่เป็นฝาสีม่วง 30 ไมโครกรัม ขอย้ำว่าแทนกันไม่ได้ ในส่วนของวัคซีนเด็กฝาสีส้มจะเริ่มทยอยเข้าไทยในช่วงปลายเดือน ม.ค.นี้ หรือเต็มที่ก็จะภายในเดือน ก.พ. จะเข้ามา ถือว่าเร็วมาก เพราะวัคซีนเด็กตอนนี้เป็นที่ต้องการของทั่วโลก

อีกทั้ง ประเทศไทยตอนนี้ถือว่าเป็นประเทศอันดับ 2 ในทวีปเอเชียที่ได้วัคซีนเด็ก ซึ่งตอนนี้มีการเตรียมแผนในการฉีดวัคซีนเด็กอายุ 5-11 ปีแล้ว โดยจะฉีดไล่จากเด็กอายุ 11 ปีลงมา ซึ่งได้มีการเตรียมการเรียบร้อยแล้ว

ส่วนคำถามว่าบางส่วนอยากรอวัคซีนเชื้อตายเพราะมีความกังวลเรื่องการฉีดในเด็กอายุน้อยนั้น แพทย์หญิงสุมนี ตอบว่า วัคซีนเชื้อตายทั้งซิโนแวคและซิโนฟาร์ม คณะอนุกรรมการอาหารและยา กำลังเร่งขึ้นทะเบียนวัคซีนเชื้อตาย นอกจากนี้ ยังต้องรอผ่านมติคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันด้วย ขณะนี้กำลังทำคู่ขนานกันไป เมื่อผ่านแล้วผู้ปกครองจะสามารถเลือกสูตรในการฉีดวัคซีนให้กับบุตรหลานได้ด้วยความสมัครใจ ตอนนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ.