"รุ้ง ปนัสยา" กรีดข้อมือเป็นเลข 112 หลั่งเลือด หลังอ่านแถลงการณ์ของทางกลุ่ม ให้ยกเลิก ม.112 และปล่อยแกนนำม็อบ ด้าน "สมยศ" อ่านแถลงการณ์ของเพนกวิน ให้หยุดใช้กฎหมายนี้กลั่นแกล้งใครอีก

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 31 ต.ค. 2564 ที่แยกราชประสงค์ นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข อดีตผู้ต้องหาคดีม. 112 ขึ้นกล่าวบนเวที ระบุว่า ที่บูธของ iLaw มีคนเข้าชื่อเพื่อยกเลิกม. 112 แล้ว 2,500 คน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อนำไปสู่ 1 ล้านรายชื่อ พร้อมอ่านแถลงการณ์ของ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน เกี่ยวกับการยกเลิก ม.112 เพื่อให้สถาบันกษัตริย์อยู่อย่างสากล และเพื่อไม่ให้มีใครใช้มาตรานี้มากลั่นแกล้งใครได้อีก รวมถึงปลดปล่อยเผด็จการไปสู่ประชาธิปไตย เพื่อไม่ให้มีใครถูกคุมขังจาก ม.112 อีกต่อไป และเรียกร้องขอให้ปล่อยตัวแกนนำและเพนกวินออกจากการถูกจับกุม

จากนั้นเวลา 18.21 น. น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง ได้ขึ้นเวทีเพื่ออ่านแถลงการณ์ของราษฎรประสงค์ โดยได้เชิญแกนนำจากกลุ่มต่างๆ อาทิ iLaw, เฟมินิสต์ปลดแอก, ทะลุฟ้า และกลุ่มอื่นๆ ในเครือข่าย ในนามคณะราษฎรรณรงค์ยกเลิก 112 หรือ ครย. ระบุว่า ตั้งแต่ปี 2563 ที่ทางกลุ่มคณะราษฎรได้เรียกร้อง 3 ข้อ คือ

1.ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะต้องลาออก
2.ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
3.ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์

นอกจากนี้ยังระบุว่า การวิพากษ์วิจารณ์ของกลุ่มคนที่เกิดขึ้น เพื่อให้นำไปสู่การแก้ไข แต่คนเหล่านั้นกลับถูก ม.112 จับคุมขัง ซึ่งปัจจุบันมีประชาชนถูกดำเนินคดีใน ม.112 มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ถึง 160 คดี เช่น เพนกวิน ที่ถูกดำเนินคดีถึง 21 คดี และยังถูกคุมขังอยู่ในปัจจุบัน ทำให้เห็นได้ว่า กฎหมาย ม.112 นั้นล้าหลัง และเป็นเครื่องมือในการรักษาอำนาจของอภิสิทธิ์ชน จึงขอให้ประชาชนร่วมกันยกเลิกมาตราดังกล่าว

...

นอกจากนี้ทาง ครย. จึงขอเรียกร้องให้คืนสิทธิประกันตัว ปลดปล่อยตัวแกนนำทุกคน และแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา เพื่อยกเลิก ม.112 โดยทางกลุ่มจะร่วมผนึกกำลัง ทุกกลุ่มอาชีพ และจะใช้แรงกายแรงใจเพื่อเข้าชื่อเสนอยกเลิกกฎหมายฉบับดังกล่าว พร้อมขอให้มวลชนสู้ไปด้วยกันจนกว่าข้อเรียกร้องจะสำเร็จ

ทั้งนี้ รุ้ง ปนัสยา ได้กรีดเลือดที่ข้อแขนของตนเองเป็นเลข 112 พร้อมชู 3 นิ้ว และกล่าวว่า ศักดินาจงพินาจ ประชาราษฎร์จงเจริญ

จากนั้น แกนนำคนอื่นๆได้ขึ้นมาปราศรัย เกี่ยวกับกฎหมาย ม.112 ต่อ

ภาพ : วัชรชัย คล้ายพงษ์