“บิ๊กตู่” ยกทีมตรวจน้ำท่วมชัยภูมิ เจอดีมีทั้งรักทั้งชังตะโกน “สู้ๆ-ออกไป” พ.อ.สุชาติ หัวหน้าทีมภาคใต้ สลัดทิ้ง พปชร.จับมือ “บิ๊กฉิ่ง” ตั้งพรรคใหม่ หนุน “ประยุทธ์” เป็นนายกฯต่อ จ่อดึง ส.ส.ย้ายยกพวง ฟุ้งต้องเป็นพรรคใหญ่เท่านั้น “จุรินทร์” ฉุนจัดถูก “ป้อม” ยึดอำนาจไป 4 หน่วยงาน ส.ส.ปชป.ถกเดือดไม่พอใจ “เทพไท” ซัดเสียมารยาท ฝ่ายค้านยื่น ป.ป.ช.ฟันนายกฯ-รมต. รอจังหวะยื่นตีความนายกฯ 8 ปี “ไพบูลย์” โบ้ยนายกฯพิจารณาเอง ห่วงไม่ทูลเกล้าฯร่างแก้ไข รธน.อาจผิดได้

จับตาสถานการณ์ความขัดแย้งกลุ่ม 3 ป. ส่อใกล้จะแตกหัก เมื่อ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล อดีต ประธานยุทธศาสตร์ภาคใต้ พรรคพลังประชารัฐ เพื่อนร่วมรุ่น ตท.12 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ยืนยันจับมือนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย จัดตั้งพรรคใหม่พร้อมชูจุดขาย “บิ๊กตู่” เป็นนายกฯต่อ

“ตู่” ควง “ป๊อก” ตรวจน้ำชัยภูมิ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 ก.ย. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กทม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายก รัฐมนตรี นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม และนายบุญธรรม เลิศสุขเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์อุทกภัยที่ จ.ชัยภูมิ มี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ กว่า 20 คนจากหลายจังหวัด ทั้ง กทม. นครราชสีมา ชัยภูมิ กำแพงเพชร นครสวรรค์ พิษณุโลก พิจิตร ขอนแก่น ร่วมต้อนรับ

...

ทั้งรักทั้งชังตะโกน “สู้ๆ-ออกไป”

ทั้งนี้ ช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวกับชาวบ้านที่มารับว่า วันนี้ต้องเข้มแข็งตั้งหลักให้ดี รัฐบาลพร้อมดูแล ขอเพียงอย่าสร้างความขัดแย้ง ใครจะรัก ใครจะชอบไม่ว่า แต่อยากให้รักประเทศผืนแผ่นดินของท่าน ท่ามกลางเสียงตะโกนให้ “นายกฯสู้ๆ ลุงตู่สู้ๆ” แต่มีมวลชนกลุ่มหนึ่งมาชูป้ายไล่ พร้อมตะโกนว่า “มาทำไม ประยุทธ์ออกไป” จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์นำคณะไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลชัยภูมิ เพื่อให้กำลังใจและมอบสิ่งของจำเป็น ต่อมาขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปยังวัดชัยชนะวิหาร (วัดบ้านละหาน) ต.ละหาน อ.จัตุรัส ระหว่างทางมีประชาชนมารอรับ และตะโกนให้กำลังใจว่า “ลุงตู่สู้ๆ รักคุณลุง จะเป็นกำลังใจให้ อย่าท้อๆ สู้มัน สู้มัน”

ทีมภาคใต้ส่อสละเรือ พปชร.

วันเดียวกัน เพจเฟซบุ๊กกลุ่มสีขาวบริสุทธิ์ หยุดสีเทา ทีมงาน พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล อดีตประธานยุทธศาสตร์ภาคใต้ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ ข้อความระบุว่า ความสำเร็จในการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา ภาคใต้ภายใต้การนำทัพของ พ.อ.สุชาติ จันทร์โชติกุล ประสบความสำเร็จล้นหลาม ต้นเดือนหน้าจะชัดเจนมากขึ้นเรื่องพรรคใหม่ตามที่สื่อเสนอว่า มีปลัดฉิ่ง (นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย) ที่กำลังจะเกษียณอายุราชการ 30 ก.ย. ผลักดัน ตนไม่ได้ช่วยงานพรรคพลังประชารัฐแน่นอนในการเลือกตั้งครั้งหน้า เตรียมเรียกทีมงานหารือวางแผนการทำงานในพื้นที่ มั่นใจว่าในภาคใต้ความนิยมในตัวนายกฯไม่ได้ลดลง

จ่อดึงทีม ส.ส.ยกพวงไปด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.อ.สุชาติเป็นเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 12 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็น 1 ในผู้ก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ เป็นขุนพลคนสำคัญในการเลือกตั้งปี 2562 ที่ได้ ส.ส.เขตภาคใต้ 13 คน ขณะที่พรรคใหม่ที่จะเข้าสังกัดมีนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นแกนนำ และจะเปิดตัวหลังนายฉัตรชัยเกษียณอายุราชการวันที่ 30 ก.ย. โดยพรรคใหม่ได้รับการสนับสนุนจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และ พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อถ่วงดุลกับพรรคพลังประชารัฐ และอาจมี ส.ส.พปชร.ในภาคใต้หลายคนย้ายตามมาด้วย

ร่วมทีม “ปลัดฉิ่ง” ตั้งพรรคใหม่

พ.อ.สุชาติให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า พรรคใหม่ที่จะไปสังกัดนั้น เป็นไปตามที่มีข่าว คือมีนายฉัตรชัย พรหมเลิศ เป็นผู้ดำเนินการด้านธุรการให้เกิดขึ้น เชื่อว่าผู้ก่อตั้งพรรคใหม่จะรอบคอบในการบริหารจัดการ เมื่อถามว่าได้ชักชวน ส.ส.ภาคใต้ ไปร่วมงานบ้างหรือไม่ พ.อ.สุชาติตอบว่า คงไม่ไปชวน ถ้าจะมาอยู่ด้วยกันก็ได้ เราต้องเปิดโอกาสให้ทุกคนมีทางเลือก ถ้าไม่มาก็ไม่ว่ากัน เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับนายกฯในฐานะเพื่อนหรือไม่ พ.อ.สุชาติตอบว่า เคยคุยกันเมื่อตอนต้นปี แจ้งไปว่าจะไม่ขออยู่กับ พปชร.แล้ว และได้รับคำตอบกลับมาว่าถ้าไม่อยู่ก็หาพรรคใหม่สังกัด ไม่ได้คุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. มานานแล้ว

ฟุ้งต้องเป็นพรรคใหญ่เท่านั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถูกมองว่าเป็นการแยกเพื่อถ่วงดุล พปชร. พ.อ.สุชาติตอบว่า ยอมรับว่า พปชร.มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ คนที่ชอบก็อยู่ไป พรรคใหม่ที่ไปไม่ใช่พรรคสำรองตามข่าว หากแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบสำเร็จ การเป็นพรรคสำรองให้ใครคงทำไม่ได้ ถ้าตั้งเป็นพรรคขนาดเล็กก็ตาย เป็นพรรคขนาดกลางก็ลุ้นได้ ส.ส. 50/50 ดังนั้นพรรคที่ตั้งขึ้นใหม่ต้องเป็นพรรคขนาดใหญ่สถานเดียว คนที่มาเป็นหัวหน้าพรรค และผู้บริหารพรรคต้องขายได้ เป็นที่ยอมรับ ถ้าชาวบ้านไม่เชื่อถือก็จบ มีผลถึง ส.ส.และสมาชิกพรรค เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่าพรรคใหม่มีหัวหน้าและผู้บริหารเป็นที่ยอมรับของประชาชน พ.อ.สุชาติตอบว่า ต้องเป็นเช่นนั้น ต้องบริหารงานสอดรับความต้องการกับกระแสคนในพื้นที่ เมื่อถามว่าคะแนนนิยมของ พปชร.ในการเลือกตั้งครั้งหน้าอาจไม่นิยมเหมือนเดิม จึงต้องตั้งพรรคใหม่ พ.อ.สุชาติรีบแย้งว่า ไม่จริง พล.อ.ประยุทธ์อยู่พรรคไหนพรรคนั้นไปได้ คนส่วนใหญ่ยังสนับสนุนท่านอยู่ มองว่าการเลือกตั้งคราวหน้าก็เป็นเรื่องยากของ พปชร.เช่นกัน เวลานี้คนมองที่ตัวของนายกฯไม่ใช่ที่พรรค

“จุรินทร์” ฉุน “ป้อม” ยึดอำนาจ

ที่กระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการมอบอำนาจให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ กำกับดูแล 4 หน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า รู้สึกเห็นใจพรรคพลังประชารัฐที่ต้องแก้ปัญหาภายใน ให้กำลังใจมาตลอด เพียงแต่การแก้ปัญหาควรจะยุติที่พลังประชารัฐ ไม่ควรไปกระทบถึงส่วนอื่นหรือพรรคอื่น ไม่เช่นนั้นอาจกลายเป็นแก้ปัญหาหนึ่งแล้วไปสร้างอีกปัญหาหนึ่งโดยไม่จำเป็น ได้สื่อสารให้นายกฯรับทราบแล้ว คิดว่าจะคลี่คลายไปได้ เมื่อถามย้ำว่าจะนำไปสู่การยึดคืนกระทรวงเกษตรฯจากพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายจุรินทร์ตอบว่า ไม่ทราบ เรื่องนี้ไม่เคยได้คุยกัน

ส.ส.ปชป.ถกเดือดไม่พอใจ

ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรี ธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ไม่ทราบว่านายกฯได้ปรึกษากับใครก่อนออกคำสั่งดังกล่าวหรือไม่ ทีมกฎหมายนายกฯได้ศึกษาความถูกต้อง และมารยาทการเมืองด้วยหรือไม่ มีสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์หลายคนพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ทุกคนแปลกใจกับคำสั่งดังกล่าว และรู้สึกไม่สบายใจ เสมือนไม่ให้เกียรติกัน และมีการแสดงความเห็นในกลุ่มไลน์ ส.ส. และอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 160 คนกันหลายคน ทั้งนี้ ตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดินมาตรา 11 (2) (3) จะเห็นว่าการมอบรองนายกฯกำกับหน่วยงานระดับกรมกระทำมิได้ เพราะกรมขึ้นกับรัฐมนตรีว่าการ คำสั่งเช่นนี้ไม่เคยมีมาก่อน และไม่น่าจะถูกต้องทั้งทางกฎหมาย และมารยาทการร่วมรัฐบาลผสม

ฝ่ายค้านยื่น ป.ป.ช.ฟันนายกฯ-รมต.

ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้าน มีแกนนำเข้าร่วมพร้อมเพรียง อาทิ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย นายประเสริฐกล่าวหลังการประชุมว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านร่วมลงนามยื่นเรื่องร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในวันที่ 4 ต.ค. เพื่อเอาผิดนายกฯกับรัฐมนตรี หลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ

รอจังหวะยื่นสอย “ตู่” นายกฯ 8 ปี

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปมปัญหาการดำรงตำแหน่งของนายกฯตามรัฐธรรมนูญมาตรา 158 ระบุชัดว่านายกฯจะดำรงตำแหน่งรวมกันเกิน 8 ปีไม่ได้ ความจริงแทบไม่ต้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพราะชัดเจนในตัวเอง ฝ่ายค้านตีความต้องนับตั้งแต่ดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.2557 และบทเฉพาะกาลมาตรา 264 ยังระบุว่า ครม.ที่เป็น ครม.อยู่ก่อนรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ให้เป็นรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แต่การยื่นร้องถ้ายังไม่มีเหตุเกิดขึ้นศาลคงไม่รับไว้ ฝ่ายค้านจึงไม่ยื่นตอนนี้ แต่ขอตั้งข้อสังเกตหากฝ่ายรัฐบาลชิงยื่นตีความก่อน จะเป็นการฟอกตัวนายกฯหรือไม่ เชื่อว่าถ้ายื่นจริงมีแนวโน้มว่าศาลจะรับคำร้องไว้แน่ เพราะเคยมีกรณีนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร. ยื่นวินิจฉัยแก้ไขรัฐธรรมนูญมาแล้ว

เย้ยยุค “พี่โทนี่-ลุงตู่” ต่างกันลิบ

น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า “พี่โทนี่เวิร์กฟรอมดูไบ (นายทักษิณ ชินวัตร) พูดในคลับเฮาส์แนะหนทางแก้ปัญหาประเทศ แต่นายกฯไม่เคยนำมาปรับใช้ วิธีการของ พล.อ.ประยุทธ์คือกู้เงินมาแจก คนที่รับเงินคือการนำมรดกลูกหลานในอนาคตไปใช้แล้ว ลูกหลานอีกสองสามรุ่นต้องหาเงินไปใช้หนี้ การเพิ่มเพดานเงินกู้เป็น 70% เปรียบเสมือนคนมีรายได้ต่ำแต่ไปกู้สูง ไม่ได้คิดเรื่องการใช้หนี้ ถ้ายังอยู่ต่อคงเพิ่มไปถึง 80% สมัยพี่โทนี่บริหารประเทศ ทำตัวเลขจีดีพีโตถึง 7.1% ในปี 2546 เฉลี่ยเวลาที่อยู่บริหาร 6 ปี โตปีละ 5% ต่างกันลิบกับสมัย พล.อ.ประยุทธ์ที่ติดลบถล่มทลาย ไม่รู้จะหาเหตุมาอ้างเพื่ออยู่เกิน 8 ปีทางไหนได้อีก สรุปคือถ้าไม่มีการยึดอำนาจจากรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประชาชนคงไม่ได้เผชิญกับนายกฯชื่อประยุทธ์ จันทร์โอชา

“ไพบูลย์” ให้ “บิ๊กตู่” พิจารณาเอง

อีกเรื่อง นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า กรณีฝ่ายค้านพยายามยื่นตีความวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ขอแสดงความเห็น แม้พรรค พปชร. เป็นพรรคที่เสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ มองเป็นเรื่องที่นายกฯจะใช้ดุลพินิจพิจารณา ถามความเห็นฝ่ายกฎหมายรัฐบาล คือนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ หากจะมีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก็สามารถทำได้

ห่วงนายกฯไม่ทูลเกล้าฯ รธน.

นายไพบูลย์ในฐานะอดีตประธานกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และ 91 เกี่ยวกับระบบเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณีมีผู้ยื่น เรื่องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐ ธรรมนูญตีความร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินจะรับหรือไม่รับพิจารณาก็ได้ หากผู้ตรวจการ แผ่นดินไม่ดำเนินการภายใน 60 วัน คณะผู้ยื่นสามารถยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ กรณีดังกล่าว ไม่มีเหตุยับยั้งขั้นตอนที่นายกฯต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯภายใน 5 วันหลังจากรับร่างมาจากประธานรัฐสภา หากไม่ทำจะถือว่ากระทำขัดต่อรัฐธรรมนูญ

พท.ร้องจับเฟกนิวส์ลดบำนาญ

ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนสมาชิกพรรค และ น.ส. อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรค เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ปอท. ให้ดำเนินคดีกับผู้เผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จ ใส่ร้ายนายสุทินและพรรคเพื่อไทย ผ่านเฟซบุ๊กและแอปพลิเคชันไลน์ อ้างว่าพรรคเพื่อไทยเสนอให้ลดเงินบำนาญข้าราชการ ซึ่งไม่เป็นความจริง นายสุทินกล่าวว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กและแอปพลิเคชันไลน์ดังกล่าว พยายามเผยแพร่เนื้อหาข้อความโจมตีพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมฝ่ายค้าน บิดเบือนสาระสำคัญจากการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯปี 63 ใส่ร้ายว่าเสนอให้ลดหรือยกเลิกเงินบำนาญข้าราชการ